Banner-Yamaha-EXCITER-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-EXCITER-2024-400x300.gif

เทคนิคในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าโค้งแบบสปอร์ต

blank

การเข้าโค้งของรถมอเตอร์ไซค์นั้น หลักๆ มีด้วยกัน 4 ท่าทาง โดยสามท่าทางหลักที่เรามักจะพบเห็นบ่อยที่สุดบนท้องถนน ประกอบไปด้วย Lin In, Lin Out และ Lin With ซึ่งทั้งสามท่านี้เหมาะสมกับการใช้งานบนท้องถนนสาธารณะทั่วไป แต่สำหรับการขับขี่ที่เร้าใจขั้นสุดก็คือการเข้าโค้งแบบ Hang on หรือที่เรามักจะเห็นกันตามสนามแข่ง ซึ่งวันนี้ทีมงาน GreatBiker จะพาเพื่อนๆไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการฝึกฝนการเข้าโค้งแบบนี้กันครับ

ชุดต้องพร้อมความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง

wtNtAy.gif

หลายๆ คนที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์อยู่ประจำมักจะมีชุดการ์ดหรืออุปกรณ์ป้องกันตัวเก่งที่มักจะใช้กันประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีนี้เราอยากจะแนะนำให้เพื่อน ลองมองหาชุดป้องกันที่มีความทนทานสูงเช่นพวกหนัง หรือ Racing Suit ที่มีการป้องกันที่ดีกว่าชุดป้องกันที่ทำจากผ้าทั่วๆไป จะเป็นแบบท่อนเดียว หรือสองท่อนก็ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือจะต้องไม่คับ หรือหลวมจนเกินไป การขยับตัวบนรถมอเตอร์ไซค์จะต้องทำได้อย่างสะดวกที่สุด ไม่ติดขัด เพราะการขับขี่แบบ Hang On นั้นเรื่องของการเคลื่อนตัวของผู้ขับขี่นั้นสำคัญเป็นที่สุด รวมถึงหมวกกันน็อคที่จะต้องพอดีกับศีรษะของผู้ขับขี่และมีการให้ทัศนวิสัยที่ดี ไม่ตีบแคบจนเกินไป ถุงมือควรจะเป็นแบบข้อยาวที่ปิดส่วนข้อมือทั้งหมด รองเท้าความเป็นรองเท้าบูทข้อยาวปิดบริเวณข้อเท้าหรือตาตุ่มจนมิด เพื่อป้องกันส่วนข้อต่อของกระดูกที่สามารถหักได้

ชุดพร้อมแล้ว รถก็ต้องพร้อมด้วย

wtNhxg.jpg

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่อยากให้เพ่อนๆใส่ใจกับมันเป็นพิเศษก็คือเรื่องของ “ยางรถ” ต้องตรวจสอบสภาพการใช้งานของตัวยางก่อนว่า พร้อมจะทำงานหรือไม่ ดอกยางยังมีอยู่หรือไม่ ถ้าหากดูแล้วไม่พร้อมสำหรับการใช้งานก็ต้องเปลี่ยนใหม่เสียก่อน เพราะยางเป็นเพียงส่วนเดียวของตัวรถที่ยึดเกาะกับถนน และมันมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ที่จะช่วยเสริมความมั่นใจในการขับขี่ของเรา และทำให้เราขับขี่ได้อย่างสนุกมากขึ้นอีกด้วย

ทุกอย่างพร้อม สถานที่ ก็ต้องเลือกนะ

wtNNaS.jpg

แน่นอนว่าการเข้าโค้งแบบ Hang On นั้นมักจะถูกใช้งานในสนามที่ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับมัน ซึ่งบางส่วนของถนนสาธารณะนั้น ก็สามารถทำได้แต่ ความปลอดภัยนั้นมันก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะการขับขี่บนท้องถนนเรามีผู้ร่วมใช้งานถนนกับเรา หรืออาจจะมีการเดินทางแบบสวนเลนท์กัน ดังนั้นแล้วหากเป็นไปได้ควรเลือกสถานที่เป็นสนาม หรือพื้นที่ปิด ที่ไม่มีการจารจรไปมาจะดีกว่าครับ กันได้ดีกว่าต้องมาแก้ไขภายหลัง

พร้อมแล้วลงสนามได้

wtN9W2.jpg

การขับขี่แบบ Hang On นั้น สำคัญที่สุดคือการเคลื่อนไหวของของผู้ขับขี่ โดยเราจะใช้ท่าทางของร่างกายเพื่อเป็นการกำหนดจุดศูนย์ถ่วงของรถ เช่นเมื่อเราจะเข้าโค้งไฮสปีดซ้าย การเตรียมตัวของเราคือ ขยับสะโพกให้ห้อยจากเบาะนั่งไปทางซ้าย กางเข้าซ้ายออก เข่าและขาขวาจะแนบไปกับตัวรถ แขนซ้ายงอเข้าหาตัว แขนขวาเหยียดตรงแต่ไม่ตึงจนเดินไป ศีรษะก้มต่ำ สายตามองไปยังทิศทางที่เราจะไป เมื่อความรู้สึกของเซนเซอร์เข่าซ้ายของเราสัมผัสกับพื้นถนน นั้นคือคุณสำเร็จแล้ว และเซนเซอร์เข้านั้นจะเป็นเหมือนกับตัวแจ้งเตือนเราว่า หากเอียงรถหรือโหนตัวมากกว่าไปกว่านี้ ตัวรถจะอยู่ในองศาที่เอียงจนเกินไป จนอาจจะเกิดการล้มได้ และระวังที่จะไม่แตะเบรกหน้าในขณะที่กำลังเอียงตัว เมื่อเรารู้สึกว่าเอียงมากไปหรือรู้สึกว่าใกล้จะล้นให้ทำการกดเบรกหลัง ย้ำว่าเบรกหลังนะครับ ตัวรถจะพยายามตั้งตัวให้ตรงเองโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เราก็ห้ามฝืนทิ้งน้ำหนักไปในทิศทางตรงข้ามด้วยนะครับ ไม่งั้นกดเบรกขนาดไหน รถก็จะไม่มีทางตั้งตัวตรงขึ้นมาได้ แต่มันจะกลายเป็นสไลด์จนไถลไปกับพื้นแทน เพื่อนๆสามารถฝึกซ้อมการข่าโค้งขวาแบนได้ โดยการสลับท่าทางไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่กล่าวข้างต้นครับ

wtNknW.jpg
สังเกตตำแหน่งร่างกายของผู้ขับขี่ จะโหนออกมานอกตัวรถเป็นส่วนมากเพื่อสร้างแรงโน้มให้ตัวรถเอียงเข้าโค้งไป โดยที่ความสำคัญนั้น เข้าไม่ต้องชิดไปติดกับพื้นสนามเสมอไป

เทคนิคสำหรับมือใหม่

wtNTK1.jpg

บอกตามตรงว่าการขับขี่แบบ Hang On นั้น ปัจจัยสำคัญคือความเร็ว หากเพื่อนๆ ที่เป็นมือใหม่ การขับขี่ด้วยความเร็วที่ไม่สูงมากนัก ก็อาจจะทำท่าทางการเข้าโค้งแบบนี้ได้ แต่เข่าคงไม่มีทางแตะพื้นได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากเราฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ จนเริ่มชิน ร่างกายสามารถสั่งการและจัดท่าทางได้เองแบบอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องคิดล่วงหน้า แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้รับรองได้ว่าข้าวของเพื่อนๆ จะรูดไปกับพื้นสนามอย่างแน่นอนครับ

wtN5PR.jpg

สำหรับการขับขี่แบบนี้ ขอย้ำว่าอาจจะไม่เหมาะสมกับการขับขี่บนท้องถนนสาธารณะสักเท่าไหร่  ซึ่งมันขึ้นอยู่กับสถาพของถนน การจารจรหนาแน่นมากน้อยเพียงใด ดังนั้น ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่าการฝึกซ้อมที่ถูกที่ถูกทาง ช่วยเซฟเราได้มากกว่า มีชีวิตอยู่ขี่มอเตอร์ไซค์คันโปรดไปนานๆ ดีกว่ามานั่งเสียใจกับความคึกคะนองไม่ถูกที่ถูกเวลาของเรานะครับ ขับขี่ปลอดภัยและสนุกกับมันนะครับทุกๆ ท่าน

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com