Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

Yamaha เลขสวย! กวาดยอดจองไป 1,111 คัน Motor Expo 2018

blank

สิ้นสุดงานมหกรรมยานยนต์อย่าง Motor Expo 2018 กันไปแล้ว และค่ายขวัญใจไบค์อย่าง Yamaha ก็กวาดยอดจองทะลุ 1,000 คันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ตัวเลขสวยงามไปที่ 1,111 คัน โดยในงานนี้ทางค่ายเองนั้นก็ได้ขนเอารถมอเตอร์ไซค์เด่นๆ หลากหลายรุ่นมาในงาน และแน่นอนว่าพระเอกที่โดดเด่นที่สุดในงานก็คือ All New MT-15 และ New YZF-R3 2019 นั่นเอง

47094279_2403157149714352_2937576155210842112_o

สำหรับ All New Yamaha MT-15 นั้น จะมีความแตกต่างจาก M-Slaz เดิมไปหลายจุดเลยทีเดียว โดยไฟหน้านั้นจะมีเป็นแบบสองดวงด้านบนแยกซ้ายขวาเป็นไฟหรี่ และมีตรงกลางด้านล่างเป็นไฟสูงและไฟต่ำ เบาะนั่งมาเป็นแบบตอนเดียวยกระดับ แน่นอนเมื่อเรามองภาพรวมของตัวรถแบบเต็มๆ คันแล้ว ถือว่ามันได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่อย่าง MT-09 ในหลายๆ จุดเลยทีเดียว และสาเหตุที่ทาง Yamaha เองนั้นเลือกใช้ชื่อรหัส MT-15 ก็เพื่อต้องการให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรถเนกเกตคันอื่นๆ จากทางค่ายที่วางขายกันทั่วโลกภายใต้รหัส MT นั่นเอง

46921951_2403157526380981_6291495754217291776_o

All New Yamaha MT-15 นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 155 cc 1 ลูกสูบแบบไดอะซิล 4 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 19 hp @ 8.900 rpm แรงบิดสูงสุด 14.7 Nm @ 7.000 rpm จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอัจฉริยะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปัจจัยสำคัญที่น่าจะกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนของเหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลาย ให้หันมาสนใจเจ้า All New Yamaha MT-15 คันใหม่นี้นั่นก็คือ VVA “Variable Valve Actuation” หรือระบบวาล์วแปรผัน ซึ่งระบบนี้ จะช่วยทำให้รถมีแรงบิดและกำลังของเครื่องยนต์มีสมรรถนะดี ทั้งช่วงความเร็วรอบต่ำ กลางและสูง เพราะโดยปกติแล้วรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไปย่อมมีข้อจำกัดหรือข้อด้อยอยู่ในตัวเช่นกัน เช่นเครื่องยนต์บางตัวมีสมรรถนะที่ดีในช่วงความเร็วรอบต่ำ แต่จะมีสมรรถนะน้อยลงเมื่อความเร็วรอบสูง หรือเครื่องยนต์ บางตัวมีสมรรถนะที่ดีในความเร็วรอบสูงแต่จะมีสมรรถนะไม่ดีในความเร็วรอบต่ำ แต่ระบบวาล์วแปรผันนี้ (VVA )จะทำได้ดี ทั้งรอบต่ำ, รอบกลางและรอบสูงนั่นเอง ท่อรถนั้นเป็นแบบท่อยาวออกข้าง ใบเดียวกันกับ R15 เวอร์ชั่นปัจจุบัน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่าง Assist & Slipper Clutch (ตัวป้องกันท้ายปัดขณะเปลี่ยนเกียร์แบบแรงๆ ), ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside Down สีทอง ขนาดยางหน้า 110 หลัง 140 เลือกใช้เฟรมเดลต้าบ๊อกซ์ ที่มีความแข็งแรงทนทาน, สวิงอาร์มอลูมิเนียมน้ำหนักเบา แฮนด์รถนั้นเป็นแบบแฮนด์บาร์ พร้อมกับการบาลานซ์น้ำหนักรถทั้งด้านหน้าและหลังที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้ตัวรถนั้นมีความคล่องตัวสูงมากๆ ยามใช้งานจริง เรียกได้ว่ามาตามแนวทางของรถสปอร์ตเนกเกตอย่างชัดเจนเต็มๆ คัน

kudip0.jpg

ส่วน New Yamaha YZF-R3 2019 นั้นถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตระกูล YZF-R3 ที่นับว่าเป็นเจนเนเรชั่นที่ 2 ซึ่งในเรื่องของรูปลักษณ์การออกแบบดีไซน์นั้น ในส่วนครึ่งหน้าของตัวรถได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่อย่าง YZF-R6 แบบเต็มๆ และระบบไฟมาเป็นแบบ LED แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะเป็นแบบฮาโลเจนมาก่อน รูปลักษณ์ของตัวรถยังคงเน้นการทำแอร์โร่ว์ไดนามิก และรูปลักษณ์ที่เฉียบคม มี DNA จากรถแข่งในสนามมาแบบเต็มๆ และอีกหนึ่งจุดที่ถือว่าสำคัญเอามากๆ ก็คือการใส่ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down ขนาด 37 mm ของ KYB มาให้ด้วย เป็นครั้งแรกของ R3 เลยก็ว่าได้

kudx4u.jpg

New Yamaha YZF-R3 2019 มาในเครื่องยนต์แบบ 321cc 2 สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ DOHC 4 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 42 PS ที่ 10,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 29.6 Nm ที่ 9,000 รอบต่อนาที จัดระเบิดแบบ TCI อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 11.2 : 1 ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 68.0 mm x 44.1 mm สำหรับชิลด์หน้าและการออกแบบไฟ LED ด้านหน้านั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก YZF-R1 ตัวแชสซีมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง และตัวรถมีความคล่องตัว บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตสูงมากๆ แฮนด์รถเป็นแฮนด์จับโช้คแบบใต้แผงคอ มีระบบเบรก ABS ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานเลย

ku07Uu.jpg

ตัวโครงสร้างและแฟร์ริ่งนั้นมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยโครงสร้างตัวถังนั้นจะยังคงใช้งานโครงสร้างแบบ Diamond Fame เหมือนโมเดลก่อนหน้านี้ ในส่วนของตัวยึดโช้คหลังเป็นแบบ Mono Shock เหมือนโมเดลก่อนหน้านี้ ส่วนของแฟร์ริ่งที่มีการคำนึงถึงหลักพลศาสตร์มากขึ้น โดยการออกแบบช่องลมด้านหน้าที่อ้างอิงมาจาก M1 รถแข่งใน MotoGP โดยช่องลมนี้จะช่วยในการกดส่วนหน้าของตัวรถและนำเอาลมเย็นลงไปช่วยระบายความร้อนตรงบริเวณหม้อน้ำ อีกทั้งชิลด์หน้ายังมีการปรับองศาใหม่ให้ทำการลู่ลมได้มากขึ้น เสริมและช่วยลดอาการปะทะของลมจากการขับขี่ในท่าทางการขับขี่ที่ Racing มากขึ้น และตรงนี้เองที่ส่งผลให้ความเร็วปลายหรือว่า Top Speed ของ New YZF-R3 คันใหม่นั้นเพิ่มขึ้นถึง 8 กม./ชม.

เรียกได้ว่าทาง Yamaha นั้นยังคงมีฐานแฟนๆ อย่างเหนียวแน่น จับตาดูหลังจากนี้ไปว่าทางค่ายเองจะมีโมเดลอะไรใหม่ๆ ออกมาให้พวกเราได้ตื่นตาตื่นใจกันอีก!!!