Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เปิดตัว Suzuki GSX-S1000GX 2024 รถบิ๊กไบค์สปอร์ตทัวร์ริ่ง รุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ

เปิดตัว Suzuki GSX-S1000GX 2024 รถบิ๊กไบค์สปอร์ตทัวร์ริ่ง รุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่จากค่าย Suzuki ที่ครั้งนี้ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ GSX-S1000GX อย่างเป็นทางการในตลาดยุโรป ในรูปแบบของรถมอเตอรไซค์สปอร์ตทัวร์ริ่งกึ่งๆ แอดแวนเจอร์

d02u8FJ.jpeg

โดยหลักแล้ว Suzuki GSX-S1000GX จะเป็นโมเดลคู่ขนานกับ GSX-S1000GT ที่เคยเปิดตัวเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา โดยมีความแตกต่างด้วยรูปแบบการใช้งาน ที่ GSX-S1000GT จะเป็นสปอร์ตทัวร์ริ่งแบบฟูลแฟร์ริ่ง ซึ่งจะแข่งขันกับ Kawasaki Ninja 1000SX ส่วน GSX-S1000GX นั้นจะมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป โดยจะสวมแฟร์ริ่งแบบครึ่งท่อน และให้รูปแบบการใช้งานที่กึ่งๆอเนกประสงค์ สามารถวิ่งได้ดีบนทางดำ และมีคุณสมบัติในการขับขี่บนทางฝุ่นได้ ที่ไม่ถึงกับวิบากจนมากเกินไป

d02uVtb.jpeg

ดังนั้นแล้ว GSX-S1000GX จะเป็นโมเดลที่ใช้ทำตลาดชนกับ Kawasaki Versys 1000, Yamaha Tracer 9 และ BMW S1000XR ที่ส่วนใหญ่จะเน้นการขับขี่แบบหลังเกือบตรง แต่ให้ความดุดันของเครื่องยนต์แบบรถสปอร์ต อีกสิ่งที่ทำให้ GSX-S1000GX แตกต่างจาก GSX-S1000GT ก็คือการออกแบบ ที่ได้ดึงเอาเอกลักษณ์ของโมเดลใหม่อย่าง GSX-8R มาใช้นั่นก็คือ การออกแบบส่วนหน้า ที่มาพร้อมกับชุดไฟ dual project LED เรียงซ้อนในแนวตั้ง

d02uG5z.jpeg

ด้วยความที่ตัวรถจะเป็นรุ่นคู่ขนานกัน ทำให้ทั้งสองโมเดลมีพื้นฐานร่วมกันในหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะเรื่องของขุมกำลัง ทั้งสองโมเดลจะใช้เครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียง 999 ซีซี 4 จังหวะ DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว โดยเป็นเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro-5 ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 106 นิวตันเมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที เท่ากันทั้งสองโมเดล แต่ดูเหมือนว่า GSX-S1000GX จะด้อยกว่าเล็กน้อย ในเรื่องของอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก เพราะตัวรถจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 232 กิโลกรัม หนักกว่า GSX-S1000GT ที่มีน้ำหนักตัว 227 กิโลกรัม

d02ueSR.jpeg

ในส่วนของอุปกรณ์ติดตั้งบนตัวรถนั้น นอกเหนือจากระบบไฟ LED รอบคันแล้ว ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบกันสะเทือน SFF-CA จาก SHOWA ที่มีคุณสมบัติในการปรับตั้งค่าได้อย่างหลากหลาย ซึ่งรองรับคุณสมบัติ SRAS, SVDC, SFRC, SDDC ซึ่งทั้งหมดเป็นคุณสมบัติที่ได้รับการจดสิทธิบัตรโดย Suzuki นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบคันเร่งไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ ระบบ Traction Control 5 ระดับ ระบบ Low RPM Assist ระบบ Quickshifter แบบสองทาง ระบบ Suzuki Easy Start System คาลิปเปอร์ Brembo monnobloc ที่มาพร้อมกับระบบ ABS และ Cornering ABS

d02uXof.jpeg
d02uaGa.jpeg
d02uvfq.jpeg

Suzuki EU ยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ณ ตอนนี้ แต่คาดว่าตัวรถจะพร้อมจำหน่ายในเดือนธันวาคม 2024 เป็นอย่างช้า โดยล่าสุดทางผู้ผลิตได้ประกาศแล้วว่าตัวรถจะมีให้เลือกใช้งานด้วยกัน 3 สี ประกอบด้วยสี Metallic Triton Blue (YSF) สี Glass Sparkle Black (YVB) และสี Pearl Mat Shadow Green (QU5)

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก warungasep.net

blank