Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

WSBK2019 4 สนามกับชัยชนะ 100% ของ Alvaro Bautista

blank

ผ่านการแข่งขันมาแล้ว 4 สนาม 8 Race กับอีก 3 Super Pole Race (รอบการแข่งที่ Assen ถูกยกเลิก) กับการแข่งขันมอเตอณืไซค์ทางเรียบโปรดักชั่นชิงแชมป์โลกรายการ WSBK2019 ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าชัยชนะจากทุกการแข่งขันนั้นตกเป็นของ Alvaro Bautista นักบิดสเปนของทีม Aruba.it Ducati ชนิดที่เรียกได้เลยว่าไร้คู่ต่อสู้อย่างแท้จริง วันนี้เราจะมาช่วยกันวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้ชัยชนะแบบ 100% นี้ตกอยู่ในมือของ Ducati กันครับ

การก้าวลงมาจากจุดสูงสุด

w7S868.jpg

เป็นที่ทราบกันดีว่า Alvaro Bautista นักเป็นนักแข่งในรายการ MotoGP มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 2002 ในระดับ 125 ซีซีกับทีม Aprilia และสามารถคว้าแชมป์โลกในระดับ 125 ซีซีได้หนึ่งครั้งในปี 2005 กับต้นสังกัด Aprilia ก่อนจะขยับไปสู่ 250 ซีซี ซึ่งเจ้าตัวทำได้ดีที่สุดในอันดับรองแชมป์โลกในปี 2008 และขยับอีกครั้งสู่ MotoGP ในปี 2010 กับทีม Suzuki และมาดังเปรี้ยงเอาในปี 2012 ด้วยผลงานการคว้าอันดับที่ 5 เหนือ Valentino Rossi แชมป์โลก 9 สมัย และ Nicky Hayden แชมป์โลกในปี 2006 ก่อนที่จะพเนจรไปอยู่กับ Apilia และ Ducati และการตัดสินใจครั้งใหญ่ในการลดระดับจากการแข่งขันระดับสูงสุดลงมาในลีกรองอย่าง WorldSBK ในปี 2019 เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายที่ชัดเจนมากที่สุด

w7Srxz.jpg
Alvaro Bautista ในปี 2005 ที่คว้าแชมป์โลก 125 ซีซี

รถดีหรือคนขี่ดีกว่ากัน

w7Smze.jpg

หลายๆ คนอาจจะคิดว่า Ducati ปีนี้ได้รถใหม่ Panigale V4R ที่ถึงแม้ว่าสนามล่าสุดจะถูกทอนรอบเครื่องให้ต่ำลงมาแต่ก็ยังคงแรงกว่าใครอยู่ดี ตรงจุดนี้อยากให้มองภาพรวมกันก่อน Panigale V4R ในรายการ WSBK2019 นั้นมีด้วยกันทั้งสิ้น 4 คัน ประกอบแด้วยทีมโรงงานสองคัน Alvaro Bautista , Chaz Davies ทีมรอง Michael Ruben Rinaldi และทีมอิสระ Eugene Laverty ซึ่งทั้ง 4 คันล้วนแล้วแต่ได้รับการซัพพอร์ตที่ใกล้เคียงกัน แต่มีเพียง Chaz Davies เท่านั้นที่สามารถขึ้นโพเดียมที่สนาม Aragon ในอันดับที่สาม ทั้งสอง Race และเวลาเฉลี่ยของลำดับการเข้าเส้นชัยห่างกันอยู่ถึง 13.7 วินาที ดังนั้นแล้วจะยกให้ความแรงของรถที่แข่งอย่างเดียวก็คงไม่ได้ ต้องให้เครดิตกับผู้ขับขี่ด้วยถึงจะถูกต้อง

ราชากับบัลลังก์ที่สั่นสะเทือน

w7SVWR.jpg

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ชื่อของ Jonathan Rea ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมกนัก แต่หลังจากการคว้าแชมป์ WSBK ครั้งแรกในปี 2015 Jonathan Rea ก็โดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่เข้าร่วมรายการ WorlSBK ในปี 2009 กับทีม Honda เจ้าตัวทำได้ดีที่สุดในอันดับสามเมื่อปี 2014 ก่อนจะย้ายจากปีกนกมาอยู่กับยักษ์เขียว และสามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 4 สมัยซ้อน ซึ่งผลการแข่งขันที่แย่ที่สุดของเจ้าตัวคือการจบที่อันดับที่ 4 เพียงไม่กี่ครั้ง และไม่จบการแข่งขัน เพียง 6 ครั้งจาก 104 Race นั้นคือผลงานที่ยอดเยี่ยมหาใครเทียบได้เลย แต่ความยิ่งใหญ่ของ Jonathan Rea ก็เริ่มสั่นคลอนเมื่อการมาถึงของ Alvaro Bautista ที่มาถึงก็กวาดชัยชนะไปอย่างเรียบวุฒิ แต่เจ้าตัวก็ยังสามารถเกาะโพเดียมในทุกๆ การแข่งขันได้ และมีคะแนนสะสมตามหลังผู้นำอยู่ 53 คะแนน ซึ่งยังมีความหวังจาก 9 สนาม 18 Race และอีก 9 Super Pole Race เรียกได้ว่าประตูสู่การเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ของเจ้าตัวยังไม่ปิดสนิท 100% เสียทีเดียว

ม้ามืดที่น่าจับตา

w7SpeZ.jpg

เป็นใครไปไม่ได้นอกจากสองคู่หูทีม PATA Yamaha Worldsbk Team อย่าง Michael Van der Mark และ Alex Lowes ที่ทั้งสองทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมถึงแม้จะไม่ถึงกับคว้าอันดับหนึ่งได้แต่การทำคะแนนสะสมมายืนอยู่ในอันดับ Top 5 ได้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่างแน่นอน อีกหนึ่งนักแข่งรุ่นเก๋า Leon Haslam ถึงแม้ว่าจะมีวัยปาเข้าไปถึง 35 ปีแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังคงลวดลายนักแข่งรุ่นใหญ่ที่เชี่ยวสังเวียน WorldSBK และทำคะแนนสะสมอยู่ในอันดับที่ 5 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี รวมไปถึงนักแข่งที่พึ่งขยับจาก WorldSSP600 ขึ้นมารุ่นใหญ่อย่าง Sandro Contese เองก็ทำผลงานกับทีม GRT Yamaha WolrdSBK ทีมน้องใหม่ได้ดีกว่าที่คาดไว้

น่าผิดหวังตั้งแต่เริ่มต้น

w7SXK0.jpg

BMW Motorrad ถูกมองว่าเป็นไม้ประดับในรายการเมื่อปีที่ผ่านมาด้วยผลงานที่ดำดิ่งลงในหุบเหวของ Loris Baz นักแข่งฝรั่งเศสที่พิสูจน์แล้วว่าประสบการณ์ใน MotoGP อาจจะใช้ไม่ได้เมื่อทีมไม่ได้รับการซัพพอร์ตอย่างที่ถูกที่ควร แต่ในปีนี้ BMW Motorrad มาพร้อมกับอาวุธชิ้นใหม่ All New BMW S1000RR และได้นักแข่งตัวเก๋าที่กระหายความสำเร็จสูงสุดอย่าง Tom Sykes ที่หนีจากการเป็นพระรองของทีม KRT มาสู่อ้อมกอดของทีมใบพัดสีน้ำเงิน แต่ผลงานกลับไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ Tom Sykes อยู่ในอันดับกลางๆ สลับกับการขึ้นอยู่อันดับบนบ้าง โดยผลงานที่ดีที่สุดของ Tom Sykes คือการคว้าอันดับที่ 5 ในการแข่ง Race1 ที่สนาม Aragon ประเทศสเปน แต่นี้ยังไม่ใช่ความน่าผิดหวังขั้นสูงสุด สิ่งที่เรียกได้ว่าทำร้ายจิตใจแฟนคลับมากที่สุดคงจะเป็นผลงานของ 3 นักแข่ง Honda ที่ถึงแม้ว่าปีนี้ HRC จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทีม Moriwaki Althea Honda Team แต่ก็เป็นการช่วยเหลือแบบไม่เป็นทางการ ก็ไม่ส่งผลให้อันดับในตารางคะแนนสะสมจมอยู่ท้ายตาราง และเปลี่ยนจากการลุ้นแต้มในการแข่งขันเป็นการแข่งขันให้จบยังจะดีกว่า ตรงเรื่องนี้น่าจะเป็นการบ้านที่ Honda อาจจะต้องนำไปขบคิดเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในช่วงเวลาฤดูกาลปกติที่เหลือหรือจะแก้ไขในระยะยาวในฤดูกาลต่อๆ ไป

w7SGkI.png

w7SJOP.jpg

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนนะครับ อาจจะมีบางจุดบางข้อที่อาจจะไม่ถูกใจเพื่อนๆ หรือแฟนทีมที่ผมได้เขียนพาดพิงถึง คงต้องขออภัยมาไว้ ณ ที่ตรงนี้ด้วย แต่ถ้าหากเพื่อนๆมีความคิดเห็นที่อยากจะนำเสนอก็สามารถมาแชร์ความคิดกันได้ที่ Facebook Fanpage : GreatBiker.com พวกเรารออ่านความคิดเห็นเพื่อนๆ อยู่ครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.worldsbk.com