Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

5 บุคคลที่ควรเอาเยี่ยง และ 5 บุคคลที่ไม่ควรเอาอย่างในโลกมอเตอร์ไซค์

5 บุคคลที่ควรเอาเยี่ยง และ 5 บุคคลที่ไม่ควรเอาอย่างในโลกมอเตอร์ไซค์

ในโลกของมอเตอร์ไซค์นั้นมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ในหนึ่งในเหตุการณ์ที่แสนจะประทับใจนั้นก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ไม่น้อย แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น เมื่อมีขั้วบวกก็ต้องมีขั้วลบ เราเลยอยากนำเอา 5 บุคคลในวงการมอเตอร์ไซค์ที่สร้างแรงบันดาลใจและ อีก 5 คนที่เป็นเหมือนกับขั้วตรงข้ามกัน

5 บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ

Soichiro Honda

1

ชายหน้าตาใจดีชาวญี่ปุ่นที่นามสกุลเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก Soichiro Honda เจ้าของธุรกิจยานยนต์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้านเหรียญดอลล่าร์ แน่นอนว่านอกจากเค้าจะเป็นผู้ให้กำเนิดแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Honda และเป็นมหาเศรษฐีที่ติดอยู่ในอันดับ Top 100 คนของโลกแล้ว แต่ Soichiro Honda เองก็มีมุมมืดของชีวิตและจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้แตกต่างอะไรกับคนธรรมดาทั่วๆไป เค้าเริ่มต้นอาชีพนักธุรกิจตั้งแต่ในวัยเด็กในร้านขายเหล็กของพ่อ ด้วยการสร้างตราประทับปลอม เพื่อขายให้กับเพื่อนๆ โดยตราประทับนั้นจะเป็นเหมือนกับลายเซ็นตอบรับเอกสารตามธรรมเนียมของประเทศญี่ปุ่น โดยเจตนาของ Soichiro Honda นั้นต้องการทำตราประทับปลอมนี้เพื่อช่วยให้เพื่อนๆ ที่มีผลการเรียนที่ไม่สู้ดีนัก ผ่านพ้นปัญหาจากผลการเรียนที่ทางโรงเรียนมอบให้กับผู้ปกครอง และตราประทับนั้นก็เป็นเครื่องหมายเชิงรับรู้จากผู้ปกครองนั่นเอง

ในช่วงยุคเริ่มต้นของ Soichiro Honda ในการสร้างแบรนด์ Honda คือการแสดงออกทางเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างรถแข่งเพื่อทำให้โลกได้รู้ว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นก็มีความสามารถไม่แตกต่างไปจากชาติตะวันตก ถึงแม้จะโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และการลดทุนที่ไร้ขอบเขตกับรถแข่งของเจ้าตัว แต่เจ้าตัวก็ยืนหยัดในแนวคิดของตัวเอง จนกระทั่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันแรกที่ผลิตในเอเชีย และสามารถจบการแข่งขันในรายการ Isle of Man TT รายการที่โหดที่สุดของโลก ถึงแม้จะไม่สามารถคว้ารางวัลอะไรติดไม้ติดมือมาได้แต่นั้นเป็นจุดที่ประกาศให้โลกได้รู้ว่า Honda และประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ด้อยค่าหรือว่าแตกต่างจากฝรั่งมากมายนัก

Barry Sheene MBE

2

Barry Sheene ตำนานนักแข่งชาวอังกฤษเติบโตในกรุงลอนดอนเมืองหลวงของประเทศ แต่ว่าชีวิตในวัยเด็กของ Barry Sheene นั้นค่อนข้างลำบาก เค้าต้องรับหน้าที่ช่วยครอบครัวในการหารายได้จากการขี่มอเตอร์ไซค์ส่งข้อความและเอกสารในเมือง ผ่านซอกซอยแคบๆ โดยมีเรื่องของเวลาเป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่ด้วยทักษะที่ไม่ได้ผ่านการร่ำเรียน แต่ลงมือปฎิบัติจริง ก็ส่งผลให้เค้าก้าวเข้าสู่วงการนักแข่งรถและกลายเป็นนักแข่งที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ หลังจากการเสียชีวิตของ Barry Sheene ในปี 2003 ด้วยการที่เค้าเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตเป็นอย่างมาก สนาม Philip Island ในประเทศออสเตรเลีย ก็ได้อุทิศ ธงที่จะตีในรอบ Cooldown Lap โดยเปลี่ยนจากธงตราหมากรุกที่เราคุ้นตาเป็นหมายเลข 7 หมายเลขประจำตัวแข่งของ Barry Sheene เพื่อเป็นการรำลึกถึง

Massimo Tamburini

3

นักออกแบบชาวอิตาเลี่ยน Massimo Tamburini นับว่าเป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่าที่สุดคนหนึ่งในโลกมอเตอร์ไซค์ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่นักแข่งที่เก่งกาจ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ Massimo Tamburini คือนักออกแบบที่สร้างไอคอน และภาพจำมากมายให้กับแบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่เค้าไปร่วมงานด้วย Massimo Tamburini ผ่านงานมาอย่างมากมายทั้ง Bimota, Cagiva, Ducati และ MV Agusta โดยผลงานที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตัวมากที่สุดคือ Ducati 916 รถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งระดับไอคอนของยุค 90 เชื่อได้ว่าเหล่าไบค์เกอร์ที่อายุเกิน 30 ทุกท่านจะต้องรู้จักกับโมเดลนี้และต้องมีภาพจำที่งดงามกับเจ้าสปอร์ตคันงามอย่างแน่นอน

John Bloor

4

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแบบสุดกับ Triumph แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในแนวหน้าของโลกยุคปัจจุบัน แต่ใครจะรู้บ้างว่าแท้ที่จริงแล้ว John Bloor ต้องการซื้อกิจการของ Triumph เพียวเพราะต้องการที่ดินของโรงงานผลิตเพื่อการสร้างบ้านเท่านั้น!! เค้าไม่ได้สนใจในตัวรถมอเตอร์ไซค์เลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยการถือหุ้นครองในกลุ่ม BSA และมองเห็นความเป็นไปได้ในโลกของมอเตอร์ไซค์ในเชิงธุรกิจ John Bloor ทำการปรับปรุง Triumph ขึ้นมาใหม่ลดระดับความเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์เพื่อให้เข้าถึงกับทุกคน และสร้างฐานแฟนขึ้นมาใหม่ จะว่ากันไปมันค่อนข้างสวนทางกับแบรนด์คู่แข่งอย่าง Norton ที่ทุกวันนี้มีแต่ทรุดลง และท้ายที่สุดก็ต้องขายกิจการให้กับบริษัทผู้ผลิตชาวอินเดียไป

Burt Munro

5

ชายชาวนิวซีแลนด์ที่เกิดในปี 1899 นักสร้างรถมอเตอร์ไซค์ นักแข่ง และวิศวกรที่แทบไม่มีคนรู้จัก แต่ชายที่เหมือนจะไร้ตัวตนคนนี้มีความฝันที่ใหญ่ที่สุดอันหนึ่งบนโลกมอเตอร์ไซค์ ด้วยการต้องการที่จะเป็นชายที่เร็วที่สุดในโลก และเค้าก็ทำสำเร็จและไม่ใช่เพียงครั้งเดียว เจ้าตัวครองสถิติโลกชายที่เร็วที่สุดในโลกถึง 3 ครั้ง ในปี 1962,1966 และ 1967 บนการแข่งด้วยความเร็วสูงที่ Bonneville Speed Week หากอาจจะรู้ประวัติของเค้าให้มากขึ้นก็ลองไปหาภาพยนต์เรื่อง the World’s Fastest Indian ดูได้เลย

5 บุคคลที่ยากเกินบรรยาย

Stuart Garner

6

เชื่อได้ว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาชื่อของ Stuart Garner เพื่อนๆ น่าจะได้ยินกันบ่อยมากๆ เพราะซีอีโอของแบรนด์ Norton แบรนด์ที่มีความเก่าแก่อายุเกิน 100 ปีจากประเทศอังกฤษ นั้นอยู่ในครอบครองของเค้า แต่มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่แบรนด์มอเตอร์ไซค์จะล้มหาตายจากไปภายใต้การดูแลที่ไร้ประสิทธิภาพ หรือการบริหารที่ผิดพลาดของคนใหญ่คนโตในองค์กร แต่ Norton ถูกพ่วงมากับการคดโกง ปกปิด คำโกหก ซึ่งนั้นคือการทำร้ายแบรนด์ที่มีอายุเกินศตววรษได้อย่างร้ายกาจ

Romano Fenati

7

นักแข่งหัวร้อนชาวอิตาลี่ ที่ถึงแม้จะมีพรสวรรค์แต่พฤติกรรมเรียกได้ว่าติดลบ ทั้งพฤติกรรมห้าวกลางงัดกับ Valentino Rossi ผู้เป็นเหมือนอาจารย์เจ้าของแคมป์ VR46 โรงเรียนที่บ่มเพาะนักแข่งขึ้นมาประดับวงการมอเตอร์ไซค์ และพฤติกรรมที่ร้ายแรงที่สุดของเจ้าตัวคือการเจตนากำเบรกหน้าของ Stefano Manzi นักแข่งเพื่อนร่วมชาติบนความเร็วรถเกือบๆ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากไม่พอใจที่ Manzi ปะทะกับเค้าในสนาม จนโดน FIM ลงดาบยึดใบอนุญาตแข่งและสังปรับด้วยจำนวนเงิน อีกทั้งอนาคตของ Romano Fenati เองก็ดับวูบโดยต้นสังกัดใหม่ที่เซ็นไว้ล่วงหน้ายกเลิกสัญญา และที่เจ็บกว่าคือ MV Agusta ต้นสังกัดใหม่ หันไปคว้าเอา Manzi คู่กรณีของเจ้าตัวมาลงแข่งแทน ถึงปัจจุบัน Fenati จะกลับมาแข่งในระดับ Moto3 และเริ่มมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น แต่ภาพเก่าๆ ที่ติดตัวมาก็ยังคงหลอกหลอนเจ้าตัวอยู่อย่างแน่นอน

Jason Lawrence

8

ดาวบิด Supercross ในรายการ AMA Supercross ชาวอเมริกัน นอกจากจะเป็นนักบิดตะลุยทางฝุ่นที่มีฝีมือคนหนึ่งแล้ว เจ้าตัวถูกยกให้เป็นคนเจ้าอารมณ์ และมีสภาวะขาดสติง่ายที่สุดคนหนึ่งในรายการ AMA โดยเจ้าตัวถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวถึง 2 ครั้ง ด้วยโทษฐานทำร้ายร่างกาย โดยครั้งแรกนั้นเป็นการชกต่อยที่ไม่ร้ายแรง เพราะถูกเจ้าหน้าที่จับแยกได้ทัน แต่ในที่สุดเจ้าตัวก็มากระทำผิดซ้ำสอง แต่คราวนี้เจ้าตัวใช้อาวุธเป็นแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของเจ้าหน้าที่ทีมของตัวเองจนกระทั่งบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตัว Jason Lawrence เองต้องถูกพักการแข่งและถูกปรับเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังถูกส่งเข้าบำบัดในสถานบำบัดเรื่องอารมณ์อีกด้วย

Anthony Gobert

9

นักบิดจอมเพนจรชาวออสซี่ ที่อดีตเคยเป็นถึงนักแข่งทีมโรงงานในเวที WordlSBK กับ Kawasaki ในช่วงปี 1995-1996 และมีประสบการณ์ในฐานะของนักแข่ง WorldGP 500 ซีซี ในปี 1997 กับ Suzuki แต่ด้วยอุปนิสัยอันแปลกประหลาด เป็นคนที่หลงใหลการลักเล็กขโมยน้อย ทำให้ในปี 2008 Anthony Gobert ถูกตำรวจออสเตรเลียจับและตั้งข้อหา 2 กระทง หลังจากที่เจ้าตัวได้ขโมยตั๋วเงินจากชายชราวัย 70 ปีในซุปเปอร์มาร์เก็ตและขโมยกระเป๋าเงินของหญิงสาวในวันรุ่งขึ้น จนทำให้ Suzuki ต้นสังกัดที่หมายมั่นจะส่งเจ้าตัวเข้าร่วมการแข่งขันในเวที WorldSBK ต้องยกเลิกสัญญาไปในปีนั้น

Juan Garriga

10

อดีตนักแข่งสัญชาติสเปนทีมีดีกรีเป็นถึงนักแข่งในระดับ 250 ซีซี ใน WorldGP แถมยังเป็นชนะถึง 3 ครั้งและครองตำแหน่งรองแชมป์โลกในปี 1988 และถูกขยับขึ้นไปแข่งในระดับ 500 ซีซี กับทีมโรงงาน Ducati แต่เมื่ออาชีพนักแข่งของเค้าจบลงในปี 1993 เจ้าตัวกลับหันหลังให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตและมุ่งสู่สายมืดอย่างแท้จริง โดยเจ้าตัวเคยถูกลงโทษจำคุงเป็นเวลาสองปี หลังจากผันตัวไปเป็นพ่อค้ายาและอาวุธผิดกฏหมาย แต่วาระสุดท้ายของเจ้าตัวก็มาจากไป บนสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุด Juan Garriga เสียชีวิตในเดือนสิงหาคม ปี 2015 หลังประสบอุบัติเหตุจากอุบัติเหตุบนมอเตอร์ไซค์ด้วยวัย 52 ปี

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com