Banner-Yamaha-Motorshow-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Motorshow-2024-400x300.gif

Image result for steed 400

 

ไบค์เกอร์รุ่นกลางหลายๆ คนน่าจะพอรู้จักเจ้าครูเซอร์คันนี้กันไม่มากก็น้อย หากเราย้อนหลังกลับไปประมาณ 20 ปีที่แล้วนั้นชื่อของ Honda Steed 400 คือรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกยกย่องว่ามีรูปทรงที่สวยงามและขุมกำลังที่มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม

Honda Steed 400 โมเดลล่าสุดก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2002 มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 398 ซีซี 2 สูบ V แบบ OHC (Overhead Cams) 4 จังหวะ 3 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์ ความกว้างกระบอกสูบxช่วงชักอยู่ที่ 64 x 62 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.3:1 ให้แรงม้าสูงสุดที่ 31 Hp ที่ 7500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 33 นิวตันเมตรที่ 6000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 5 สปีด

Image result for steed 400

โครงสร้างตัวถังแบบ Double Candle ระบบช่วงล่างของ Steed 400 ด้านหน้าแบบ Telescopic ด้านหลัง Monoshock ที่ซ่อนอยู่ใต้เบาะนั่ง สวิงอาร์มแบบโครงท่อสองฝั่ง ระบบเบรกหน้าดิสก์เดี่ยว ระบบเบรกหลัง Expanding Brake ขนาดยางหน้า 100/90-19 575 ขนาดยางหลัง 170/80-15 MC 775 มิติตัวรถมีความกว้าง 890 มิลลิเมตร ความยาว 2310 มิลลิเมตร ความสูงเบาะนั่งปรับได้ต่ำสุดที่ 670 มิลลิเมตร ถังน้ำมันจุได้ 11 ลิตร น้ำหนักโดยรวม 203 กิโลกรัม

Image result for steed 400

จุดเด่นของ Honda Steed 400
จุดเด่นแรกเลยคือการออกแบบ มีความโฉบเฉี่ยวมากๆ (ในยุคนั้น) มีความคล้ายคลึงกับรถครูเซอร์ค่ายดังจากอเมริกัน ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันครึ่งต่อครึ่ง ด้วยความเหมือนนี้เลยมีหลายคนที่นำเอา Steed 400 คันนี้ไปทำการตกแต่งเพิ่มเติมกันอย่างกว้างขวาง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของเครื่องยนต์ที่ในยุคนั้นเครื่องยนต์สูบ V พิกัด 400 ซีซี นั้นไม่ค่อยมีให้เห็นกันในรถญี่ปุ่นมากเท่าไหร่ ด้วยเครื่องยนต์แบบสูบวี มันจะมีเสียงการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่เลือกใช้หม้อน้ำที่มีขนาดใหญ่มากด้วยเช่นกัน

Image result for steed 400

ในช่วงที่ Honda Steed 400 เริ่มวางตลาดในระดับสากลในปี 1998 ประเทศไทยก็มีการนำเข้ามาขายเหมือนกันแต่มีจำนวนที่จำกัดอย่างมาก ซึ่งพอจะหารถที่มีทะเบียนแบบเล่มแท้ สภาพดีนั้นก็ยากพอสมควร แตกต่างกับรถที่ทำการจดประกอบหรือรถอินวอยซ์ซะเป็นส่วนมาก ซึ่งยังพอจะหาได้ในตลาดของรถมือสอง โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 50,000 – 150,000 บาทแล้วแต่สภาพการใช้งาน เพื่อนๆ ที่สนใจก็ยังพอสามารถหาได้อยู่ครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikez.com   www.ultimatespecs.com

Banner-Yamaha-Safe--Save-2024-400x300.jpeg