Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เครื่องยนต์ Inline 4 Crossplane ของ Yamaha ควรได้ ไปต่อใน MotoGP หรือไม่

vinales-rossi-2018-movistar-yamaha-m1

จากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับเครื่องยนต์แบบ 4 ลูกสูบเรียงของ Yamaha ที่นักแข่งประจำทีมอย่าง Valentino Rossi ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเป็นจุดอ่อนของทีมที่ส่งผลให้ผลงานโดยรวมของทีมไม่ดีเท่าที่ควร แน่นอนว่าเป็นข้อถกเถียงกันในวงกว้างอย่างแน่นอน ถึงสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ และเรา GreatBiker เองก็อยากจะลองวิเคราะห์สาเหตุที่อาจจะเกี่ยวข้องกับผลทั้งหมดที่ออกมากันบ้าง

blank

อันดับแรกเรื่องของเครื่องยนต์ inline4 กับ V4 นั่นมีความแตกต่างกันในเรื่องของบุคคลิก สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือ เครื่องยนต์ V4 นั้นมีเอกลักษณ์การจุดระเบิดที่แตกต่าง โดยการจุดระเบิดของเครื่องยนต์นั้นจะทำแบบเว้นช่องไฟ คือจุดระเบิด 1 2 3 4 และพัก แล้วกลับมาจุดระเบิดอีกรอบ ด้วยความไม่สม่ำเสมอนี้จะส่งผลให้เครื่องยนต์นั้นสามารถเพิ่มพละกำลังในรอบสูงได้ดีมากขึ้น แต่ข้อเสียของมันก็คือเรื่องของน้ำหนัก และขนาดที่จะทำให้ตัวรถนั้นมีความกว้าง หากวางเครื่องยนต์แนวขวางตัวรถ หรือ ความยาวของตัวรถที่มากกว่าหากวางเครื่องยนต์ตามแนวยาวของรถ ซึ่งจะทำให้ช่วงฐานล้อมีความยาวมากกว่า ความคล่องตัวในโค้งก็จะน้อยลงแต่ทดแทนด้วยแรงผลักจากด้านหลังที่มากขึ้น อัตราเร่งในช่วงต้นเช่น การออกตัว การออกโค้งจะมีอัตราการเร่งที่ช้ากว่า ทำให้เสียเปรียบในช่วงที่เดินรอบเครื่องยนต์ต่ำ

blank

หากเรามองที่เครื่องยนต์ V4 ของ Ducati แล้ว ดูเหมือนว่าช่วงเวลานี้ Ducati ได้กลบจุดอ่อนของเครื่องยนต์ V4 ที่ค่อนข้างจะมีปัญหาในโค้งและช่วงการออกตัว ด้วยการปรับองศาและตำแหน่งของเครื่องยนต์ใหม่ให้ขยับไปข้างหน้ามากกว่าเดิม เพื่อการกระจายน้ำหนักไปยังด้านหน้ามากขึ้น เพื่อการหาจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถใหม่ ทำให้เพิ่มความพลิ้วในการเข้าโค้งและลดการใช้เบรกเพื่อแต่งตัวก่อนเข้าโค้งได้มากขึ้น

blank

เครื่องยนต์ Inline4 นั้นก็มีจุดเด่นที่น้ำหนักเบา มีอัตราเร่งที่สม่ำเสมอ แต่ในเครื่องยนต์ของ Yamaha ที่เป็น Inline4 แบบ Crossplane จะเป็นการออกแบบการจุดระเบิดที่แตกต่างออกไป โดยการจุดระเบิดแบบนี้จะเป็นการนำเอาข้อดีของเครื่องยนต์แบบ V4 มาปรับใช้ โดยจะเป็นการจุดระเบิดแบบ 1 2 พัก 3 4 และวนไปเรื่อยๆ ทำให้ได้อัตราเร่งที่ดีมากขึ้นในทุกย่านความเร็ว แต่จุดอ่อนที่ชัดเจนของเครื่องยนต์แบบนี้มีอยู่ 2 จุด คือ หนึ่งการวางเครื่องยนต์ทำได้เพียงวางขวางไปกับตัว ทำให้ตัวรถมีด้านกว้างที่กว้างกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์แบบ V4 และจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของอัตราเร่งสูงสุด จะขึ้นได้ช้ากว่าแบบ V4

blank

เมื่อเห็นความแตกต่างของเครื่องยนต์ 2 รูปแบบนี้แล้ว ทางเราก็คิดว่าเพื่อนๆ น่าจะเห็นอะไรพอสมควร แต่เราก็ยังเชื่อว่า เครื่องยนต์ Inline4 ของ Yamaha นั้นยังมีดีพอที่จะได้ไปต่อ หากเรามองย้อนกลับไปในปี 2015 ปีที่ Jorge Lorenzo สามารถพาเจ้า Yamaha YZR-M1 รถที่ใช้เครื่องยนต์ Inline4 Crossplane ขึ้นบัลลังก์แชมป์โลก และเพื่อนร่วมทีมอย่าง Valentino Rossi เองก็ก้าวไปถึง รองแชมป์โลก และนับว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของ Yamaha อย่างแท้จริง

blank
ฤดูกาล 2015 ปีที่ Yamaha ประสบความสำเร็จสูงสุด 

หากเราเอาข้อมูลจากปี 2015 มากางดูเราจะพบว่า Honda ในฤดูกาลนั้นประสบปัญหาเดียวกับ Yamaha ในฤดูกาล 2018 นี้ แทบจะคล้ายกัน และทีมวิศวกรของ HRC ก็พบว่าปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ Crankshaft หรือ เพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักมากเกินไป เรากลับมาดูปัญหาของ Yamaha YZR-M1 กันต่ออีกสักนิด เมื่อเรานำเอาข้อมูลของ M1 มาดูแล้ววิเคราะห์ตามข้อมูลที่เราเห็น เมื่อน้ำหนักของเพลาข้อเหวี่ยงที่มีมากเกินความจำเป็นจะส่งผลให้แรงจากการหมุนมีมาก ส่งผลให้แรงบิดขนาดมหาศาลพุ่งมาจากเครื่องยนต์ และส่งต่อไปยังระบบขับเคลื่อน และส่งแรงไปต่อยังระบบส่งกำลังสุดท้ายและลงไปที่ล้อรถสุดท้ายตัวรับแรงสุดท้ายก็จะตกไปอยู่ที่ยาง ซึ่งยางปีนี้เป็นยางแข่งของ Michelin ซึ่งเพื่อนๆ ก็น่าจะพอทราบว่า Compound หรือเนื้อยางค่อนข้างที่จะบางและมีอัตราการสึกหรอที่สูง เมื่อเทียบกับยาง Bridgestone ที่ใช้ในฤดูกาล 2015 ทำให้การควบคุมตัวรถและการยึดเกาะกับพื้นสนามมีน้อย ซึ่งจะเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ Yamaha มีผลงานที่ไม่ดีในฤดูกาลนี้  เพื่อนๆ ตามกันทันหรือเปล่า หากเรา

blank

มองในสนาม ณ ตอนนี้ หากเราจะพูดว่าเครื่องยนต์แบบ Inline4 ไม่สามารถสู้กับ V4 ได้เลยคงจะไม่ถูกต้องที่สุด มันค่อนข้างที่จะมีปัจจัยหลายแบบเข้ามาเป็นตัวเกี่ยวทำให้ศักยภาพของเครื่องยนต์นั้นทำได้ไม่ดีมากนัก แต่หากมองในมุมกลับเมื่อการแข่งขันล่าสุด Maverick Vinales ของทีม Movistar Yamaha กัลป์เครื่องยนต์ Inline4 Crossplane และ Alex Rins นักแข่งของทีม Ecstar Suzuki ที่เลือกใช้งานเครื่องยนต์ Inline4 ธรรมดาๆ  แต่กลับทำผลงานได้ดีกว่าเครื่องยนต์ V4 ของนักแข่งคนอื่นๆ เป็นรองเพียง 3 นักแข่ง V4 Andrea Dovizioso ของ Ducati และสองนักบิดจาก Honda Marc Marquez และ Cal Clutchlow ถ้าหากเครื่องยนต์ไร้ประสิทธิภาพหรือสู้ไม่ได้จริงๆ ทางเราคิดว่านี้น่าจะพอทำให้คนที่เชื่อมั่นแบบนั้นได้กลับมาย้อนคิดใหม่อีกรอบ และมองดูจากองค์รวมมากขึ้นนะครับ

blank

สุดท้ายนี้ทางเรา GreatBiker ยังคงคิดว่าเครื่องยนต์ Inline4 Crossplane ของ Yamaha นั้นยังมีดีเกินกว่าที่จะหยุดการพัฒนา แต่เราอยากให้มองไปที่การพัฒนาที่ตรงจุดมากกว่า การปรับแต่งกล่อง ECU กลางซึ่งในฤดูกาลหน้าจะมีกล่องใหม่มาให้ทีมงานได้ปวดหัวกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าทุกค่ายจะได้เริ่มต้นใหม่พร้อมๆ กัน และทางเราก็คิดว่า Yamaha คงไม่พร้อมที่จะรับศึกสองด้านในคราวเดียว ทั้งต้องปล้ำกับเครื่องยนต์ใหม่ที่ยังไม่ได้มีแผนการพัฒนาที่ชัดเจน กับการลงทำศึกใหญ่ท่ามกลางกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร ก็เป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นเครื่องยนต์แบบ Inline4 Crossplane ของ Yamaha ในการแข่ง MotoGP ต่อไป อย่างน้อยๆ ก็ 2-3 ปีแน่นอนครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพาก www.motogp.com