Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

Zontes R310 อีกหนึ่งพระเอกในงาน ช่วยให้ค่ายแจ้งเกิดเต็มตัวในไทย

blank

แม้ว่าจะเป็นการเปิดแบรนด์ครั้งแรกในไทยกับ Zontes แต่พวกเขาก็ทำได้อย่างสวยงาม กับการนำ 2 โมเดลในระดับเอนทรี่คลาสแต่มาในรูปแบบของพรีเมี่ยม อย่าง R310 และ X310 ในราคาที่ถือว่าไม่แรงเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ได้รับมา ครั้งนี้ทางเราจะพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกกับ R310 รถสปอร์ตเนกเกตจากทางค่ายอย่างละเอียด

ตัวเครื่องยนต์ของ Zontes R310 ในส่วนของแรงม้านั้นให้มาสูงสุดอยู่ที่ 35 ตัวที่ 9,500 รอบต่อนาที และทอร์คหรือว่าแรงบิดนั้นให้มาสูงสุดอยู่ที่ 30 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที ข้อมูลจากทางค่ายที่เคลมในเรื่องของ top speed หรือว่าความเร็วสูงสุดนั้นจะอยู่ที่ 160 กม./ชม. ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับรถซีซีขนาดนี้ ขยับมาดูกันต่อที่ช่วงล่างกันบ้างยางรถนั้นเป็นแบบยางเรเดียล ซึ่งยางหน้าจะมีขนาดอยู่ที่ 110 / 70R17 และยางหลังจะอยู่ที่ 160 / 60R17 ใช้ดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลังทำงานร่วมกับระบบ ABS ของ Bosch ในขณะที่ระบบไฟนั้นเป็นแบบ LED รอบคัน และระบบกันสะเทือนด้านหน้านั้นเป็นแบบ Upside Down ขนาดใหญ่ และด้านหลังเป็นแบบโมโนโช้คทำงานร่วมกับสวิงอาร์มที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ส่วนท่อเป็นแบบปลายคู่

38PJ6g.jpg

ด้านงานออกแบบดีไซน์ของ Zontes R310 นั้นจะมีความโดดเด่นที่งานออกแบบและอุปกรณ์ที่ติดรถมาให้ ซึ่งในเรื่องของงานดีไซน์นั้น ถือว่าเน้นความเหลี่ยมความคม ความดุดันก้าวร้าวมากเป็นพิเศษ สมกับเป็นรถแนวเนกเกตในยุคนี้ ที่เน้นดีไซน์แบบล้ำยุคไว้ก่อน ดูแล้วก็ถือว่ามีความสวยงามลงตัวไม่น้อย ตัวบอดี้ของทั้งสองโมเดลนั้นจะเป็นแบบอลูมิเนียมอัลลอย เฟรมเป็นแบบ steel pipe มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบหัวฉีด EFI แบบ DOHC ขนาด 312cc 1 ลูกสูบ มีขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 80 x 62 ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 12.5:1 สตาร์ทมือไฟฟ้า เกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยโซ่ ถังน้ำมันนั้นจุมาให้อยู่ที่ 15 ลิตรซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับรถในคลาสนี้ มันจึงเหมาะสมที่นอกจากจะใช้งานในเมืองแล้ว ยังสามารถวิ่งออกทริปไกลๆ ได้ด้วย และมีจุดเด่นที่เรียกได้ว่าเป็นจุดขายที่น่าสนใจก็คือเรื่องของระบบ Keyless Start ที่จะไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ทเครื่องยนต์ หรือแม้กระทั่งเปิดฝาถังน้ำมัน ส่วนวัสดุของตัวรถก็เลือกใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง เวลาล้มหรือกระแทกจะแค่งอ ไม่ถึงกับแตกหัก ทำให้สามารถบิดกลับมาใช้งานเหมือนเดิมได้

38PvzS.jpg

ด้วยราคาเพียง 129,000 บาทนั้นก็ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ในทันทีสำหรับท้องตลาดตอนนี้ ที่นำเสนอความคุ้มค่าและแตกต่าง รวมไปถึงดีไซน์ที่ลงตัวของทางค่าย น่าจับตามองเอามากๆ เพราะในอนาคตเชื่อว่าทางค่ายเองนั้นจะมรีการนำโมเดลที่มี CC เยอะกว่านี้เข้ามาขายอีกอย่างแน่นอน