Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เปิดตัว All New Yamaha XRide 125 2018 (หรือ TTX ในประเทศไทย) อย่างเป็นทางการ

xride

เมื่อวันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในงาน Jakarta Fair ในประเทศอินโดนีเซีย ทาง PT Yamaha Indonesia Motor Manufacturing (YIMM) ได้ทำการเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์โมเดลใหม่ล่าสุดอย่าง All New Yamaha Xride 2018 (ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยเราก็เคยจำหน่ายในชื่อโมเดลว่า TTX 115) โดยมาพร้อมกับ 4 สี 2 สไตล์ และฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย เราลองไปดูรายละเอียดด้วยกัน

Yamaha X-Ride Adventure

blank

สไตล์แรกจะเป็นรถในสไตล์ Adventure ซึ่งให้การออกแบบที่รู้สึกถึงความอิสระและท้าทาย มาพร้อมกับสี  Dynamic Blue (น้ำเงิน-ขาว) และ Freedom White (ขาว-ส้ม)

Yamaha X-ride Urban Style

blank

สำหรับสไตล์แบบ Urban หรือใช้งานในเมืองเป็นหลักนั้น ให้ความรู้สึกถึงความกระฉับกระเฉงและทันสมัย มาพร้อมกับ 2 สีอย่าง Exclusive Black (ดำ) Attractive Red (แดง-ดำ)

โดย All New Yamaha XRide 125 นั้นมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากทางค่ายในยุคนี้ หลังจากครั้งแรกมันได้เปิดตัวกันไปในปี 2013 ด้วยขนาดเครื่องยนต์ 115cc (และวางขายในประเทศไทยด้วยชื่อ TTX 115) แต่มาถึงในปี 2017 ทางค่ายก็ได้เปิดตัวรถ concept ของ XRide คันใหม่ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัว XRide 125 อย่างเป็นทางการอย่างที่เราเห็นกันนี้ โดยจะต้องรับว่าเป็นเจเนเรชั่นที่ 2 ของตระกูลนี้ ซึ่งตัวรถ All New XRide 125 นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 125cc แบบ Blue Core ระบายความร้อนด้วยอากาศ ซึ่งรถ XRide คันใหม่นั้นใช้เครื่องยนต์เดียวกันกับตระกูล Mio และ Fino คันล่าสุดนั่นเอง

และฟีเจอร์ที่โดดเด่นสำหรับ All New XRide 125 นั้นก็คือระบบอย่าง Answer Back System ที่จะช่วยให้เราค้นหารถได้ง่ายขึ้นเวลาที่จอดในลานจอดกว้างๆ หรือลืมว่าจอดไว้บริเวณไหน ส่วนเบาะนั่งนั้นเป็นแบบเบาะเรียบ แฮนด์รถนั้นเป็นสไตล์แบบรถเนกเกต ระบบไฟนั้นเป็นแบบ LED พ่วงมากับไฟ Day Running Light (DRL) ที่ให้ความสว่างเป็นพิเศษ และมีไฟผ่าหมากติดตั้งมาให้ด้วย หน้าจอแสดงผลนั้นมีการวัดระดับ eco หรือระดับการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงด้วย ในขณะที่หน้ายางของรถนั้นได้รับการปรับปรุงและทดสอบแล้วว่า มันจะให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการขับขี่กับสเปกยางหน้า 80 / 80-14M / C 43P และยางหลัง 100 / 70-14M / C 51P แบบทูบเลส (ไม่มียางใน) ทั้งคู่ ส่วนโช้กอัพหลังนั้นยังมีการติดตั้งซับแทงค์มาให้อีกด้วย เพื่อความเสถียรในการขับขี่ยิ่งขึ้น

blank

สำหรับประเทศไทยเรานั้นก็ต้องรอลุ้นกันว่า มันจะเป็นรถรุ่นใหม่ของ TTX อย่าง All New TTX 125 แล้วเปิดตัวกันหรือไม่ ต้องรอติดตามกัน แต่ดูแล้วก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน สืบเนื่องจากโมเดลแรกก่อนหน้านี้ก็มีการทำตลาดกันในบ้านเรา ส่วนเรื่องของราคานั้นคาดว่าจะแพงกว่าโมเดลก่อนหน้านี้ไปประมาณหนึ่งอย่างแน่นอน ด้วยขนาดความจุของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นมา และฟีเจอร์ต่างๆ โดยที่อินโดนีเซียนั้นขายกันอยู่ที่ Rp 17.650.000 หรือประมาณ 40,700 บาท

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก warungasep.net