Banner-Yamaha-EXCITER-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-EXCITER-2024-400x300.gif

เปิดตัว BMW M1000 XR 2024 สปอร์ตทัวร์ริ่งที่ได้แรงบันดาลใจจาก WSBK

blank

กลุ่มผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์ M ของ BMW Motorrad ได้สร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการมอเตอร์ไซค์ ที่ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก ซึ่งล่าสุดทางผู้ผลิตจากเยอรมันก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จากกลุ่มประสิทธิภาพสูงอย่าง M1000 XR 2024 ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากตัวแข่งจากรายการ WSBK

ddHH2yZ.jpeg

BMW M1000 XR จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ลำดับที่ 3 ที่ได้ตีตรา M ประสิทธิภาพสูง ต่อจาก M 1000 RR และ M 1000 R โดยเจ้า BMW M1000 XR ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสปอร์ตทัวร์ริ่งที่เน้นการขับขี่ด้วยการทำความเร็วสูง โดยใช้พื้นฐานที่อิงมาจาก BMW S1000 XR โดยใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ จากโมเดลพื้นฐาน แต่มีการปรับปรุงใหม่ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงถึง 201 แรงม้า (hp) เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 31 แรงม้า (hp) ซึ่งใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงถึง 12,750 รอบต่อนาที ในขณะที่แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบต่อนาที ในขณะที่รอบเครื่องยนต์สูงสุดจะสามารถลากได้ยาวถึง 14,000 รอบต่อนาที

ddHHlUz.jpeg

ส่วนที่แตกต่างจากโมเดลพื้นฐานอีกหนึ่งส่วนที่เป็นกุญแจสำคัญของผลิตภัณฑ์ คือการใช้เฟืองท้ายที่มีจำนวนซี่ฟันที่มากกว่า โดยตัว M1000 XR 2024 ใช้เฟืองท้าย 47 ซี่ ส่งผลให้กำลังการดึงล้อหลังเพิ่มขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อจังหวะและอัตราทดเกียร์ที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน และมีผลโดยตรงกับการยึดเกาะ การเร่งความเร็วที่ส่งผลอย่างชัดเจน อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างคือการออกแบบของชุดแฟร์ริ่งจะอิงตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยการเพิ่ม winglets ที่แผงด้านหน้าช่วยเพิ่มแรงกดหรือ Downforce ซึ่งส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพของตัวรถในระหว่างที่อยู่ในความเร็วสูง โดยอุปกรณ์ชุดนี้จะเริ่มส่งผลเมื่อตัวรถทำความเร็วได้สูงกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และส่งผลสูงสุด ด้วยการสร้างแรงกดที่ล้อหน้าจำนวน 12 กิโลกรัม เมื่อทำความเร็วที่มากกว่า 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

ddHHnvt.jpeg
ddHH8Ne.jpeg

ระบบกันสะเทือนและแชสซีของ M 1000 XR มีต้นแบบมาจากการออกแบบของ S 1000 XR ซึ่งมีโครงสร้างแบบ aluminum bridge frame มาพร้อมกับโช้คหัวกลับที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 45 มิลลิเมตร คุณสมบัติใหม่คือการปรับฐานสปริงของโช๊คเพิ่มเติมได้ ร่วมกับสตรัทกันสะเทือน Dynamic Damping Control (DDC) ที่ทำงานร่วมกับ Triple Clamp ที่สร้างขึ้นมาใหม่ และแฮนด์ทรงท่ออะลูมิเนียมสีดำพร้อมตัวอักษร “BMW M 1000 XR” กระจกปลายแฮนด์แบบปรับได้และแดมเปอร์บังคับเลี้ยวแบบใหม่ช่วยเสริมขีดความสามารถในการควบคุมตัวรถขั้นสูง

ddHHA0R.jpeg
ddHHFBg.jpeg

ในส่วนของระบบเบรกนั้น ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากตัวแข่งในรายการ WSBK ด้วยลิเปอร์เบรกประสิทธิภาพสูง M ซึ่งมีการเคลือบอะโนไดซ์สีน้ำเงินอันโดดเด่นและมีโลโก้ M อันเป็นเอกลักษณ์ ทำงานร่วมกับจานดิสก์คู่ด้านหน้าขนาด 320 มิลลิเมตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมอะโนไดซ์สีดำ ซึ่งทนทานจากการเสียดสี ความร้อน มากกว่าจานดิสก์เบรกมาตรฐาน

ddHHHUl.jpeg

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอแพ็กเกจ M Competition Package ที่นำเอาส่วนประกอบที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว ซึ่งมีส่วนทำให้ตัวรถนั้นมีน้ำหนักที่เบากว่าเดิม 3 กิโลกรัม ประกอบด้วยล้อ M Carbon บังโคลนล้อหลังพร้อมการ์ดโซ่ แผงด้านข้าง บังโคลนล้อหน้า ฝาครอบด้านใน และฝาครอบสตาร์ท M Carbon นอกจากนี้ยังมีพักเท้าพิเศษที่สามารถปรับระดับได้ และเสริมด้วยระบบพิเศษ MGPS Laptrigger ที่ช่วยปลดล็อกกระเป๋าสัมภาระด้านข้างด้วยสลักไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการโยกย้าย

ddHHV8k.jpeg

ในส่วนของเทคโนโลยีการขับขี่นั้น M 1000 XR นำเสนอโหมดการขับขี่สองโหมดใหญ่ๆ โดยแบ่งออกเป็นโหมดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่มีโหมดการขับขี่แยกย่อยประกอบด้วย Rain, Road, Dynamic และ Race ในขณะที่อีกโหมดการขับขี่จะเป็นโหมดที่ใช้ในสนามการแข่งขันที่เรียกว่า Race Pro โดยสามารถปรับแต่งค่าต่างๆไม่ว่าจะเป็น ระบบDynamic Traction Control (DTC) ระบบ wheelie functionรวมไปถึงการปรับแต่งอัตราเร่งในแต่ล่ะเกียร์ได้อย่างละเอียด โดยระบบทั้งหมดจะทำงานร่วมกับ 6-axis IMU ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำงานระบบต่างๆ บนตัวรถ

ddHHa0v.jpeg
ddHHv2N.jpeg

BMW M 1000 XR เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง ที่ผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูง และการออกแบบอันน่าทึ่ง นี่คือผลงานชิ้นเอกจากกลุ่มรถรุ่น M ของ BMW Motorrad ที่ได้รับการกำหนดนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์การเดินทางแบบสปอร์ตขั้นสุด ในส่วนของการจำหน่ายนั้น BMW M 1000 XR พร้อมจำหน่ายแล้วในตลาดยุโรปและอเมริกา โดยมีราคาแนะนำอยู่ที่ 29,995 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 1.08 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikesrepublic.com

blank