Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

All New Honda CBR300R และ CBR150R ลุ้นเต็มตัว เปิดตัวในไทยปี 2019

blank

(ภาพประกอบจาก CBR1000RR)

เรียกได้ว่าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว สำหรับรถสปอร์ตฟูลแฟริ่งในระดับ entry class จากทางค่ายปีกนก Honda ในตลาดประเทศไทยเรา และอาจจะต้องรวมไปถึงโกบอลโมเดลบางประเทศ ที่มีการนำเข้าจากประเทศไทยด้วย กับรถอย่าง All New Honda CBR300R และ All New CBR150R ที่คาดการณ์กันว่ามีแผนจะเปิดตลาดกันในช่วงปี 2019 ที่จะมาถึงนี้

blank

CBR650R

หากว่าเราสังเกตุจากปัจจุบันแล้ว การออกแบบดีไซน์ของตัวรถในตระกูล CBR นั้นมักจะมีการอ้างอิงมาจากพี่ใหญ่อย่าง CBR1000RR ในบางจุด แต่ชัดเจนมากที่สุดก็คือในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ไฟหน้า ที่น่าจะเป็นแบบไฟหน้าคู่ 2 ดวงแยกซ้ายขวา แบบ LED ซึ่งชัดเจนเอามากๆ ในการงานออกแบบของ New CBR650R คันล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวกันไป ดังนั้นแล้วกับ All New CBR300R และ CBR150R นั้นก็มีโอกาสมากๆ เช่นกันที่จะใช้ดีไซน์ในลักษณะนี้มาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งปกติแล้วงานออกแบบของ CBR300R และ CBR150R นั้นน่าจะเป็นไปในลักษณะเดียวกัน

3FT2fI.jpg

CBR300R เวอร์ชั่นปัจจุบัน

ส่วนในเรื่องของสเปกพื้นฐานนั้น All New CBR300R ก็เป็นไปได้สูงมากๆ ที่จะใช้พื้นฐานมาจาก CB300R Neo Sports Cafe ที่จะมาพร้อมกันกับขุมกำลังขนาด 286cc แบบ DOHC 4 วาล์ว 1 ลูกสูบ ขนาดกระบอกสูบและช่วงชักอยู่ที่ 76 x 63mm อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 10.7:1 ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ถ้าอ้างอิงตามสเปกเดิมของ CB300R นั้นตัวรถจะให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 31 ตัว และทอร์คสูงสุดที่ 27 นิวตันเมตร จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-Fi ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด โช้คอัพด้านหน้ามาแบบ USD (หัวกลับ) ขนาด 41mm เบรกหน้าเป็นแบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ จานเบรกเป็นแบบโฟลตติ้งดิสก์ และ ABS แบบ G-Sensor ในขณะที่ยางนั้นเป็นยางแบบเรเดียล และไม่แน่ว่าหน้าจอแสดงผลนั้นอาจจะมาในรูปแบบใหม่ ที่มีไฟบอกตำแหน่งเกียร์และไฟชิฟท์ไลท์มาด้วย

3CQzMl.jpg

ภาพ render ของ All New CBR150R จากทาง motoblast.org

ส่วน All New CBR150R นั้นก็น่าจะใช้พื้นฐานเดียวกันกับ CB150R Neo Sports Cafe มีเครื่องยนต์ขนาด 149 cc จำนวน 1 ลูกสูบ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำมีปริมาตรความจุกระบอกสูบและช่วงชักที่ 57.3 x 57.8 ระบบไฟรอบคันแบบ LED มีระบบเบรก ABS ที่ทำงานร่วมกับปั้มเบรก Radial Mount สำหรับรุ่น ABS และยังมีระบบ G-Sensor ติดมาให้ด้วย ในส่วนของระบบกันสะเทือนนั้นด้านหน้าจะเป็นแบบ Upside Down ขนาดใหญ่ 41 mm สวิงอาร์มด้านหลังเป็นแบบไลท์เวท ท่อเป็นแบบท่อปลายสั้นออกใต้เครื่อง เน้นจุดศูนย์ถ่วงในแนวดิ่ง หน้าจอแสดงผลเป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ มีไฟบอกเกียร์พร้อมกับไฟชิฟท์ไลฟ์ช่วยเตือนเวลาถึงจังหวะที่จะต้องเปลี่ยนเกียร์

จับตาดูกันให้ดี ภายในปี 2019 นี้ เชื่อว่าจะมีการขยับตัวครั้งสำคัญของค่ายปีกนกกับรถสปอร์ตแฟริ่ง ในระดับเอนทรี่คลาสแบบชัดเจน หลังจากที่ในปีนี้ประสบความสำเร็จกับรถบิ๊กไบค์ในระดับมิดเดิลคลาสกันไปแล้ว และคราวนี้น่าจะสมใจแฟนๆ ที่รอคอยกันมานานเสียที หลังจากที่ทั้ง CBR300R และ CBR150R นั้นไม่ได้มีการอัพเดทแบบ All New มานานมากๆ !!!