Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

New Yamaha YZF-R3 วิเคราะห์จุดเด่น เตรียมสู้ศึกใหญ่ในตอนนี้!

r3

ถือว่าเป็นรถสปอร์ตแฟริ่งอีกหนึ่งรุ่น ที่แฟนๆ ไบค์เกอร์ต่างก็รอคอยกันมานาน โดยเฉพาะกับในประเทศไทยของเรา กับเจ้า New Yamaha YZF-R3 ที่เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ขายดีกันแบบถล่มทลาย ซึ่งเมื่อมาถึงในเจเนเรชั่นปัจจุบัน ก็มีการอัพเกรดอุปกรณ์เพิ่มเติมกันขึ้นมาหลายจุดเลยทีเดียว

ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตระกูล YZF-R3 ที่นับว่าเป็นเจนเนเรชั่นที่ 2 ซึ่งในเรื่องของรูปลักษณ์การออกแบบดีไซน์นั้น ในส่วนครึ่งหน้าของตัวรถได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่อย่าง YZF-R6 แบบเต็มๆ และระบบไฟมาเป็นแบบ LED แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะเป็นแบบฮาโลเจนมาก่อน รูปลักษณ์ของตัวรถยังคงเน้นการทำแอร์โร่ว์ไดนามิก และรูปลักษณ์ที่เฉียบคม มี DNA จากรถแข่งในสนามมาแบบเต็มๆ และอีกหนึ่งจุดที่ถือว่าสำคัญเอามากๆ ก็คือการใส่ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down ขนาด 37 mm ของ KYB มาให้ด้วย เป็นครั้งแรกของ R3 เลยก็ว่าได้

kudx4u.jpg

สำหรับสเปกของ New Yamaha YZF-R3 2019 นั้นมาในเครื่องยนต์แบบ 321cc 2 สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ DOHC 4 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 42 PS ที่ 10,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 29.6 Nm ที่ 9,000 รอบต่อนาที จัดระเบิดแบบ TCI อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 11.2 : 1 ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 68.0 mm x 44.1 mm สำหรับชิลด์หน้าและการออกแบบไฟ LED ด้านหน้านั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก YZF-R1 ตัวแชสซีมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง และตัวรถมีความคล่องตัว บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตสูงมากๆ แฮนด์รถเป็นแฮนด์จับโช้คแบบใต้แผงคอ มีระบบเบรก ABS ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานเลย

ku07Uu.jpg

ตัวโครงสร้างและแฟร์ริ่งนั้นมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยโครงสร้างตัวถังนั้นจะยังคงใช้งานโครงสร้างแบบ Diamond Fame เหมือนโมเดลก่อนหน้านี้ ในส่วนของตัวยึดโช้คหลังเป็นแบบ Mono Shock เหมือนโมเดลก่อนหน้านี้ ส่วนของแฟร์ริ่งที่มีการคำนึงถึงหลักพลศาสตร์มากขึ้น โดยการออกแบบช่องลมด้านหน้าที่อ้างอิงมาจาก M1 รถแข่งใน MotoGP โดยช่องลมนี้จะช่วยในการกดส่วนหน้าของตัวรถและนำเอาลมเย็นลงไปช่วยระบายความร้อนตรงบริเวณหม้อน้ำ อีกทั้งชิลด์หน้ายังมีการปรับองศาใหม่ให้ทำการลู่ลมได้มากขึ้น เสริมและช่วยลดอาการปะทะของลมจากการขับขี่ในท่าทางการขับขี่ที่ Racing มากขึ้น และตรงนี้เองที่ส่งผลให้ความเร็วปลายหรือว่า Top Speed ของ New YZF-R3 คันใหม่นั้นเพิ่มขึ้นถึง 8 กม./ชม.

kudip0.jpg

ดังนั้นแล้วในท้องตลาดตอนนี้ คู่แข่งของ New YZF-R3 ก็หนีไม่พ้น Ninja 400 และ CBR500R คันใหม่ ที่ถึงแม้ว่าทั้ง 3 คันนั้นจะมี cc ที่แตกต่างกัน แต่ด้วยแนวทางของตัวรถที่เป็นรถสปอร์ตแฟร์ริ่งเหมือนกัน และมีช่วงราคาที่ถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก มันย่อมที่จะต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกันอย่างไม่ต้องสงสัย ใน 3 คันนี้แม้ว่า YZF-R3 จะมี cc ที่น้อยที่สุด แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดแข็งแรงที่สุดของตัวรถนั้น ก็คือในเรื่องของการติดตั้งระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down มาให้ ซึ่งคู่แข่งอีก 2 คันนั้นไม่มี ตรงนี้เองที่จะเป็นตัวช่วยให้การตัดสินใจซื้อ R3 ง่ายขึ้น สำหรับไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบโช้กหัวกลับ และแน่นอนว่าในเรื่องของราคาตัวรถนั้น ก็ยังจะถือว่ามีความแตกต่างกันกับคู่แข่งประมาณหนึ่ง และอีกจุดหนึ่งก็คือการมองในมุมกลับ ของจำนวน cc ที่น้อยกว่านั้นก็ทำให้การขับขี่มีความประหยัดน้ำมันมากกว่า ดังนั้นแล้วเชื่อว่า YZF-R3 คันใหม่นี้จะยังยืนระยะสู้ศึกในท้องตลาดได้ดี จับตาดูศึกนี้กันไปยาวๆ รับรองว่าสนุกแน่นอน!!!