Banner Yamaha XMAX Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha XMAX Connected 2024 400x300

ย้อนประวัติศาสตร์ Honda Grom

ย้อนประวัติศาสตร์ Honda Grom

Honda Grom รถมอเตอร์ไซค์มินิสตรีทไบค์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากค่ายปีกนก Honda เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี และมีกลุ่มแฟนคลับที่คอยติดตามโมเดลใหม่ๆ อยู่เสมอๆ และในวันนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ ย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ของโมเดลนี้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงโมเดลล่าสุดที่กำลังวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน

atovfD.jpg
2013 Honda Grom

ตามหลักการแล้ว Honda Grom หรือชื่อที่ใช้ทำตลาดในบางประเทศจะเป็น MSX125 จัดว่าเป็นผู้ท้าชิงเจ้าตลาดมินิสตรีทไบค์จาก Kawasaki KSR ที่ถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดมาตั้งแต่ปี 2002 โดยชูจุดเด่นที่ขุมกำลังที่มีขนาดใหญ่กว่า ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 124.9 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลังแบบ 4 สปีด และด้วยองค์ประกอบของรถมินิสตรีทไบค์ที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นชุดกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับสีทองขนาด 37 มิลลิเมตร โช้คอัพหลังแบบ Monoshock ดิสก์เบรกหน้าหลัง และขอบล้อขนาด 12 นิ้วที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงงานออกแบบที่ฉีกแนว พร้อมกับรูปแบบมินิไบค์ในคลาส 125 ซีซี ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ทำให้โมเดลนี้กลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาแรกมากๆในช่วงเวลานั้น เพราะไม่เพียงแต่ตัวรถดั่งเดิมจากโรงงานจะได้รับความนิยมแล้ว การผลิตชิ้นส่วนตกแต่งทั้งเสริมด้านความสวยงามและประสิทธิภาพ ก็มีให้เลือกกันจนตาลายเลยทีเดียว

atoG59.jpg
2014 Honda Grom

ไมเนอร์เชนจ์แรกของผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นหลังจากเปิดตัวเพียงปีเศษๆ เท่านั้น โดยโมเดลในปี 2014 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องยนต์ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของรูปแบบตัวรถ โดยมีการปรับสีสันใหม่ เปลี่ยนครอบส่วน Sub-Frame ที่จากเดิมจะเป็นสีดำที่ดูกลืนไปกับเบาะนั่งตอนเดียวยาว ให้เป็นสีเดียวกับแฟร์ริ่ง ทำให้ตัวรถดูมีความหนามากขึ้น อีกทั้งยังมีการเพิ่มขอบล้อและคาลิปเปอร์เบรกสีทอง ที่ช่วงส่งให้ตัวรถดูน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม

atoJHJ.jpg
2015 Honda Grom

โมเดลต่อมาในปี 2015 มีการกลับไปใช้แนวทางตั้งต้นของ Grom ดั่งเดิม ด้วยการเปลี่ยนสีครอบ Sub-Frmae ท้ายใหม่ให้เป็นสีดำ แต่เลือกใช้สีดำด้านเพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวรถ รวมไปถึงการกลับมาของสีเหลืองมะนาว ที่เป็นที่นิยมจากโมเดลแรก โดยยังคงองค์ประกอบเดิมจากโมเดลก่อนหน้า ทั้งล้อและคาลิปเปอร์เบรกสีทอง

atoeSb.jpg
2016 Honda Grom

ต่อมาในปี 2016 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยนระบบท่อไอเสียใหม่ ที่เดิมทีจะเป็นท่อไอเสียแบบยกสูงใต้เบาะนั่ง มาเป็นท่อไอเสียแบบมาตรฐาน เปลี่ยนโคมไฟหน้าจากโคมเดี่ยวทรงรี เป็นโคมคู่แยกส่วนทรงเหลี่ยนแบบ LED พร้อมกับการเพิ่มระบบเบรก ABS เฉพาะล้อหน้าเป็นครั้งแรก โดยมีจุดเด่นที่ระบบ G-Senser ที่ช่วยกระจายแรงเบรกที่พัฒนามาจากระบบ Combi Bake ตัวกุญแจจะเป็นแบบ Jack Knife Key พับได้ ฝาเปิดถังน้ำมันจะมีหูเกี่ยวไม่ต้องยกออกทั้งฝาเหมือนรุ่นที่ผ่านมา โดยเปิดจำหน่ายในรูปแบบ Golbal Model ทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยจะมีความพิเศษด้วยการวางจำหน่าย MSX125 ซึ่งเป็นรุ่นเดิมจากปี 2015 ควบคู่ไปกับโมเดลใหม่ที่จะใช้ชื่อรหัสประจำตัวว่า MSX125 SF

atomif.jpg
2016 Honda Grom

ในปี 2018 การเปลี่ยนแปลงสีสันใหม่ก็มาถึง ทางผู้ผลิตได้เพิ่มสี Rose White ที่โดดเด่นด้วยสีขาวตัดด้วยสีแดง และมีการเปลี่ยนสีคาลิปเปอร์เบรกจากสีทองให้กลายเป็นสีแดง เพิ่มอารมณ์เรซซิ่ง มาพร้อมกับขอบล้อสีดำที่ดูเรียบง่าย โดยโมเดลนี้ก็กลายเป็นโมเดลหลักในการทำตลาดในประเทศไทยและได้ตัดรหัส MSX125 SF ออกไปเหลือเพียง MSX125 ไว้เหมือนเดิม โดยในประเทศไทยจะมีรุ่นพิเศษในปี 2019-2020 ที่ใช้ธีมจาก Super Heros มาเป็นตัวช่วยส่งเสริมการตลาดอีกด้วย

atoaGy.jpg
2021 Honda Grom

การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2021 โดยการทำตลาดในครั้งนี้ Honda ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อรุ่นในหลายๆตลาด จากที่เคยใช้ชื่อ MSX125 ก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อเดียวกันทั้งโลก โดยได้เลือกชื่อ Grom มาเป็นชื่อหลักในการทำตลาด และมีการเปลี่ยนแนวทางของตัวรถใหม่ โดยชูความสนุกในการตกแต่งตัวรถ ที่เป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ด้วยแนวทางการออกแบบใหม่ Ready To Mod design ด้วยการใส่สลักน็อค 5 จุด ที่สามารถไขเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ด้วยอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว ทำให้ง่ายต่อการตกแต่งมากขึ้น อีกทั้งยังปรับปรุงตัวรถครั้งใหม่ด้วยการเพิ่มเกียร์จาก 4 สปีด เป็น 5 สปีดเป็นครั้งแรก และได้ปรับอัตราทดเกียร์ในช่วงเกียร์ 2 และ 3 ให้มีความกว้างมากขึ้น ทำให้ตัวรถมีความสนุกสนานในการขับขี่ที่หลากหลาย จะเอาไปขี่ในชีวิตปประจำวันก็ได้ เอาไปขี่สตันท์เล่นท่าก็น่าสนุก

atoFIq.jpg
2021 Honda Grom “Tourer”

ปัจจุบัน Honda Grom ยังคงเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยในตลาดประเทศไทยก็มีตัวเลือกให้ใช้งานทั้งแบบมาตรฐานและแบบ ABS โดยมีสีสันให้เลือกมากถึง 5 สี พร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ที่จะเปลี่ยนรถมินิสตรีทไบค์ให้กลายเป็นรถคันโปรดในแนวทางที่แตกต่าง จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 69,900 บาทเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.autoby.jp

blank
เรื่องยอดนิยม