Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

2019 Suzuka Endurance racing เวทีแห่งความสำเร็จของทีมเลือดไทย 100%

blank

รูปแบบการแข่งขัน Endurance racing นั้นอาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยหลายๆ คน แต่ก็มีจำนวนแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตไม่น้อยที่ติดตามรอชมการแข่งขันในรูปแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแข่งขันที่มากกว่าชัยชนะของรายการ Suzuka Endurance Racing ที่จัดขึ้นในทุกๆ ปีและนับว่าเป็นสนามสุดท้ายปิดฤดูกาลปกติของ EWC อีกด้วย และแน่นอนว่าในปีนี้ AP.Honda Racing Thailand นั้นก็ส่งทีมเข้าแข่งขันในรายการ 4 ชั่วโมง รายการย่อยของ Suzuka Endurance racing ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่สามแล้วที่ทีมสายเลือดไทย 100% ได้เข้าร่วมการแข่งขัน และแน่นอนว่า Greatbiker เองก็ได้ไปเกาะติดที่ขอบสนามและมีส่วนร่วมในการแข่งขันในปีนี้เช่นเดียวกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา

จุดเริ่มต้นของความฝัน

blank

หลังจากทีม AP.Honda ได้ตั้งโครงการ Race to the Dream เพื่อส่งเสริมกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย โดยมีการวางเป้าหมายสูงสุดในการส่งนักแข่งไทยไปสู่รายการแข่งขันระดับโลกอย่าง MotoGP ให้ได้ภายในปี 2025 ซึ่งแผนงานนี้ก็ดำเนินมาแล้วเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี และมีการส่งทีมเข้าร่วมในการเก็บประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในระดับเอเชียอย่าง ARRC (Asia Road Racing Championship) และยังมีการคัดเลือกนักแข่งหน้าใหม่เข้าสู่โครงการ AP.Honda Academy เพื่อปูทางนักแข่งเยาวชนสู่ระดับโลก และยังมีการแข่งขันไม่ว่าจะเป็น Honda Thailand Talent Cup และ Idamitsu Asia Talent Cup เป็นเวทีรองรับผลผลิตจากโครงการนี้ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งรายการอย่าง Suzuka Endurance 4 Hours ที่ทีมไทยส่งเข้าร่วมการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา

จากจุดสตาร์ท

บรรยากาศ Suzuka 4hr_170729_0056
AP.Honda Racing Thailand ในเวที Suzuka 4 Hours ในปี 2017 

ในปี 2017 ปีแรกที่ AP.Honda ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน Suzuka 4 Hours นั้นนับว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา เพราะนั้นคือการส่งทีมไทยแบบ 100% ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน ทีมช่าง ผู้บริหารทีม ผู้จัดการ และตัวนักแข่ง ล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยทั้งสิ้น ซึ่งผลของปีแรกที่เข้าร่วมนั้น AP.Honda Racing Thailand จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 4 ของตารางซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ปีแรกกับรูปแบบการแข่งขันที่ใหม่มากๆ โดยมีนักแข่ง อย่าง “เอ้” วรพงค์ มาลาหวล “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง และมือสำรอง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ที่ในวันแข่งจริงได้ลงทำการแข่งขันแบบเต็มเวลาแทน “ดรีม” ที่บาดเจ็บจากการล้มในช่วง Qualify ต่อมาในปี 2018 ทางทีมเองก็ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ได้ทำการเปลี่ยนตัวนักแข่งก่อนการแข่งขันเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขัน โดยได้คลื่นลูกใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่าง “ฟิลม์” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ที่ผนึกกำลังกับ “บิว” วริทธ์  ทองนพคุณ และนักแข่งสำรองอย่าง “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผลผลิตจาก AP.Honda Academy ลงทดสอบและสัมผัสกับประสบการณ์ในสนามแข่งระดับโลก โดยผลการแข่งขันในครั้งนั้น ทีมเลือดไทย 100% จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 7 ซึ่งเป็นผลงานที่น่าประทับใจมาก ซึ่งสองนักแข่งโดยเฉพาะ “บิว” นั้นเป็นการขยับขึ้นมาขับขี่รถในนคลาส 600 ซีซี เป็นครั้งแรก

ก้าวต่อไปเพื่อความสำเร็จ

KX3sCz.jpg

ในการแข่งขัน 2019 Suzuka Endurance 4 Hours นั้น AP.Honda Racing Thailand ก็ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันเป็นปีที่สามติดต่อกัน ซึ่งในปีนี้ทางทีมหมายมั่นถึงอันดับบนโพเดียมเป็นอย่างมาก ซึ่งผลจากการทำงานที่หนักตั้งแต่ช่วงซ้อม ทำให้ทีม AP.Honda Racing Thailand นั้นตกเป็นทีมเต็งของรายการทันที หลังจาก Qualify เข้ามาเป็นอันดับที่สอง เฉือดผู้ชนะในรอบนี้ไปไม่ถึง 1 วินาทีดี โดยหลังจากจบรอบคัดเลือก ทาง GreatBiker ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับสองนักแข่ง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “ฟิลม์” ปิยะวัฒน์ ประทุมยศ ถึงผลงานในรอบนี้

KX3Pgq.jpg
KX3VHP.jpg

“ในวันนี้ทางทีมงานทำได้อย่างเต็มที่มาก ตัวรถเซทได้ลงตัว โดยผลจากการ Qualify เราได้วางแผนว่า มุกข์ จะรับหน้าที่ไม้หนึ่ง ในจังหวะออกสตาร์ทและให้ ฟิล์ม เป็นไม้สองเพื่อเก็บในส่วนของรายละเอียดที่เหลือ ตอนนี้ค่อนข้างหวั่นใจกับสภาพอากาศที่แปรปรวน แต่เราจะทำให้ดีที่สุดและคว้าโพเดียมมาฝากชาวไทยให้ได้ ” มุกข์ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับทีมงาน Greatbiker หลังจบรอบ Qualify

เมื่อความฝันเดินทางสู่ความสำเร็จ

KX32F8.jpg

จากรอบ Qualify ที่ผ่านมาสภาพสนามโดยรวมนั้น มีอุณหภูมิที่สูง สภาพอากาศค่อนข้างร้อน แต่ในช่วงหลังจบการ Qualify กลับมีฝนตกลงมาอย่างหนาเม็ด ซึ่งเมื่อทางเราเช็กกับพยากรณ์อากาศ พบว่าในวันแข่งจริงนั้นจะมีฝนตกสูงถึง 90% ซึ่งก็เป็นไปตามที่พยากรณ์อากาศได้บอกไว้ วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมามีฝนตกหนักสลับเบาตลอดทั้งวัน ทำให้การแข่งขันในรอบสุดท้ายนั้น ถูกประกาศให้เป็น Wet Race ซึ่งส่งผลโดยตรงกับทีม AP.Honda และทีมอื่นๆ เพราะในช่วงซ้อมและช่วง Qualify นั้นสภาพสนามแห้งและมีอุณหภูมิที่สูงตลอดเวลา ซึ่งงานนี้ปัญหาใหญ่ตกอยู่ที่ทีมช่างและนักแข่ง ที่ต้องเซ็ทรถกันถึงดึกเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสนามในวันแข่งจริง และเมื่อเวลาแข่งมาถึง จากการทำงานอย่างหนักบวกกับฝีมือของสองนักบิด ก็ทำให้ผลการแข่งขันเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งทีม AP.Honda Racing Thailand นั้นสามารถจบการแข่งขันในอันดับที่หนึ่ง หลังจากผู้ควบคุมการแข่งขันประกาศยุติการแข่งขันไปก่อนเวลา 1 ชั่วโมงเศษๆ เนื่องจากสภาพสนามนั้นไม่พร้อมกับการแข่งขัน

KX36o0.jpg
KX3nGu.jpg
KX38fZ.jpg
KX3HqI.jpg

จะบอกว่าโชคช่วย ฟ้าฝนเป็นใจต่อการแข่งขันก็คงจะไม่ได้ เพราะในวันแข่งจริงนั้น ทั้ง “มุกข์” และ “ฟิลม์” ทำผลงานได้ดีกว่าใคร โดยที่ “มุกข์” นั้นถึงจะออกสตาร์ทได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ก็ค่อยๆใช้ความแม่นยำและทักษะที่เหนือกว่านักแข่งคนอื่นๆ ค่อยๆ แซงทำอันดับขึ้นไป และมี “ฟิลม์” ที่เรียกได้ว่าเป็นสาย sprint ที่รวดเร็วและทำเวลาได้อย่างคงที่ เฉลี่ย 2”23 นาทีต่อรอบ ซึ่งทำให้ทีม Ap.Honda Racing Thailand นั้นมีจำนวนรอบการแข่งขันที่นำผู้ตามอยู่ถึง 2 รอบ ก่อนที่คณะกรรมการจะประกาศยุติการแข่งขัน อีกทั้งสองนักบิดเองก็มีข้อผิดพลาดน้อยมาก รวมไปถึงการทำงานของทีมช่างที่ราบลื่นและรวดเร็วก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งให้ทีมเป็นผู้ชนะได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ชัยชนะที่หอมหวานและความฝันที่กลายเป็นจริง

KX3A7a.jpg

จากผลการแข่งขันในครั้งนี้ ส่งผลให้ AP.Honda Racing Thailand ทีมแข่งสายเลือดไทย 100% สามารถขยับขึ้นสู่บังลังก์แชมป์ Suzuka Endurance 4 Hours ได้สำเร็จ อีกทั้ง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช เองก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับรายการนี้ ด้วยการเป็นนักแข่งหญิงคนแรกที่ชนะในรายการ และได้รับคำยกย่องจากบรรดาสื่อภายในประเทศญี่ปุ่น และเอเชีย เป็นอย่างมาก สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย และนับว่าเป็นความสำเร็จขั้นสูงสุดของทีมแข่งสายเลือดไทย จากการเข้าร่วมการแข่งขันมาตลอดสามปีที่ผ่านมา

KX3lqb.jpg

“พวกเรา AP.Honda Racing Thailand เป็นผู้ชนะ” มุกข์ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์หลังคว้าชัยชนะ “พวกเราทำงานกันเป็นทีม หากไม่มีทีมคอย Support เราในการแข่ง ลำพังนักแข่งเพียงสองคนไม่มีทางที่จะชนะในรายการนี้ได้ พวกเราสองคนขอยกแชมป์นี้ให้กับคนภายในทีมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ทีมช่าง ผู้ประสานงาน และ บิว ที่ซัพพอร์ตเรามาโดยตลอด เล็งเห็นถึงศักยภาพภายในตัวพวกเรา และความพยายามของพวกเราก็ได้ผลสำเร็จในที่สุด”

ความสำเร็จในครั้งนี้คือบันไดสู่ความฝันที่ใหญ่กว่า

KX3vCl.jpg

อย่างที่ได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นบทความ โครงการ Race to the Dream ของ AP.Honda นั้นเป็นโครงการระยะยาวที่มีเป้าหมายสูงสุดในการส่งนักแข่งไทยสู่สังเวียนระดับโลก MotoGP ภายในปี 2025 ซึ่งผลจากชัยชนะในครั้งนี้ เป็นเหมือนกับบันไดที่ทางทีมกำลังก้าวขึ้นมายืนได้อย่างเต็มลำแข้ง แต่ความสำเร็จระดับนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หนทางของความฝันยังคงอีกยาว และทีมงานก็ยังมีงานที่หนักกว่ารออยู่ หนทางสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ยังรอพวกเค้าอยู่ และแน่นอนว่าพวกเราคนไทยเอง ก็อยากจะเห็นความสำเร็จครั้งต่อไปของทีมไทยที่มีคุณภาพอย่าง AP.Honda Racing Thailand อีกต่อๆไป

KX3utR.jpg

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัทเอ.พี ฮอนด้า ที่ได้ชวน Greatbiker ร่วมทริปและไปเกาะติดการแข่งขัน ณ สนาม Suzuka Circuit ประเทศญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม ตลอด 6 วัน 5 คืน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป ส่วนจะเป็นรายการไหนนั้นติดตามและส่งแรงใจเชียร์ทีมคนไทย 100% ได้ที่ AP.Honda Racing Thailand