รีวิวการขับขี่จริง 2019 Harley Davidson IRON 883 โดยทีมงาน GreatBiker

ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่พวกเรา GreatBiker.com ได้ร่วมทำการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์กับสองเว็บไซต์แห่งวงการมอเตอร์ไซค์ไทยอย่าง Motor Bike GURU by CheckRaka.com และเว็บไซต์เพื่อนบ้านอย่าง Mocyc.com ด้วยความอนุเคราะห์ของ Richco Harley Davidson จังหวัดเชียงใหม่ที่ให้เราได้หยิบยืมรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสามคันมาขับขี่เชิงท่องเที่ยวกันในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพวกเรา Greatbiker เอง ก็ได้เจ้า Iron 883 น้องเล็กจากทั้งสามรุ่นมาใช้ในการขับขี่ท่องเที่ยวในครั้งนี้

ทำความรู้จัก 2019 Harley-Davidson Iron 883

2019 Harley-Davidson Iron883 รถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางของ Street Cruiser มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขาด 883 ซีซี 2 ลูกสูบแบบ V-Twin 4 จังหวะ ขนาดกระบอกสูบ 76.2 มิลลิเมตร ช่วงชัก 96.8 มิลลิเมตร ระบายความร้อนด้วยอากาศ Air-Colled Evolution จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ Electronic Sequential Port Fuel Injection อัตราส่วนกำลังอัด 9.0:1ให้แรงบิดสูงสุดที่ 70 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 5 สปีดระบบคลัทซ์มือ ส่งกำลังสุดท้ายด้วยระบบสายพาน

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Dual Shock วงล้อแม็กแบบ 9 ก้านพร้อมยางขนาด 100/90B19 57H ในด้านหน้าและ 150/80B16 77H ในด้านหลัง ระบบเบรกหน้าดิสก์เดี่ยว ปั้มเบรก 2 ลูกสูบ ระบบเบรกหลัง ดิสก์เดี่ยวปั้มเบรก สองลูกสูบ ถังน้ำมันจุได้ 12.5 ลิตร

เส้นทางที่เราใช้ในการขับขี่และสัมผัสแรกของเจ้า IRON 883

ในช่วงระยะเวลาที่จำกัดเพียง 1 วัน ทำให้พวกเราทั้งสามคน ตัดสินใจที่จะเลือกเส้นทางที่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก โดยจะเป็นเส้นทางรอบๆ ราชพฤกษ์ สถานที่ ที่เคยรับโอกาสจัดงานพืชสวนโลก โดยในเส้นทางนั้นมีทั้งถนนที่สามารถใช้ความเร็วสูง ทางลาดชันขึ้นลงเขา และเจอกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นเป็นจุดๆ ซึ่งพอจะทดสอบตัวรถและสัมผัสกับสมรรถนะของตัวรถได้ในระดับหนึ่ง

ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้ทดลองขับขี่เจ้า 883 และนับว่าเป็นโมเดลแรกในยุคปัจจุบันของค่าย HD ที่เราได้ขี่ในปีนี้ สัมผัสแรกของ IRON 883 นั้นตัวรถมาในแนวทางของ Bobber ที่ชัดเจน ท่านั่งขาตรง เบาะเดียว ตัวแฮนด์เป็นแบบ Flat ยกขึ้นมาเล็กน้อยพอได้ฟิลลิ่งของรถ Naked การควบคุมตัวรถนั้นง่ายมาก ตอนคร่อมครั้งแรกรู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวรถที่มาก แต่พอตัวรถเคลื่อนที่ไปแล้ว กลับมีน้ำหนักเบากว่าที่คิดไว้ ต้องบอกเลยว่าตัวรถนั้นมีอัตราแรงบิดที่ดีเอามากๆในช่วงต้น จังหวะออกตัวได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวรถที่ใหญ่ก็ตาม ต้องยกความดีให้กับขุมกำลัง V-Twin ที่ทำให้ออกตัวได้แรงขนาดนี้ โดยที่ช่วงรอบต่อของแต่ล่ะเกียร์นั้นค่อนข้างที่จะยาวกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปอยู่พอสมควร ทำให้เราสามารถลากรอบยาวๆได้อย่างไม่สะท้าน โดยจากเกียร์หนึ่งเปลี่ยนเป็นเกียร์สองนั้น ลากได้ถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

สำหรับท่านั่งในการขับขี่ที่บอกไปข้างต้นนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นท่านั่งแบบขาตรง แต่ตัวแฮนด์นั้นก็มีระยะห่างจากผู้ขับขี่ในระดับหนึ่ง ทำให้ผู้ขับขี่ที่มีส่วนสูงอยู่ที่ 170 เซนติเมตร ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ซึ่งมันพอดีกับท่าทางในการออกตัวกับรถที่มีแรงบิดสูงแบบนี้ ตัวเบาะนั่งมีความสูงที่ไม่มากนัก สามารถเอาเท้าสองฝั่งลงพื้นได้อย่างเต็มเท้าเสริมความมั่นใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

ออกตัวไปกับ IRON 883

จังหวะการออกตัว ด้วยแรงบิดที่มาไวและมหาศาล ทำให้จ้า Iron 883 นั้นออกตัวได้ค่อนข้างพลิ้วเลยทีเดียว ฟิลลิ่งของคันเร่งนั้นนิ่มนวล ไม่ต้องออกแรงบิดมากมายอะไรนัก เพียงแค่ปล่อยคลัทซ์เบาๆ ตัวรถก็พร้อมออกในทันที ตรงจุดนี้ทำให้การขึ้นทางชันอย่าง เส้นทางขึ้นพระธาตุดอยคำนั้น ทำได้อย่างง่ายดายและรู้สึกได้เลยว่าใช้แรงทั้งรถและคนน้อยมาก และในจังหวะขาลงนั้นตัวรถค่อนข้างที่จะมีน้ำหนักตัวที่มาก ทำให้การปล่อยไหลลงทางลาดชันนั้น ค่อนข้างที่จะรวดเร็ว โดยที่การทำงานของระบบเบรกหน้าและหลังสามารถทำได้อย่างน่าพอใจ ถึงแม้ว่าตัวรถนั้นจะไม่มีระบบเบรก ABS มาให้ใช้งาน โดยสิ่งที่ชอบที่สุดในรถคันนี้ก็คือระบบ Engine Brake ที่ดึงความเร็วได้ดีมากๆ การลดเกียร์แต่ล่ะครั้งได้ Engine Brake จำนวนมากจนสามารถมั่นใจในการชะลอรถได้เลย

อัตราเร่งและความเร็ว

บนหน้าจอแสดงผลแบบอนาล็อกของ Iron 883 มีขีดจำกัดอยู่ที่ 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต้องบอกตามตรงเลยว่า ผู้ทดสอบใช้ได้ไม่ถึงครับ เพราะด้วยสภาพของถนนที่เป็นถนนสาธารณะมีรถสัญจรไปมาค่อนข้างมาก จึงไม่สามารถกดความเร็วสูงสุดของตัวรถได้ แต่ด้วยแนวทางของตัวรถที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเน้นทำความเร็วอยู่แล้ว ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้อยู่ที่ 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเรียกได้ว่าเครื่องยนต์ยังปล่อยพละกำลังได้ไม่หมดยังมีเหลือๆ อีกเยอะ

ระบบช่วงล่างของ IRON 883

ตัวรถนั้นถูกออกแบบให้มี CG ที่ต่ำมากๆ ทำให้ตัวรถนั้นมีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ตรงกลางรถ ไม่หนักไปด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้ผู้ขับขี่นั้นแทบไม่ต้องฝืนตัวรถในการเข้าโค้งเลย เพียงแค่เริ่มเอียงตัว กดศอกลงไป ตัวรถก็สามารถไต่เข้าโค้งไปได้อย่างง่ายดาย โดยเราลองทั้งแบบ Hi-Speed และ Low-Speed แล้ว เจ้า IRON 883 สามารถทำได้ทั้งสองแบบโดยไม่เคอะเขิน ตัวระบบกันสะเทือนหน้าหลัง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีการสะดุ้งโค้งในช่วง Hogh-Speed และรับแรงกดได้ดีในช่วง Low-Speed

ข้อดีของ IRON 883

สิ่งที่ผู้ทดสอบชื่นชอบเป็นอย่างมากใน Iron 883 นั้นก็คือ เรื่องของแรงบิดของเครื่องยนต์ในรอบต่ำ ที่สามารถพาตัวรถที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากออกตัวได้อย่างรวดเร็ว ผิดจากรถในแนวนี้จากค่ายอื่นๆ ที่อาจจะต้องมีการเดินคันเร่งเข้าช่วยเพื่อให้ตัวรถเครื่องตัวออกไป และสิ่งที่ชื่นชอบรองลงมาก็คือการออกแบบที่ร่วมสมัยไม่ล้าหลังไปตามกาลเวลา เบาะนั่งที่มีความสูงไม่มากนัก ความคล่องตัวถึงแม้จะเจอกับการจราจรที่หนาแน่น แต่ Iron 883 ก็สามารถเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างระหว่างรถไปได้อย่างง่ายดาย และสุดท้ายคือเรื่องของ Engine Brake ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม

ข้อสังเกตของ IRON 883

จะบอกว่าเป็นข้อด้อยของ Iron 883 เลยก็คงจะไม่ได้ เพราะมันคือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของค่าย Harley Davidson นั้นก็คือคาแรกเตอร์ของตัวเครื่องยนต์ V-Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่จะปล่อยความร้อนจากการทำงานของเครื่องยนต์ออกมา โดยเฉพาะหน้าขาข้างขวาที่จะมีความร้อนที่ปล่อยออกมามากกว่าด้านซ้าย ซึ่งยังดีที่มีตัวกรองอากาศเป็นตัวคั่นระหว่างขากับเครื่องยนต์ไม่ให้ชนกันโดยตรง และที่สำคัญคือการทำงานของเครื่องยนต์ที่ส่งให้ตัวรถนั้นมีอาการสั่นบ้างในย่านความเร็วสูง ซึ่งมันก็เป็นบุคลิกเฉพาะตัวของรถมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson อยู่แล้ว หากเพื่อนๆ ที่เคยขับขี่รถในแนวทาง Naked Sport หรือ Sport Full Fairing แบบสูบเรียง อาจจะต้องปรับความรู้สึก​กันบ้าง

สำหรับ 2019 Harley-Davidson IRON 883 นั้นมีราคาจำหน่ายราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 499,000 บาท โดยมีสีสันให้เลือกด้วยกันทั้งสิ้น 6 สีสัน พร้อม Optional พิเศษระบบเบรก ABS เพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถเข้าไปชมตัวจริง พร้อมสอบถามอัตราการผ่อนดาวน์และไฟแนนซ์ได้ที่ โชว์รูมHarley Davidson ทั่วประเทศได้เลยครับ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Richco Harley-Davidson Chiangmaiสำหรับการให้เจ้า IRON 883 มาทดสอบในครั้งนี้ โอกาสต่อไปพวกเรา GreatBiker จะไปทดสอบรถมอเตอร์ไซค์คันไหนก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook Fanpage : Greatbiker.com ได้เลยครับ

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.