Banner Yamaha AEROX 2024 1150x250
Banner Yamaha AEROX 2024 400x300

เปิดตัว Voge 500AC ขุมกำลัง 471cc 2 สูบเรียง ใช้เครื่องจาก Honda!

blank

ทางแบรนด์ Voge ได้ทำการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง 500AC กันในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรถรุ่นนี้ยังมีแผนการสำหรับการทำตลาดในระดับสากลโกบอลโมเดลด้วย ซึ่งมันมีรายละเอียดของตัวรถที่น่าสนใจในหลายๆ จุดเลยทีเดียว เราลองไปดูด้วยกันครับ

Voge 500 AC 02

Voge เป็นแบรนด์ระดับ Premium จากผู้ผลิตสัญชาติจีนที่มีนามว่า Loncin โดยที่จะเน้นการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมด้วยนวัตกรรมและอุปกรณ์ติดตั้งบนตัวรถที่ทันสมัยและหรูหรา ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์หลักในชื่อเดียวกับผู้ผลิตอย่าง Loncin ที่เน้นการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในราคาที่จับต้องได้ง่าย ซึ่งเป็นแนวทางที่ทำให้แบรนด์ Loncin นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตลอด 10 ปีที่ดำเนินธุรกิจมา

Voge 500 AC 03

โดยโมเดลล่าสุดของ Voge นั้น จะมาในแนวทางเนกเกตสปอร์ตภายใต้ชื่อรุ่นที่ดูเรียบง่ายอย่าง 500AC โดยทางผู้ผลิตนั้นใช้แนวทางในการลดต้นทุนในส่วนของการพัฒนาเครื่องยนต์ของตัวเอง โดยได้เลือกขอความช่วยเหลือจากผู้ผลิตที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอย่าง Honda ในการนำเอาเครื่องยนต์สองลูกสูบในพิกัด 471 cc แบบ 2 สูบเรียงมาใช้ และแน่นอนว่ามันก็คือเครื่องยนต์ที่เราคุ้นเคยกันในโมเดลอย่าง Honda CB500F, CBR500R และ CB500X นั่นเอง

Voge 500 AC 04

ตัวรถ Voge 500 AC นั้นจะมาพร้อมกับขุมกำลัง 471 ซีซี สองลูกสูบ สี่จังหวะแบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 43 แรงม้า (BHP) แรงบิดสูงสุด 30 Ib-Ft ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานไบอนุญาตขับขี่แบบ A2 License ในยุโรป โดยที่ตัวรถยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นไปหน้าแบบ LED หน้าจอแสดงผลแบบ TFT พร้อมการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

Voge 500 AC 05

ทางด้านอุปกรณ์ติดตั้งบนตัวรถนั้น ระบบช่วงล่าง จะใช้ระบบกันสะเทือนจากแบรนด์ Kayaba ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยด้านหน้าจะเหนือกว่า CB500F ตรงที่เลือกใช้งานโซ้คอัพหน้าแบบหัวกลับ ด้านหลังเป็นแบบ Mono-Shock วางกลางปรับระดับได้ ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์คู่ขนาด 298 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์แบบสองพอร์ท ด้านหลังดิสก์เดี่ยว คาลิปเปอร์แบบหนึ่งพอร์ท พร้อมกับระบบ ABS และระบบ Assist And Slipper Clutch

ก็ต้องมาติดตามกันว่า Voge 500 AC นั้นจะประสบความสำเร็จในตลาดระดับสากลโดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปมากน้อยขนาดไหน ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตสักวันหนึ่งแบรนด์นี้มันอาจจะมีโอกาสมาทำตลาดในประเทศไทยด้วย

Credit : visordown.com