Banner-Yamaha-Motorshow-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Motorshow-2024-400x300.gif

รอยัล เอนฟิลด์ เตรียมเปิดโชว์รูมเพิ่มถึง 8 แห่งใน 7 จังหวัดทั่วประเทศไทย

Royal Enfield

  • เปิดรอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ เพิ่มถึง 8 แห่งใน 7 จังหวัดทั่วประเทศไทย
  • รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์แห่งใหม่พร้อมเปิดบริการทุกแห่งภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่ พระราม 5 พระราม 2 หาดใหญ่ ลพบุรี นครปฐม พัทยา ภูเก็ต และพิษณุโลก
  • เดินหน้าตามแผนเชิงรุกในการขยายสโตร์ให้ครบ 15 แห่ง และศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ 25 แห่งภายในเดือนมีนาคม 2563
  • ยอดขายเติบโตต่อเนื่องกว่า 84 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว (มกราคม – ตุลาคม) สืบเนื่องจากความสำเร็จในการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ทวินสูบคู่รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่น อินเตอร์เซปเตอร์ 650 (Interceptor 650) และคอนติเนนทัล จีที 650 (Continental GT 650) โดยทำยอดขายกว่า 1,800 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทย

รอยัล เอนฟิลด์ ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก ประกาศเปิดรอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ เพิ่มอีก 8 แห่งใน 7 จังหวัดทั่วประเทศไทย สโตร์ทั้งหมดพร้อมเปิดดำเนินงานและให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนธันวาคมปี 2562 โดยการเปิดสโตร์ใหม่ในปีนี้จะส่งผลให้รอยัล เอนฟิลด์ มีเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย 11 แห่งทั่วประเทศไทยในสิ้นปีนี้ โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ พระราม 5

โชว์รูม Royal Enfield

รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ ในประเทศไทย:

รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ ในปัจจุบัน รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ แห่งใหม่ในปี 2562
•        ทองหล่อ •         พระราม 5
•        วิภาวดี •         พระราม 2
•        เชียงใหม่ •         นครปฐม
•         หาดใหญ่ (จังหวัดสงขลา)
•         พัทยา (จังหวัดชลบุรี)
•         ลพบุรี
•         ภูเก็ต
•         พิษณุโลก

 

  • สโตร์ทั้ง 11 แห่งจะจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ ครบทุกรุ่น ตั้งแต่ รุ่นคลาสสิก บุลเล็ต หิมาลายัน คอนติเนนทัล จีที 650 และอินเตอร์เซปเตอร์ 650 รวมถึงคอลเลกชั่นเครื่องแต่งกายล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ อะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ของแท้ (GMA)
  • นอกจากจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์และสินค้าต่างๆ อย่างครบครันแล้ว สโตร์ทุกแห่งยังทำหน้าที่เป็นเหมือนศูนย์กลางเพื่อให้ผู้หลงใหลในการขับขี่ทุกคนพบปะพูดคุย รวมถึงร่วมกิจกรรมการขับขี่และกิจกรรมอื่นๆ ตลอดจนเป็นจุดบริการเซอร์วิสรถมอเตอร์ไซค์เต็มรูปแบบ โดยการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการเหล่านี้แก่ลูกค้าสะท้อนปรัชญาของแบรนด์ในการสร้าง “การขับขี่ที่แท้จริง” หรือ “Pure Motorcycling”

ตัวแทน Royal Enfield

นายวิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเสมอมา โดยปีนี้เป็นปีที่น่าจดจำที่สุดของรอยัล เอนฟิลด์ นับตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปี 2559 จากการประกาศเปิดสำนักงานอย่างเป็นทางการแห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางหรือฮับของการดำเนินธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แผนการเปิดโรงงานประกอบหรือ CKD ในประเทศไทยเพื่อส่งออกรถไปยังตลาดประเทศอาเซียน รวมถึงการขยายเครือข่ายสโตร์ 15 แห่งและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ 25 แห่งภายในเดือนมีนาคม ปี 2563 และความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการเปิดตัวทวินทั้งสองรุ่นในประเทศไทย”

  • รอยัล เอนฟิลด์ เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 โดยมีจำนวนลูกค้ากว่า 5,000 คนบนท้องถนนในขณะนี้ รอยัล เอนฟิลด์ เติบโตขึ้นอย่างมากพร้อมกับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ขับขี่ในประเทศไทยโดยเฉพาะในปี 2562 จากการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สูบคู่ทวินทั้ง อินเตอร์เซปเตอร์ 650 และคอนติเนนทัล จีที 650 ที่สามารถทำยอดขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนับตั้งแต่เปิดตัวจนปีที่แล้วด้วยยอดขายกว่า 1,800 คันในปัจจุบัน

นายวิมัลกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การขยายสโตร์ทั่วประเทศว่า “เราใช้เวลา 3 ปีแรกทำความเข้าใจตลาดประเทศไทยอย่างถ่องแท้และเราไม่เคยหยุดเรียนรู้ โดยความเข้าใจดังกล่าวทำให้เรามั่นใจต่อกลยุทธ์การขยายเครือข่ายของเราในปี 2562 ทั้งนี้ การเพิ่มผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ทั้ง 8 รายสอดคล้องกับการเติบโตของตลาดประเทศไทย โดยเราเลือกผู้จัดจำหน่าย ผ่านการคำนึงปัจจัยหลายประการทั้งจังหวัด ทำเลที่ตั้ง ความสนใจและความหลงใหลต่อแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำคัญมากต่อการสร้างการรับรู้และเข้าถึงของแบรนด์ รวมถึงมอบบริการหลังการขายแบบมืออาชีพแก่กลุ่มลูกค้าปัจจุบันให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด”

ร้าน Royal Enfield

  • รอยัล เอนฟิลด์ ประเทศไทย ดำเนินงานภายใต้แผนเชิงรุกในการขยายเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายสโตร์ให้ครบ 15 แห่งและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ 25 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนมีนาคม 2563 ตอกย้ำความสำคัญของตลาดประเทศไทยในเอเชียแปซิฟิก และยังสอดคล้องกับการประกาศเปิดโรงงานประกอบ (CKD) ในประเทศไทย

หม่อมหลวง กมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการรอยัล เอนฟิลด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด ผ่านเครือข่ายบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ตลอดจนเพิ่มการมีส่วนร่วมให้กับผู้ขับขี่ทุกคนที่เปรียบเสมือนแบรนด์แอมบาสเดอร์กลุ่มใหญ่ที่สุดของเรา ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ เราตั้งเป้าสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250-750 ซีซี) ในประเทศไทย โดยเราเล็งเห็นว่าตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางขาดตัวเลือกที่น่าสนใจ เราจึงพยายามเติมเต็มช่องว่าง ผ่านการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายแห่งใหม่ ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมถึงเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นมากขึ้น”

นอกจากประเทศอินเดีย ที่นับเป็นตลาดใหญ่ที่สุดด้วยจำนวนผู้แทนจำหน่ายกว่า 850 ราย รถมอเตอร์ไซค์ รอยัล เอนฟิลด์ สามารถเข้าถึงลูกค้าและผู้รักการขับขี่กว่า 50 ประเทศทั่วโลก ผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายกว่า 540 ราย และผ่านกว่า 50 สโตร์ในหัวเมืองใหญ่ อาทิ มิลวอกี ลอนดอน ปารีส มาดริด บาร์เซโลนา เมลเบิร์น เซาเปาโล โบโกตา เมเดยิน ดูไบ จาการ์ตา บาหลี มะนิลา โฮจิมิน ซิตี้ ฮานอย บัวโนสไอเรส กัวลาลัมเปอร์ โซล และกรุงเทพฯ ปัจจุบัน แบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ มีอายุถึง 118 ปี และเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

เกี่ยวกับรอยัล เอนฟิลด์

รอยัล เอนฟิลด์ เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์เก่าแก่ที่สุดที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยผลิตรถมอเตอร์ไซค์คันแรกในปี พ.ศ. 2444 รอยัล เอนฟิลด์เป็นบริษัทลูกของบริษัท ไอเชอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด บุกเบิกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในประเทศอินเดียด้วยความเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบโมเดิร์นคลาสสิกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและด้วยฐานการผลิตแห่งใหม่ในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย รอยัล เอนฟิลด์สามารถขยายการผลิตได้อย่างรวดเร็วตอบสนองต่อความต้องการในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างการเติบโตมากกว่า 40% ทุกปี ในตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รอยัล เอนฟิลด์ กลายเป็นผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์รายสำคัญในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก และกำลังดำเนินงานอย่างมุ่งมั่นในการทำตลาดกลุ่มนี้ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานน่าประทับใจ

Royal Enfield ไทย

สายการผลิตของรอยัล เอนฟิลด์ ณ ปัจจุบัน นอกจากการผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นล่าสุดแห่งยุคโมเดิร์นที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ อินเตอร์เซปเตอร์ 650 และ คอนติเนนทัล จีที 650 มาพร้อมเครื่องยนต์สองสูบคู่ 648 ซีซี แล้ว รอยัล เอนฟิลด์ยังผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นยอดนิยมอย่างคลาสสิก บุลเล็ต และธันเดอร์เบิร์ด ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 350 ซีซี และ 500 ซีซี รวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์อเนกประสงค์รุ่นหิมาลายัน ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ LS410 รอยัล เอนฟิลด์ดำเนินธุรกิจผ่านหน้าร้านสโตร์ของตนเองรวมทั้งสิ้น 18 สโตร์ และมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 850 รายทั้งในประเทศอินเดียและเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมถึงมีการส่งออกรถมอเตอร์ไซค์ไปยังกว่า 50 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศในยุโรป รวมถึงประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รอยัล เอนฟิลด์ ยังจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์และการขับขี่ต่างๆ มากมายทั่วโลก ได้แก่ ‘ไรเดอร์ มาเนีย’ (Rider Mania) กิจกรรมประจำปีที่ถือเป็นการรวมตัวของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ รอยัล เอนฟิลด์จากทั่วโลก ณ ชายหาดที่สวยงามของเมืองกัว (Goa) และ ‘หิมาลายันโอดิสซีย์ ทริปการขับขี่บนเส้นทางที่นับว่าหฤโหดที่สุด และสูงที่สุดบนเทือกเขาหิมาลัย นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกิจกรรมมากมายที่รอยัล เอนฟิลด์รวบรวมนักขับขี่มาไว้ด้วยกัน รวมถึงกิจกรรม ‘วัน ไรด์’ (One Ride) ที่สาวกรอยัล เอนฟิลด์ทั่วโลกจะรวมตัวเพื่อขับขี่มอเตอร์ไซค์พร้อมกันในอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน

ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องของผลิตภัณฑ์ ความเป็นมา และกิจกรรมต่างๆ ของรอยัล เอนฟิลด์ ได้ที่ https://www.royalenfield.com/ หรือโทรสอบถามได้ที่ รอยัล เอนฟิลด์ คอนแทค เซ็นเตอร์ เซอร์วิส โทร.1800 012 720 เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนรักรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ ทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/royalenfield/ หรือ ทวิตเตอร์ @royalenfield และอินสตาแกรม @royalenfieldth

Banner-Yamaha-Safe--Save-2024-400x300.jpeg