Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

10 รถมอเตอร์ไซค์สองจังหวะ 125 ซีซี ยอดเยี่ยมตลอดกาล

blank

ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 80’s รอยต่อช่วง 90’s นับว่าเป็นปีทองของรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตสองจังหวะ ที่มีหลากหลายโมเดลจากหลากหลายผู้ผลิต ได้เรียงหน้าลงตลาดรถมอเตอร์ไซค์ และบางรุ่นก็กลายเป็นที่สุดของไลน์ตลอดกาล และในบทความนี้เราจะขอพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ 10 รถมอเตอร์ไซค์สองจังหวะในพิกัด 125 ซีซี ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลกันครับ

433d11f8c387f86ca4758e3b1935429a.jpg
1988-2002 Honda NSR125

โมเดลตำนานจากค่ายปีกนก Honda ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานเป็นพิเศษ ภายใต้รหัส NSR ที่จัดว่าเป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งที่ดีที่สุดของโลก โดยเจ้า NSR125 นั้นมีการผลิตและจำหน่ายด้วยกันสองรุ่นประกอบไปด้วย J20 ในปี 1988-1994 และเจนเนอเรชั่นสุดท้าย JC22 ในปี 1995-2002 มันโดดเด่นด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ 1 ลูกสูบ 124.8 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตเดียวกับเครื่องยนต์ของรถแข่งจากรายการ WorldGP (MotoGP ในปัจจุบัน) สามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ 15.0 แรงม้า (HP) ที่ 9,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 15 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

68614e7ac6af6e905dc69883948832b4.jpg

1991 Gilera CX125

ยอดผลผลิตจากประเทศอิตาลี Gilera CX125 จัดว่าเป็นอีกนวัตกรรมเปลี่ยนโลกมอเตอร์ไซค์ มันโดดเด่นด้วยงานออกแบบที่ล้ำสมัย อีกทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างออกไปจากคู่แข่งอย่าง ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Paloli Forls แบบแขนเดี่ยว สวิงอาร์มหลังแบบ Single Side ล้ออัลลอยด์แบบตัน ที่ภายในล้อจะมีการติดตั้งจานดิสก์เบรกขนาด 300 มิลลิเมตร และ 240 มิลลิเมตร อยู่ภายใน และด้วยความพิเศษของชุดบังคับเลี้ยวด้านหน้า ทำให้ตัวรถ CX125 นั้นมีการวาดวงเลี้ยวได้มากถึง 60 องศาซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ในส่วนของขุมกำลังขนาด 124 ซีซี 1 ลูกสูบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว ให้กำลังสูงสุด 29.3 แรงม้า (HP) ที่ 9,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 18 นิวตันเมตรที่ 10,250 รอบต่อนาที จัดว่าแรงจัดเต็มมากๆ

b61388df30b4063d70f45ea5b7e18660.jpg

2005-2009 Derbi GPR125

จากผลงานผู้ผลิตสัญชาติสเปน ที่เปรียบเสมือนร่างเงาของ Gilera SC125 ซึ่งเจ้า Derbi GPR125 นั้นมีการผลิตออกมาตั้งแต่ปี 2005-2009 โดยใช้เครื่องยนต์ที่ยกแปลนมาจาก Yamaha TZR125 แต่มีการปรับเปลี่ยนระบบการจุดระเบิดใหม่ และวางระบบไอเสียใหม่ทำให้กำลังสูงสุดนั้นมีมากถึง 33 แรงม้า (HP) โดยส่วนหนึ่งเป็นการดึงกำลังจากระบบวาล์ว Yamaha Power Valve System ที่เป็นเอกลักษณ์ และในปี 2010 ทางต้นสังกัดก็มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์จากสองจังหวะสู่เครื่องยนต์สี่จังหวะ แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

546560d4d1f91e6bb8c80e2d43103f81.jpg

1987-1997 Yamaha TZR150

น้องเล็กจากตระกูล TZR ของ Yamaha เจ้าของเทคโนโลยี Yamaha Power Valve System ที่มีการผลิตและจัดจำหน่ายตั้งแต่ปี 1987 -1997 นับว่าเป็นช่วงเวลา 10 ปีที่ยอดเยี่ยมจากค่ายส้อมเสียง โดยตลอด 10 ปีของการผลิตนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของโครงสร้างแบบ All-New เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่จะมีการอัพเดตโมเดลในส่วนของรายละเอียดต่างๆ แบบรายปี ทำให้โมเดลนั้นมีความใหม่สดตลอดเวลา โดยขุมกำลังหลักจะเป็นเครื่องยนต์ 1 ลูกสูบ 124.2 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว มีกำลังสูงสุด 26 แรงม้า (HP) ที่ 10,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 17.6 นิวตันเมตรที่ 10,000 รอบต่อนาที แต่น่าเสียดายที่ตัวรถนั้นมีจุดอ่อนค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องของการรีดกำลังสูงสุดจะต้องใช้รอบสูงมากๆ และที่เป็นปัญหาหลักๆ ของตัวรถก็คือระบบเบรกหลังนั้นทางผู้ผลิตให้มาเป็นดัมป์เบรก ที่ว่ากันตามตรงมันเอารถไม่ค่อยจะหยุดสักเท่าไหร่

8d8142126bf969f7b171fc5c1ea4d469.jpg

1992-1996 Suzuki RG 125 F Gamma

ร่างจำลองของ RG500 ตัวแข่งในรายการ WorldGP ในช่วงเวลานั้น และด้วยความที่ตัวรถเป็น Race Raplica ขนานแท้ ขุมกำลังของมันที่ถึงแม้จะพกพาขนาดความจุเพียง 124.6 ซีซี แต่การรัดกำลังสูงสุด 33 แรงม้า จะต้องใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงถึง 11,250 รอบต่อนาที เช่นเดียวกับแรงบิด 21 นิวตันเมตร ที่ต้องใช้รอบ 11,000 รอบต่อนาที ดังนั้นเวลาที่มันมาขับขี่บนท้องถนนนั้นอาจจะดูไม่ค่อยกระฉับกระเฉง อีกทั้งยังต้องคอยระวังในเรื่องของการเดินคันเร่งเพื่อรักษารอบในการออกตัว เอาเป็นเวลาเวลาติดไฟแดงจะออกแต่ล่ะทีนี้ ลั่นไปทั้งทุ่งเลยก็ว่าได้

f6242f5c0caf8a5437b6b52ae9438786.jpg

1987 Honda NSR125R

ขั้นกว่าของ NSR125 กับรุ่นพิเศษ NSR125R ที่จัดเต็มในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ที่ถึงแม้ว่าจะมีพิกัด 124.8 ซีซีเท่ากับรุ่นมาตรฐาน แต่กำลังสูงสุดของมันจะมีมากกว่า โดยรวมจะมีกำลังสูงสุดที่ 26 แรงม้า (HP) ด้วยการวางระบบไอเสียใหม่ และการวางกล่อง ECU แบบตัวแข่งในสนาม ทำให้ตัวรถมีความสามารถในการรีดเค้นกำลังสูงสุดที่มากกว่า และมันถูกผลิตในรูปแบบของจำนวนจำกัด ซึ่งในปัจจุบันก็นับว่าเป็นของแรร์ที่หายากไปแล้ว

2e06e88a825aead94b516e3869de34b5.jpg

1989 Cagiva Mito

ว่ากันว่า Massimo Tamburini นักออกแบบระดับตำนานผู้ล่วงลับ ได้ออกแบบเจ้า Cagiva Mito ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวเทียบเคียงกับ Ducati Panigale 916 ในขนาดพิกัดที่แตกต่างกัน แต่มันแทบจะไม่แตกต่างกันเลยในแง่ของการออกแบบ โดยเจ้า Cagiva Mito นั้นจะมาพร้อมกับขุมกำลัง 124.63 ซีซี โดยมีหัวจ่ายน้ำมันคาร์บูเรเตอร์พิเศษอย่าง Dell’Orto PHBH 28 BD ขนาด 28 มิลลิเมตร เป็นจุดแข็ง โดยมีความสามารถ 34 แรงม้า (HP) ที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 23 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบต่อนาที และความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของมันก็คือการทำความเร็วสูงสุดที่มากกว่า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!!

4311327335653a501e9e63c3de51dda9.jpg

1992-2010 Aprilia RS125

ขาดไม่ได้สำหรับร่างจำลองตัวแข่ง 125 ซีซี จากรายการ WorldGP ซึ่งตัวรถมีการพัฒนาต่อยอดจากตัวแข่งของ Valentino Rossi โดยมีการปรับโครงสร้างเพื่อให้สามารถผลิตในจำนวนมากได้จริง และเครื่องยนต์ก็มีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับตัวแข่ง ด้วยขุมกำลังขนาด 124.8 ซีซี 1 ลูกสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 28 แรงม้า (HP) ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 19 นิวตันเมตร ที่ 9,500 รอบต่อนาที และที่สำคัญก็คือเรื่องของน้ำหนักตัวแบบพร้อมขี่ที่มีเพียง 126 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าเบาที่สุดในคลาสสองจังหวะ 125 ซีซี ในเวลานั้นเลยก็ว่าได้

404fafc84e4db89502c9e2c8d982c6b1.jpg

1993-1994 Gilera GFR 125

อีกหนึ่งโมเดลสำหรับสายสนามแข่งโดยเฉพาะ Gilera GFR 125 มาพร้อมกับขุมกำลังขนาด 124.3 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ รีดแรงม้าได้ 31.46 แรงม้า (HP) ที่ 11,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 21.57 นิวตันเมตรที่ 10,800 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยอัตราส่วนกำลังอัดที่มากกว่าใคร 13.5 : 1 และยังมีตัวจ่ายน้ำมันคาร์บูเรเตอร์ Dell’Orto VHSA 32 ติดตั้งในตัว โครงสร้างแบบพิเศษ Double beam Gilera twinbox และจุดเด่นที่แตกต่างออกไปก็คือระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ “PAIOLI” upside-down fork ที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ Mono Shock ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบแขนเดี่ยว มีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 6.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 171 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!!!

21be17caf86bc4a3cd65e993e500af3c.jpg

1986-1992 Aprilia AF1 Futura

AF1 Futura ถือเป็นจุดสุดยอดที่รถ 125 สองจังหวะ มันโดดเด่นตั้งแต่งานออกแบบภายนอก ที่ดูร่วมสมัยได้กลิ่นอายของรถแข่งในสนาม อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับขนาด 38 มิลลิเมตร สวิงอาร์มหลังแบบ Single-Side ระบบเบรกดิสก์เดี่ยวทั้งหน้าและหลัง ในส่วนของขุมกำลังนั้นจะมีขนาด 124.7 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว ตัวจ่ายน้ำมัน Dell’Orto ขนาด 34 มิลลิเมตรแบบ Flat Side ควบคุมการจุดระเบิดและจ่ายน้ำมันด้วยระบบไฟฟ้า โดยมีกำลังสูงสุด 30 แรงม้า (HP) ที่ 8,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 19.6 นิวตันเมตรที่ 10,000 รอบต่อนาที และด้วยความที่มันถูกผลิตในรูปแบบของ Race Raplica น้ำหนักของตัวรถนั้น แบบพร้อมขี่ของเหลวเต็มถังจะอยู่ที่เพียง 140 กิโลกรัมเท่านั้น และมีความสามารถในการเร่งความเร็วสูงสุด 168 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!!

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com