Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

Alex Rins ขวัญใจคนใหม่ของ Suzuki

blank

ในช่วงเวลานี้หากจะมองหานักแข่งที่กำลังมาแรง จนทำให้หลายคนต้องเมียงมอง ชื่อของ Alex Rins จะต้องมีอยู่ในลิสต์นั้นอย่างแน่นอน วันนี้ทีมงาน Greatbiker อยากพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับนักแข่งหัวฟูคนนี้ให้มากขึ้น

wvFfCa.jpg
Alex Rins

Alex Rins Navarro  คือชื่อเต็มๆของเจ้าตัว เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1995 ที่เมือง Barcelona เมืองหลวงของแคว้น Catalunya และก็เป็นเมืองสำหรับสาย Motorsport อย่างแท้จริง จุดเริ่มต้นของการเป็นนักแข่งรถนั้นเกิดจากการที่ Rafaei Rins ผู้เป็นพ่อนั้นต้องการให้ลูกชายนั้นได้ออกกำลังกาย โดยได้สังเกตเห็น Alex ที่ชื่นชอบความเร็วมาตั้งแต่เด็ก จึงได้ส่งเข้าไปเรียนวิชาที่ Racing School และส่งเสริมให้เจ้าตัวได้ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งในปี 2011 Alex Rins สามารถคว้าแชมป์ระดับประเทศในรายการ Spanish  Grand Prix ในรุ่น 125 ซีซี จนไปเข้าตาของ Emilito Alzamora Escardibui อดีตแชมป์โลก 125 ซีซี ชาวสเปน เจ้าของทีมแข่งในระดับ Moto3 จึงได้ทำการเช็นสัญญากับ Alex Rins และเริ่มต้นอาชีพนักแข่งอย่างเป็นทางการในปี 2012 กับต้นสังกัด Estrella Galicia 0,0 ซึ่งในปีแรกของ WorldGP ของ Alex Rins นั้นก็เลือกใช้หมายเลข 42 เป็นหมายเลขประจำตัวและใช้ยางยาวนานจนถึงปัจจุบัน

wvFRIe.jpg
Alex Rins, Migurl Olivera และ Alex Marquez กับต้นสังกัด Estrella Galicia 0,0 ในปี 2012

ในปีแรกกับระดับ Moto3 นั้น Alex Rins ได้โชว์ความสามารถไว้ได้อย่างน่าประทับใจ ถึงแม้ว่าผลงานจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ก็คว้าไปได้ 1 โพดียม กับอีก 1 Pole Position จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 5 ซึ่งแชมป์ Moto3 ในฤดูกาลนั้นคือ Sandro Cortes ที่ปัจจุบันไปแข่งอยู่ในรายการรองอย่าง WSBK กับทีม Yamaha GRT และในฤดูกาลนั้น Alex Rins เรียกได้ว่าเป็นไม่เบื่อไม่เมากับ Maverick Vinales ที่ทั้งสองต่างคั่วโพเดียมด้วยกันตลอดทั้งฤดูกาล

wvFTJR.jpg

ในปีต่อมาฤดูกาล 2013 Alex Rins ยังคงอยู่กับต้นสังกัดเดิม แต่ในฤดูกาลนี้ทีมได้เปลี่ยนจากรถของ Suter มาเป็นรถของ KTM ซึ่งดูเหมือนจะเข้ามือของ Alex Rins เป็นอย่างมาก โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวประเดิมชัยชนะครั้งแรกใน WorldGP ได้ตั้งแต่สนามที่ 2 ของการแข่งขันที่สนาม Austin สหรัฐอเมริกา และยังสามารถเก็บชัยชนะไปได้อีก 5 สนามต่อจากนั้น ขึ้นไปฉลองบนโพเดียม 14 ครั้ง และได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งผู้นำอีก 8 ครั้ง เก็บไปได้ 311 คะแนนและปิดฉากฤดูกาลด้วยอันดับที่ 2 โดยแชมป์ในปีนั้นก็คือ Maverick Vinales ซึ่งกว่าที่จะตัดสินแชมป์ได้นั้นก็ต้องไล้ล่ากันจนถึงสนามรองสุดท้าย ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สนาม Motegi ประเทศญี่ปุ่น โดย Vinales สามารถคว้าอันดับ 2 ได้ ส่วน Rins พลาดล้มไปเองแต่ก็ยังเอารถกลับมาแข่งต่อ แต่ก็ไม่สามารถไล่ได้ทันจบในอันดับที่ 24 ต้องลุ้นให้ Vinales ไม่จบการแข่งขันที่ Valencia แต่อะไรๆก็ไม่เป็นใจเพราะ Vinales แสดงถึงศักยภาพของแชมป์ด้วยการคว้าชัยชนะได้สำเร็จ ส่วนตัว Rins เองทำดีที่สุดในอันดับที่ 3 จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 2 ที่น่าช้ำใจนัก และผลจากฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่าจะส่งผลต่อเนื่องกับเจ้าตัว เพราะในฤดูกาลต่อมาเจ้าตัวฟอร์มรูดลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าจะได้ทีมเดิมเข้ามาดูแลแต่การเปลี่ยนตัวรถใหม่จาก KTM เป็น Honda นั้นจะส่งผลไม่น้อย โดยฤดูกาล 2014 นั้น Alex Rins คว้าชัยชนะมาได้เพียง 2 สนาม ขึ้นโพเดียม 8 ครั้ง Pole อีก 4 จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 ตรงข้ามกับเพื่อนร่วมทีม Alec Marquez ที่ขับเคี่ยวกับ Jack Miller ชนิดสนามต่อสนาม จนต้องตัดสินแชมป์กันในสนามสุดท้าย

wvFKVZ.jpg
Alex Rins กับต้นสังกัดใหม่ Paginas Amarillas HP ปี 2015

ต่อมาในฤดูกาล 2015 Alex Rins ตัดสินใจขยับตัวเองขึ้นไปหาความท้าทายครั้งใหม่ หลังจากได้รับการทาบทามจากทีม Pons Racing ที่ในช่วงเวลานั้นทำทีม Paginas Amarillas HP 40 อยู่ในระดับ Moto2 ที่เสียนักแข่งตัวหลัก Maverick Vinales ไปให้กับทีมใน MotoGP ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อโอกาสมาถึง Alex Rins ก็ไม่ปล่อยโอกาสให้ลอยนวล และในปีนั้นเจ้าตัวได้เปลี่ยนหมายเลขประจำตัวจาก 42 ไปเป็น 40 ในฤดูกาลแรกของ Intermediate Class ถึงจะไม่สามารถเก็บแชมป์สนามได้มากมายนัก แต่เจ้าตัวก็สามารถรักษาอันดับและจบการแข่งขันบนโพเดียมได้มากถึง 10 สนาม กับอีก 2 แชมป์ แค่ปีแรกก็มาได้ถึงตำแหน่งรองแชมป์เลยทีเดียว ส่วนในปีต่อมาเจ้าตัวยังคงอยู่กับต้นสังกัดเดิมและยังคงรักษาฟอร์มไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 และพร้อมไปต่อในระดับสูงสุดอย่าง MotoGP

wvF9o8.jpg
Alex Rins กับต้นสังกัดใหม่ Ecstar Suzuki ในปี 2017

ปี 2017 ปีแรกของ Alex Rins บนสังเวียน MotoGP เรียกได้ว่าเป็นการวัดรอยเท้าอีกครั้งระหว่างเจ้าตัวกับ Maverick Vinales เพราะ Alex Rins ย้ายเข้าสังกัด Ecstar Suzuki เพื่อมาแทนที่ Vinales หลังจาก “พ่อหนุ่ม Topgun” ย้ายไปสังกัดทีม Yamaha และด้วยผลงานที่ Vinales สร้างไว้กับทีม จนทำให้ทีมต้องเจอบททดสอบใหม่ในปีนั้น นั้นก็คือกติกา Old Factory ที่จะถูกจำกัดสิทธิ์ในการพัฒนาและทดสอบ นอกจากนี้เจ้าตัวยังจะต้องได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อมือในการฝึกซ้อมที่สนาม Austin จนต้องพักการแข่งไปนานกว่า 2 เดือน พลาดการลงสนามให้ต้นสังกัดไป 5 สนาม จบฤดูกาลแรกในระดับสูงสุดด้วยคะแนนสะสม 59 แต้ม อยู่ในอันดับที่ 16 ถือว่าเป็นอันดับที่อาจจะไม่น่าเกลียดอะไรสำหรับรุกกี้หน้าใหม่ แต่นั้นก็คืออันดับที่แย่ที่สุดในอาชีพนักแข่งของ Alex Rins เลยก็ว่าได้

wvFcSI.jpg

ฤดูกาล 2018 การกลับมาอีกครั้งหลังจากร่างกายและจิตใจได้รับการฟื้นฟู Alex Rins พยายามอย่างหนักเพื่อการต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมต่อไป และเจ้าตัวก็ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าหลังจาก Davide Brivio ตัดสินใจที่จะเก็บเจ้าตัวไว้ใช้งานในฐานะตัวหลักของทีม และปล่อย Andrea Iannone ออกจากทีมไป ซึ่งในช่วงเวลานั้น กลายเป็นความกดดันของ Rins เป็นอย่างมาก แต่ในเมื่อคนมันมีของจะอยู่ที่ไหนยังไงก็ฉายแสง Alex Rins ประกาศศักดาและตอบแทนคำเชื่อมั่นของผู้จัดการทีมด้วยการขึ้นไปฉลองบนโพเดียม 5 ครั้ง เก็บไปได้ 169 คะแนนจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 5 และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความสามารถที่สามารถไปต่อได้ในระดับสูงสุด

wvFwh0.jpg
Joan Mir และ Alex Rinsทีม Ecstar Suzuki ปี 2019

มาถึงฤดูกาล 2019 ฤดูกาลที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือนจุดพีคที่สุด ด้วยความต่อเนื่องของฟอร์มที่โดดเด่น Alex Rins ของการแข่งขันด้วยอันดับ Top6 ติดต่อกันถึง 11 สนาม และยังสามารถคว้าแชมป์แรกของการแข่งขันที่สนาม Austin สนามเดียวกับที่เจ้าตัวเปิดซิงแชมป์สนามในระดับ Moto3 เวลานี้ผ่านไปแล้ว 5 สนาม เจ้าตัวยังมีคะแนนสะสมอยู่ที่ 3 มี 75 คะแนนห่างจากผู้นำ Marc Marquez อยู่ 20 แต้ม และยังมีโอกาสที่จะสามารถขยับขึ้นไปให้ใกล้เคียงกว่านี้ โดยที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 13 สนาม ฤดูกาลนี้อาจจะไม่ถึงการเดินทางครึ่งสนามดีสักเท่าไหร่ แต่ความมันส์ในการลุ้นแชมป์นั้นเรียกได้ว่าไม่ทิ้งห่าง แฟนๆ ของ “เจ้าฟู” Alex Rins ก็ต้องตามเชียร์กันต่อไปครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motogp.com