Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เปิดราคาของ All New CBR1000RR 2017 Fireblade เรียบร้อยแล้ว

Honda Fireblade SP2

สิ้นสุดการรอคอย หลังจากที่เจ้า All New CBR1000RR 2017 Fireblade ซึ่งเปิดตัวกันมาในช่วงปลายปีที่แล้ว มาถึงตอนนี้ก็ได้ฤกษ์ได้ยามเคาะราคากันออกมาอย่างเป็นทางการ งานนี้ก็เรียกได้ว่าไม่แตกต่างไปจากที่คาดการณ์กันไว้มากนัก เราลองมาดูรายละเอียดราคาของรุ่นแยกย่อยในแต่ละรุ่นด้วยกันเลยดีกว่าครับ

สำหรับราคาในรุ่นพื้นฐาน (standard) นั้นอยู่ที่ £15,225 หรือเทียบเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 660,000 บาท และสำหรับรุ่น SP version จะอยู่ที่ £19,125 หรือประมาณ 835,000 บาท และตัวท็อปสุดอย่าง SP2 version นั้นราคายังไม่คอนเฟิร์มออกมา แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ £22,000 หรือราวๆ 960,000 บาทเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้เป็นราคาที่วางจำหน่ายกันในฝั่งยุโรป ในขณะที่คู่แข่งคนสำคัญอย่าง Yamaha YZF-R1 นั้นราคาเริ่มต้นอยู่ที่ £15,599 หรือประมาณ 680,000 บาท ส่วนตัวท็อปอย่าง R1M นั้นอยู่ที่ £19,399 หรือราวๆ 847,000 บาท สำหรับที่ขายกันในฝั่งยุโรป แต่ราคาที่ขายในบ้านเรานั้นอยู่ที่ 899,000 บาท และ 1,199,000 บาทตามลำดับ ตรงนี้เราจะต้องดูอีกทีว่าทาง Honda Big Wing บ้านเราจะตั้งราคาขายของเจ้า All New CBR1000RR 2017 Fireblade กันอยู่ที่เท่าไหร่

2017 Honda CBR1000RR SP

ที่นี้เราลองกลับมาดูความแตกต่างกันของแต่ละรุ่นย่อย และสเปคพื้นฐานต่างๆ ของเจ้า All New CBR1000RR 2017 Fireblade กันดีกว่า อย่างทีแจ้งราคาไปข้างต้นว่าเจ้า All New Honda CBR1000RR 2017 FIRE BLADE นั้นคราวนี้มาด้วยกันอยู่ 3 เวอร์ชั่น นั่นก็คือ Standard, SP version และ SP2 version ที่เป็นแบบ track-spec ที่ใช้วัสดุและส่วนประกอบบางอย่างมาจาก Honda RC213V รถสำหรับใช้แข่งขันในรายการ MotoGP นั่นเอง ในส่วนของการดีไซน์นั้นตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงกันใหม่แทบจะทุกจุดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงในการออกแบบ ล้อแม็กส์แบบใหม่ และท่อไทเทเนียมแบบใหม่ก็มีความแข็งแกร่งแต่ให้น้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ความสูงของเบาะนั้นอยู่ที่ 831mm สำหรับตัวโครงรถและเฟรมนั้นก็มีการปรับให้กระชับมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวสำหรับการใช้งาน จุดศูนย์ถ่วงรถถูกวางมาต่ำ ทำให้เวลาเข้าโค้งหนักๆ นั้นทำได้อย่างง่ายดาย น้ำหนักตัวโดยรวมของ All New CBR1000RR Fire Blade 2017 นั้นเบากว่าโฉมปัจจุบันถึง 14 กก. ด้วยกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว เพราะเหมือนกับว่ารถบิ๊กไบค์ในยุคปัจจุบันจะแข่งกันที่เรื่องการรีดน้ำหนักด้วย

2017 Honda CBR1000RR SP

พื้นฐานของทุกรุ่นนั้นตัวเครื่องยนต์นั้นมีขนาด 998cc แบบ 4 สูบเรียงซึ่งจะให้ขุมกำลังและอัตราเร่งที่ดีที่สุดในย่านความเร็วกลางถึงปลาย ตามสไตล์รถแข่งในแนวสปอร์ตเรพิลก้าเต็มตัว โดยแรงม้านั้นมีการอีพเกรดมากกว่าเดิมถึง 11 ตัวด้วยกัน ทำให้วัดได้ที่ 189 ตัว (สำหรับสเปคของทางฝั่งยุโรป) ทำให้เรดไลน์นั้นขยับไปที่ 13,000 รอบต่อนาที ในขณะที่ระบบคันเร่งนั้นเป็นแบบ ride-by-wire (คันเร่งไฟฟ้า) แบบใหม่ และยังมีออพชั่นอย่างระบบวัดความเฉื่อยของตัวรถที่มีถึง 5 แกนด้วยกัน คำนวนการทำงานด้วยระบบ ECU อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือทอร์คของรถนั้นสามารถปรับระดับได้ถึง 9 ระดับด้วยกัน ทำให้เราสามารถเลือกได้เลยว่าต้องการแรงบิดขนาดไหน ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงด้วย และแน่นอนว่าระบบป้องกันล้อหมุนฟรีอย่าง traction control ก็ต้องมีติดรถมาให้

2017 Honda CBR1000RR SP

สำหรับระบบเบรก ABS และป้องกันล้อหลังลอยนั้นก็มีมาให้เป็นมาตรฐานเลย รวมไปถึงระบบ quickshifter ที่จะช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัทช์ และ slipper clutch ที่จะช่วยให้เอนจิ้นเบรกไม่มากระทบกับการหมุนของล้อหลังก็มีมาให้ด้วย ตรงนี้เหมาะกับรถที่มีกำลังเยอะอย่างเจ้า All New CBR1000RR Fire Blade 2017 มากๆ ในขณะที่ระบบช่วงล่างนั้นเป็นแบบ semi-active ของ Ohlins ที่เซ็ทมาให้เหมาะสมกับรถแนวสปอร์ตมากที่สุด ที่จะซับแรงได้อย่างเหมาะสมที่สุด กับการขับขี่ในทางเรียบและการเข้าโค้งหนักๆ

2017 Honda CBR1000RR SP

สำหรับเวอร์ชั่นพิเศษอย่าง SP2 จะมีบอดี้รถเป็นแบบคาร์บอน, ล้อสีทองของ Marchesini ที่ลดความเฉื่อยลงมากกว่าปกติถึง 18% สำหรับล้อหน้าและ 9% สำหรับล้อหลัง ในขณะที่เส้นผ่านศูนย์กลางของลิ้นไอดีในเวอร์ชั่นนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าปกติรวมไปถึงท่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะส่งผลให้อัตราเร่งและความเร็วปลายนั้นมากขึ้นกว่าเดิม และอย่างที่เกริ่นไปว่าสามารถใช้ชุดแต่งหรืออะไหล่ร่วมกันกับ RC213V ได้เลยในหลายๆ จุด ทำให้เราสามารถตกแต่งจนมีความใกล้เคียงกับรถ MotoGP เต็มตัวได้ เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีการเปิดตัวและรับจองกันในบ้านเราอย่างเป็นทางการ มาลุ้นกันอีกครั้งว่าราคาของทุกเวอร์ชั่นนั้นจะถูกวางมาที่เท่าไหร่กันแน่ ทาง GreatBiker จะมาอัพเดทกันในโอกาสต่อไปอย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Honda visordown.com cycleworld.com