Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

MV Agusta เดินหน้าผลิตหลังพ้นวิกฤต COVID-19

MV Agusta เดินหน้าผลิต Brutale 1000RR ต่อหลังพ้นวิกฤต COVID-19

เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้งหลังจากที่การระบาดของเชื้อ CORONAVIRUS ที่เป็นต้นกำเนิดของโรคระบาด COVID-19 ในประเทศอิตาลีเริ่มดีขึ้น จนหลายๆกิจการกลับมาดำเนินธุรกิจได้ใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติ หนึ่งในนั้นก็คือ MV Agusta แบรนด์ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชื่อดังจากประเทศอิตาลีเองก็กลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้ง โดยมีโมเดลเรือธงอย่าง Brutale และ Dargster เป็นโมเดลชูโรงเช่นเคย

MV Agusta Brutale 1000 RR (10)

จากการระบาดของ COVID-19 ทำให้ภาครัฐต้องออกคำสั่งให้ลดกิจกรรมการพบปะของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะงานประเภทที่ต้องพึ่งพากำลังคนเป็นหลัก ซึ่ง MV Agusta เองถึงแม้ว่าจะใช้เครื่องจักรในการขึ้นรูปชิ้นส่วนต่างๆ แต่ก็ต้องพึ่งพากำลังจากมนุษย์ในการประกอบขึ้นมาเป็นคัน ทำให้ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ที่ขาดตลาดไป ในช่วงที่พักการผลิตไปนั่นเอง ล่าสุดหลังเหตุการณ์กลับมาใกล้เคียงกับสถานการ์ปกติและภาครัฐก็อนุญาตให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกคิแต่ก็ยังมีข้อปฎิบัติที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการระบาดซ้ำสอง MV Agusta เองก็กลับมาเดินหน้าผลิตรถมอเตอร์ไซค์กันอีกครั้ง

MV Agusta Brutale 1000 RR (3)

โดยก่อนหน้าจะเกิดการ Lockdown ในประเทศอิตาลีนั้น MV Agusta เองก็กำลังเร่งการผลิตเจ้า Brutale Series ORO รถมอเตอร์ไซค์โมเดลพิเศษที่จัดว่าเป็นขั้นสุดของทางค่าย โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพที่สูงกว่ารุ่นมาตรฐานแต่ก็มีราคาค่าตัวที่สูงลิ่ว อีกทั้งยังผลิตในจำนวนที่จำกัดเพียง 300 คันทั่วโลก ซึ่งมันก็ใช้พื้นฐานดั่งเดิมมาจาก Brutale 1000RR โมเดลสปอร์ตเนกเกตยอดนิยมของทางแบรนด์ มาเป็นฐานในการพัฒนา

MV Agusta Brutale 1000 RR (5)

หากจะมองไปถึงประสิทธิภาพและสเปกระหว่าง Series ORO และโมเดลมาตรฐานนั้น แทบจะไม่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้งานเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี 4 ลูกสูบเรียง ให้กำลังสูงสุด 208 แรงม้า (BHP) ที่ 13,000 รอบต่อนาที โดยมีฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ที่ทันสมัยครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นระบบ Luanch Control ระบบ Traction Control ระบบ Front Lift Control ที่ทำงานควบคู่ไปกับแกน IMU ทำให้สามารถปรับค่าการทำงานได้อย่างละเอียด รวมไปถึงคันเร่งไฟฟ้าที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Sport, Race, Rain และ Custom Modes ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปิดปิดและปรับค่าการทำงานของระบบต่างๆได้อย่างอิสระ และยังมีระบบ Quick-Shifter ที่ช่วยในการเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทซ์ทั้งเพิ่มและลดเกียร์ ผนวกกับระบบความปลอดภัย Bosch ABS 9+ ที่สามารถทำงานได้ในโหมด Race หรือจะปิดการทำงานของระบบเพื่อลงขี่ในสนามแข่งก็ยังได้

MV Agusta Brutale 1000 RR (4)

MV Agusta Brutalee 1000RR ยังมีระบบช่วงล่างที่ทันสมัย โดยใช้ระบบกันสะเทือนหน้าหลังจากแบรนด์ Ohlins โดยด้านหน้าจะใช้รุ่น NIX ปรับด้วยไฟฟ้าสามารถปรับแต่ระดับ การยืดตัวคืนตัว ได้อย่างรวดเร็ว และโช้คอัพหลังเดี่ยว TTX ที่นิยมเป็นอย่างมากในการใช้งานในตัวรถที่เน้นการขับขี่แบบสปอร์ต ระบบเบรก มั่นใจกับแบรนด์ Brembo รุ่น Stylema ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถูกบรรจุอยู่ในตัวท๊อปอย่าง Series ORO ทุกประการ

MV Agusta Brutale 1000 RR (12)

MV Agusta ตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ให้ได้ปีล่ะมากกว่า 20,000 คัน ซึ่งในปัจจุบันนั้นการกลับมาทำการผลิตได้ใกล้เคียงกับปกตินั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ด้วยแนวทางการผลิตที่ปราณีตใส่ใจในทุกๆรายละเอียดและตัวผลิตภัณฑ์เองก็มีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าราคาจำหน่ายในประเทศไทยจะมีค่าตัวที่สูงอยู่ไม่น้อย แต่ก็มีแฟนคลับที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์อิตาเลี่ยนแท้ๆ ของแบรนด์ MV Agusta อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk