Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

อีกหนึ่งแคนดิเดตความเป็นไปได้ กับ Honda CB300R Racer

honda-cb300r

จากการทื่ทางค่ายปีกนกฮอนด้านั้นเปิดตัว 2 โมเดลใหม่ในตระกูล CB-R พร้อมๆ กันอย่าง CB300R และ CB1000R ในงาน EICMA Show ที่ผ่านมา และในงานเดียวกันนั้นทางค่ายเองก็ได้เปิดตัวรถคอนเซ็ปท์อย่าง CB4 Interceptor ที่เป็นรถในแนว Cafe-Racer มาด้วย ซึ่งคาดว่าจะเป็นการนำเอาเครื่องยนต์พื้นฐานจาก CB1000R มาใช้กันนั่นเอง และแล้วล่าสุดก็ได้มีข่าวลืออีกหนึ่งกระแสมาว่าทางค่ายเองนั้น ก็ยังได้เตรียมการที่จะทำ CB300R-Racer ด้วย

ซึ่งพื้นฐานของ CB300R-Racer นั้นจะมาพร้อมกับขุมกำลังขนาด 286cc แบบ DOHC 4 วาล์ว 1 ลูกสูบ ขนาดกระบอกสูบและช่วงชักอยู่ที่ 76 x 63mm อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 10.7:1 ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับ CBR300R, CB300F และ Rebel 300 นั่นเอง ซึ่งข้อดีก็คือเป็นเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างจะเสถียรเอามากๆ เพราะผ่านการทดสอบและปรับปรุงกันมาหลายครั้งแล้วกว่าจะมาถึงโมเดลนี้ แต่การตกแต่งดีไซน์นั้นจะมีในส่วนครอบเบาะท้ายมาให้ และก็หน้ากากครอบด้านหน้าแบบสไตล์คาเฟ่ แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็ยังมีความเป็นโมเดิร์นผสมผสานอยู่ด้วย ตามคอนเซ็ปท์ Neo Sport Cafe ที่่ทางค่ายนั้นวางไว้ตั้งแต่ต้น

blank

คาแรกเตอร์ของตัวรถนั้นจะเน้นแรงบิดและอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมในย่านความเร็วต้นถึงกลางมากเป็นพิเศษ ตามแบบฉบับของรถสูบเดียวที่มีเครื่องยนต์ใน cc ขนาดนี้ ให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 31 ตัว และทอร์คสูงสุดที่ 27 นิวตันเมตร จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-Fi ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด จึงถือว่ามันเป็นรถที่มีความคล่องตัวสูง และ cc ที่เพียงพอต่อการใช้งานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งขับขี่ไปออกทริป สำหรับตัวเฟรมรถนั้นเป็นเฟรมผสมแบบมิกซ์เพรสและเหล็กแบบท่อ ซึ่งจะให้ขับในเรื่องบาลานซ์ของรถให้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวรถ CB300R เองนั้นยังคงมีจุดเด่นด้วยการติดตั้งโช้คอัพด้านหน้ามาแบบ USD (หัวกลับ) ขนาด 41mm เบรกหน้าเป็นแบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ จานเบรกเป็นแบบโฟลตติ้งดิสก์ และ ABS แบบ IMU-based ในขณะที่ยางนั้นเป็นยางแบบเรเดียล ในส่วนหน้าจอการแสดงผลนั้นหากสังเกตดูจะพบว่า มันมีความคล้ายคลึงกันกับ CB150R เอามากๆ ในการวางตำแหน่งขององค์ประกอบต่างๆ ดังนั้นแล้วแน่นอนว่ามันจะมีไฟชิฟท์ไลท์ (ที่เอาไว้ช่วยเตือนในการเปลี่ยนเกียร์ เมื่อรอบถึงที่กำหนดไว้), ตัวเลขบอกตำแหน่งเกียร์ และรายละเอียดในการวัดค่าต่างๆ ซึ่งมาในรูปแบบของ Fully LCD (ดิจิตอลเต็มรูปแบบ) ในขณะที่ตัวถังน้ำมันนั้นจุมาให้อยู่ที่ 10 ลิตร ซึ่งทางค่ายเองนั้นได้ให้การเคลมข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองการใช้น้ำมันมาว่า เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30.2 กม. / ลิตร ดังนั้นแล้วหากบรรจุน้ำมันให้เต็มถึง เจ้า CB300R ก็จะวิ่งได้ถึงราวๆ 300 กม. กันเลยทีเดียว

CB42-770x5131-770x513

CB4 Interceptor

มาลองดูกันว่าในช่วงปี 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้นั้น ทางค่ายเองจะมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโมเดลนี้อย่างจริงจังกันอย่างไรบ้าง ซึ่งหากว่ามันจะมีการผลิตออกมาจริงๆ แน่นอนว่าราคามันก็จะต้องแพงไปกว่า CB300R อยู่ประมาณหนึ่งอย่างแน่นอน โดยอาจจะเทียบสัดส่วนราคาได้ระหว่าง CB1000R และ CB4 Interceptor ทาง GreatBiker จะมาอัพเดทกันอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพประกอบจาก julaksendiedesign.wordpress.com