มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Fuell Fllow กำลังเข้าใกล้การผลิตจริงแล้ว!!!

Erik Buell เป็นผู้มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในอุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์กว่า 30 ปี เขาเคยทำงานเป็นวิศวกรให้กับ Harley-Davidson และได้ออกจากแบรนด์ครุยเซอร์อเมริกันช่วงปี 90s เพื่อก่อตั้งแบรนด์มอเตอร์ไซค์ของเขาเองนั่นคือ Buell Motorcycles หลังจากผ่านไปประมาณ 20 ปีแห่งความสับสนวุ่นวาย พวกเขาก็ได้กลับมาเปิดตัวแบรนด์ Fuell แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่ได้เปลี่ยนแปลงจากแนวทางจากรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาป มาเป็นแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า แบบ 100%

หลังจากที่เขาไม่ประสบความสำเร็จกับ Erik Buell Racing ซึ่งอย่างน้อยพวกเขาก็ได้ทำลายสถิติเวลาเร็วที่สุดในสนามแข่งบางสนาม หลังจากนั้น Buell ได้ประกาศว่าเขาจะกลับไปที่บริษัทและจะสร้างความร่วมมือกับ Francois-Xavier Terny และ Frédéric Vasseur ผู้สนับสนุน ของ Spark Racing ในรายการ Formula E เพื่อร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ใหม่ขึ้นมา

ในปีนี้ Fuell บริษัท Startup ของพวกเขาได้เปิดตัว สองคอนเซปไบค์ รถจักรยานไฟฟ้า Flluid และ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Fllow โดย Fllow นั้นได้ได้นำเสนอออกมาสองรุ่นได้แก่รุ่น 11 kW และรุ่น 35 kW ที่สามารถวิ่งได้ไกล 150 ไมล์ หรือประมาณ 241 กิโลเมตร ให้แรงบิดสูงสุดถึง 750 นิวตันเมตร (Nm) โดยให้สัญญาว่าราคาเริ่มต้นในรุ่นเล็กจะมีราคาต่ำกว่า 11,000 ดอลล่าร์ หรือราว 330,000 บาท

ซึ่งล่าสุดได้มีสิทธิบัตรของของทางค่ายเปิดออกมาแล้ว และแสดงให้เห็นว่ารถไฟฟ้าของพวกเขากำลังจะไปในทิศทางไหน โดยสิทธิบัตรนี้ได้อธิบายถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น Fllow ซึ่งพูดถึงการปรับตั้งช่วงล่าง และรายละเอียดอื่นๆ โดยภาพการออกแบบดีไซน์ของตัวรถในสิทธิบัตรนั้นให้รายละเอียดค่อนข้างชัดเจน

โดยจากภาพร่างนี้ได้ปรับเปลี่ยนเป็นล้อแม็กซ์ตามสมัยนิยม ส่วนล้อหน้ายังคงเป็นลายเดิม ซึ่งเป็นจุดขายหนึ่งของรถ ซึ่งในตอนนั้นทางแบรนด์ได้ตัดสินใจที่จะส่งกำลังลงไปที่ล้อหลังโดยตรง หรือที่เรียกว่า Wheel Motor แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้การส่งกำลังด้วยอุปกรณ์บางอย่างแทน ในส่วนของไฟหน้านั้นยังคงลักษณะเดิมที่มีเส้นสายเข้ากันดีกับแฟริ่งของตัวรถ

จากนี้ไปยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกลสำหรบพวกเขา โดยตอนนี้คุณสามารถจองรถล่วงหน้าได้ในราคา $500 หรือประมาณ 15,900 บาท ซึ่งจะเป็นทุนส่วนหนึ่งที่ช่วยให้พวกเขาสามารถผลิตรถขึ้นมาได้ ซึ่งสิทธิบัตรชุดนี้ก็เป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะส่งมอบรถให้ทันตามกำหนดการภายในสิ้นปี 2020

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก www.rideapart.com