Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

บทวิเคราะห์ Honda CB400 รุ่นใหม่

บทมวิเคราะห์ Honda CB400 รุ่นใหม่

ยังคงเป็นกระแสที่ร้อนแรงในประเทศญี่ปุ่น หลังจาก Honda ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัทร่วมทุนในประเทศจีน เพื่อพัฒนา Honda CBR500R รถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบ สำหรับตลาดประเทศจีน และจะมีการนำกลับมาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อ CBR400R Four และด้วยการมีอยู่ของโมเดลใหม่นี้ ทำให้สื่อหลายๆสำนัก คาดเดากันไปต่างๆนาๆ เกี่ยวกับยุคใหม่ของสปอร์ตเนกเกตอย่าง CB400

iwm4zu.jpeg

โดยสื่อเจ้าเก่าอย่าง Young Machine ได้ลงบทความเกี่ยวกับการวิเคราะห์โมเดลใหม่ของ Honda CB400 ที่กำลังเป็นกระแส แต่ไม่ได้วิเคราะห์ขึ้นมาแบบลอยๆ แต่ได้ร่วมมือกับอดีตนักพัฒนายานยนต์ของญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วม 30 ปี มาให้ข้อเท็จจริงและความเป็นไปได้ของโมเดลใหม่นี้อีกด้วย

iwm3s3.jpeg
โครงสร้างปัจจุบันของ Honda CB400SF/SB

โดยผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจหลายเรื่อง โดยหนึ่งในนั้น จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของโครงสร้างหลักของตัวรถ โดยโมเดลปัจจุบันของ CB400SF/SB จะมีโครงสร้างหลักเป็นแบบ double cradle ที่เป็นท่อเหล็กล้อมรอบเครื่องยนต์ แต่บนโมเดลใหม่ที่กำลังจะมานั้น คาดว่าจะใช้โครงสร้างหลักแบบ diamond frame ซึ่งเป็นชุดโครงสร้างแบบเดียวกับที่พบบน CB650R ซึ่งทำให้โครงสร้างเฟรมเรียบง่ายขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์เป็นชิ้นส่วนที่ยึดบนตัวถัง ทำให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น

iwm6Fl.jpeg
โครงสร้างหลักของ Honda CB650R

โดยส่วนหนึ่งแล้ว เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างเดิมของ CB400SF/SB ที่เป็นเหล็กท่อนั้น ค่อนข้างจะมีปัญหาในเรื่องของน้ำหนัก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการควบคุม ซึ่งการเปลี่ยนโครงสร้างใหม่เป็นแบบ diamond frame ที่เป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักที่เบากว่า จะช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักที่เบากว่า อีกทั้งยังสามารถกำหนดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถได้ง่ายกว่า ซึ่งจะช่วยลดปัญหาของการควบคุมที่ต้องการความคล่องตัว ในการพลิกซ้ายขวาไปมา ซึ่งมันสอดคล้องกับลักษณะโดยรวมของตัวรถที่เน้นการใช้งานในเขตเมืองและชานเมือง ที่มักพบเจอกับการจารจรที่หนาแน่น

iwmyYt.jpeg

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ “เครื่องยนต์” ชัดเจนว่า CB400SF/SB นั้นเลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2022 ด้วยปัญหาของการกำหนดค่าเอาท์พุดที่ไม่สอดคล้องกับระเบียบไอเสียใหม่ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อย่าง Minoru Kato หัวหน้าฝ่ายรถสองล้อของ Honda เคยกล่าวไว้ว่า “เราประสบปัญหาในการพัฒนา 400 แต่เราสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับข้อมูลจำเพาะได้ ดังนั้นก็ไม่มีปัญหา” นั่นก็หมายความแบบง่ายๆ ว่า ตัวเครื่องยนต์มาถึงทางตัน ไม่สามารถพัฒนาไปต่อได้แล้ว ดังนั้นเครื่องยนต์ที่จะมาพร้อมกับ CB400 รุ่นใหม่ จึงคาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด

iwm1nN.jpeg

แต่การมาถึงของ Kawasaki Ninja ZX-4R ที่เป็นรูปแบบของสปอร์ตเรฟพลิก้านั้น ก็อาจจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ความจุต่ำกว่า 400 ซีซี ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูง เพื่อการรีดกำลังของเครื่องยนต์ ซึ่งเครื่องยนต์ของ Kawasaki นั้น จะสร้างกำลังได้มากถึง 77 แรงม้า (hp) แต่ใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงถึง 12,500 รอบต่อนาที ซึ่งมันไม่เหมาะกับการใช้งานบนท้องถนนสักเท่าไหร่ อีกทั้งแรงบิดสูงสุดที่สร้างได้ ยังทำได้เพียง 35.9 นิวตันเมตร และต้องใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงถึง 11,000 รอบต่อนาที โดยภาพรวมแล้วเครื่องยนต์ชุดนี้เหมาะมากกับการใช้งานในสนามแข่ง แต่ถ้าเอามาใช้งานบนท้องถนนจริงๆจังๆ ผู้ขับขี่อาจจะต้องรีดกันเหนื่อยสักหน่อย

iwmjAa.png

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่า “หากเน้นที่ความสมดุล ก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันในระดับเดียวกับ ดังนั้นบรรทัดฐานที่สร้างโดยเครื่องยนต์ของ Ninja ZX-4R อาจจะแตกต่างออกไปบนเครื่องยนต์ของ CB400 รุ่นใหม่ จากข้อมูลเดิมของ CB400SF/SB รุ่นสุดท้ายเมื่อปี 2022 นั้น เครื่องยนต์ 399 ซีซี 4 ลูกสูบเรียง จะมีกำลังสูงสุด 53 แรงม้า (hp) โดยใช้รอบเครื่องยนต์ที่ 10,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 40.1 นิวตันเมตรทมี่ 7,500 รอบต่อนาที คาดว่าเครื่องยนต์ใหม่ของ CB400 จะมีกำลังสูงสุดที่ 58-60 แรงม้า (hp) และแรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร โดยใช้รอบเครื่องยนต์ที่เท่ากับรุ่นเดิม แต่ถ้ามองในมุมที่กว้างขึ้น หากผลิตภัณฑ์ใหม่ จะไม่ถูกจำกัดให้จำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่น แต่มีเป้าหมายเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าอย่างตลาดยุโรป กำลังของเครื่องยนต์อาจจะลดลงมาอยู่ที่ข้อจำกัดของใบอนุญาตขับขี่แบบ A2 ที่ 44.6 แรงม้า (bhp) หากถามว่ามันพอหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า มันเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วล่ะ

iwmpaP.jpeg

สุดท้าย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ยังไม่มีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการของผู้พัฒนา ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา อาจจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทั้งหมดของตัวรถ และจนกว่าเราจะทราบข้อมูลที่แท้จริงของตัวรถ ก็คงต้องรอให้ทางผู้พัฒนาเอ่ยปากออกมาอย่างชัดเจน แต่อย่างไงคาดหวังว่าตัวรถจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะอย่างเร็วที่สุดที่เราจะได้เห็นตัวรถ ก็ราวๆปลายปี 2025 หรืออาจจะช้ากว่านั้นก็เป็นไปได้

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com

blank