Banner Yamaha XSR155 2024 1150x250
Banner Yamaha XSR155 2024 400x300

เจาะลึกความน่าสนใจของ New Yamaha Aerox Alpha

เจาะลึกความน่าสนใจของ New Yamaha Aerox Alpha

ถือว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของทางแบรนด์ Yamaha ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง New Yamaha Aerox Alpha ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งแน่นอนว่ามีแนวโน้มอย่างมากที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์เองก็มาพร้อมกับนวัตกรรมสมัยใหม่ ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของตัวรถให้ข้ามไปอีกขั้น

i6Ykyf.jpeg

New Yamaha Aerox Alpha พัฒนาด้วยแนวคิด Super Sport Scooter ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก DNA ของ R-series โดยมีสโลแกนว่า “Ride The REVolution AEROX ALPHA” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สกู๊ตเตอร์ที่นำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณค่าความสปอร์ตตามแบบฉบับของ Yamaha เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงที่รองรับความหลงใหลในการขับขี่ของคนหนุ่มสาวในปัจจุบัน ความสปอร์ตของตัวรถสามารถเห็นได้จากรูปลักษณ์การออกแบบ ตำแหน่งการขับขี่ และความสามารถของตัวผลิตภัณฑ์ ที่ให้ความรู้สึกดุดันและมั่นคงในการขับขี่ ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีขั้นสูงหมายถึงการมีอยู่ของเทคโนโลยีระบบส่งกำลังแบบแปรผันอย่างต่อเนื่องของ Yamaha (YECVT) ซึ่งให้ความรู้สึกในการขับขี่แบบ “เทอร์โบ” รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่สามารถเชื่อมต่อมอเตอร์ไซค์กับผู้ขี่ผ่านแอปพลิเคชัน Y-Connect

i6YMzX.png

ในฐานะรถ Super Sport Scooter ตอนนี้ AEROX ALPHA มีการออกแบบที่สปอร์ตที่มุ่งเน้นไปที่แอโรไดนามิกอย่างมาก เหมือนกับมอเตอร์ไซค์สำหรับการแข่งขัน โดยอ้างอิงจากงานออกแบบของ YZF-R1M รุ่นใหญ่สุดของ R-series ด้วยรูปลักษณ์ของสกู๊ตเตอร์สปอร์ต ดุดัน แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบที่เฉียบคมของไฟหน้าและไฟท้าย ที่อิงจากภาษาการออกแบบของ R-DNA และด้วยเทคโนโลยี Full LED ด้วยไฟหน้าแบบ Dual Projector Lamp รูปทรงกล่องเพื่อปรับปรุงคุณภาพแสงให้สว่างและเน้นมากขึ้น เพื่อเป็นคุณลักษณะด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม AEROX เจเนอเรชั่นใหม่นี้จึงมีระบบสัญญาณหยุดฉุกเฉิน ซึ่งทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เบรกกะทันหัน จากความเร็วขั้นต่ำที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

i6Y6yS.png

นอกเหนือจากการออกแบบตัวถังแล้ว ออร่า Super Sport บนตัวผลิตภัณฑ์ยังปรากฏผ่านมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถปรับการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย 1. Main Display ที่เป็นหน้าจอแบบมาตรฐาน ที่ให้ข้อมูลที่จำเป็นในการขับขี่ทั้งหมด 2. Tachometer Visualization ที่จะให้ข้อมูลในเชิงเทคนิคมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การแสดงรอบเครื่องยนต์ และมาตรวัดความเร็วตัวรถที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น และ 3. Track Theme ที่จะแสดงผลจำลองหน้าจอจากรถแข่งในสนาม ที่ให้ข้อมูลรอบและเวลา ในการขับขี่ที่ชัดเจนที่สุด

i6YzZp.jpeg

สิ่งที่ซับซ้อนอีกประการหนึ่งที่พบในมาตรวัดความเร็ว AEROX ALPHA คือเทคโนโลยี Photoelectric sensor ซึ่งช่วยให้เปลี่ยนสีพื้นหลังโดยอัตโนมัติตามสภาพแสง ณ ขณะขับขี่ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ ในสภาพแสงจ้าหรือโหมดกลางวัน พื้นหลังจะเป็นสีขาว ในขณะเดียวกันเมื่ออยู่ในสภาพแสงน้อย พื้นหลังของมาตรวัดความเร็วจะเปลี่ยนเป็นสีดำโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่เองสามารถเลือกการทำงานได้อย่างอิสระ

i6YpAO.png

อีกหนึ่งไฮไลท์ของหน้าจอ TFT ใหม่คือคุณสมบัตินี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Y-Connect ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับข้อมูลและความบันเทิงต่างๆ ขณะขับรถ ซึ่งรวมถึงมาตรวัด Odo / Trip โหมดการขับขี่ ข้อมูลสภาพอากาศ การแจ้งเตือนข้อความและสายเรียกเข้า การจัดการการเล่นเพลง และ แสดงระบบนำทางในรูปแบบ Turn by Turn ที่เชื่อมต่อกับ Google Map

i6Y0TB.jpeg

เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบซูเปอร์สปอร์ต AEROX ALPHA มีตำแหน่งการขับขี่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้นเพื่อรองรับสไตล์การขับขี่ที่ดุดันและคล่องตัว เสถียรภาพของตัวรถยังได้รับการปรับปรุงด้วยการใช้ระบบกันสะเทือนหน้าพร้อมไส้ในที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรุงการควบคุมและการเบรกยังได้รับการปรับปรุงด้วยฟีเจอร์ Traction Control System ซึ่งป้องกันยางไม่ให้ลื่นไถลเมื่อเร่งความเร็วบนพื้นผิวถนนที่ลื่น ระบบเบรก ABS ที่มาพร้อมกับจานดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง

i6YTQ5.jpeg

AEROX ALPHA ยังใช้เครื่องยนต์ชุดเดิมจากรุ่นที่แล้ว ด้วยขุมกำลัง Blue Core ขนาด 155 ซีซี 4 จังหวะ สูบเดียว พร้อมเทคโนโลยี VVA หรือวาล์วแปรผัน และเสริมด้วยนวัตกรรมระบบส่งกำลังแบบ YECVT ซึ่งสามารถให้ความรู้สึกในการขับขี่แบบ “เทอร์โบ” ผ่านการตั้งค่า Y-Shift ที่มีให้เลือกใช้งาน 3 ระดับ 1: ต่ำ, 2: ปานกลาง, 3: สูง ซึ่งช่วยให้ผู้ขี่เร่งความเร็วและลดความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

i6YED7.jpeg

แน่นอนว่าการมีอยู่ของเทคโนโลยี YECVT บน AEROX ALPHA ทำให้ตัวรถมีฟีเจอร์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง คือมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งาน 2 โหมด ประกอบด้วย T-Mode โหมดการขับขี่ที่เป็นมาตรฐาน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และ S-Mode เพื่อความคล่องตัวที่มากขึ้น สไตล์การขับขี่ที่ตอบสนองและดุดันจึงเหมาะกับการขับขี่แบบออกทริป หรือในสนามแข่ง

i6Y1ZD.png
i6YQ5Y.png
i6Y8iL.png
i6YolJ.png
Yamaha Aerox Alpha รุ่นมาตรฐาน

New Yamaha Aerox Alpha ในประเทศอินโดนีเซียนั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 4 รุ่นด้วยกัน โดยมีรุ่น Standard ที่จะไม่มีฟีเจอร์ระบบ YECVT แต่จะมาพร้อมกับระบบเบรกหลังแบบจานดิสก์แล้ว (แต่ก็ยังไม่มีระบบ ABS) รุ่น Cyber ​​City ที่จะมีการติดตั้งระบบ ABS เสริมเข้ามา รุ่น TURBO ที่จะมาพร้อมกับฟีเจอร์และอุปกรณ์ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด และรุ่นพิเศษ TURBO Ultimate ซึ่งมาพร้อมกับชิ้นส่วนพิเศษต่างๆ ที่ไม่มีในรุ่นอื่น และอุปกรณ์พิเศษ Performance Damper หรือกันสะบัดที่ถูกติดตั้งมาจากโรงงานโดยตรง

i6YjPb.png

Yamaha Aerox Alpha รุ่น Cyber ​​City

i6YfeZ.png
Yamaha Aerox Alpha รุ่น TURBO

i6Y38C.png
Yamaha Aerox Alpha รุ่น TURBO Ultimate 

สำหรับราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศอินโดนีเซียนั้น AEROX ALPHA รุ่นมาตรฐาน จะมีราคา 29,900,000 รูเปียห์หรือประมาณ 63,460 บาท รุ่น Cyber ​​City ราคา 33,990,000 รูเปียห์หรือราวๆ 72,140 บาท รุ่น TURBO ราคา 39,550,000 รูเปียห์หรือประมาณ 83,940 บาท และรุ่นพิเศษ TURBO Ultimate ราคา 41,730,000 รูเปียห์หรือราวๆ 88,570 บาทโดยประมาณ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก iwanbanaran.com

Banner Lead Form Yamaha XSR155 2024 700x300