Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

ทิศทางของ New Kawasaki ZX-25R ล่าสุด กับโปรเจคท์ที่หลายคนเฝ้ารอคอย

zx25rb

ท่ามกลางกระแสของข่าวลือ ที่มีออกมาหนาหูหนาตามากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกขณะ เกี่ยวกับการพัฒนารถแนวสปอร์ตเรพลิก้าระดับ entry class คันต่อไปในอนาคตจากทางค่ายยักษ์เขียว Kawasaki ซึ่งจุดเด่นที่สุดของมันก็คือในเรื่องของจำนวนกระบอกสูบแบบ 4 สูบเรียง (inline) กับเครื่องยนต์ในพิกัด 250cc และก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแนวทางใหม่ๆ ที่ไบค์เกอร์ยุคนี้นั้นไม่คุ้นเคยกัน และดูจะเป็นไปได้ยากครั้งนี้เราจะมาดูรายละเอียดล่าสุดว่าเจ้า New Kawasaki ZX-25R นั้นจะมีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน!

ย้อนกลับไปในจุดแรกเริ่มเดิมทีของเรื่องราว กว่าที่จะมาเป็นข่าวอย่างทุกวันนี้ มันมาจากทาง Kawasaki นั้นได้เคยออกแบบสำรวจความต้องการของผู้ใช้งานกับรถคลาส 250cc ที่กำลังจะผลิต (ช่วงประมาณกลางปี 2017) ด้วยคำถามในเรื่องของความต้องการต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหัวข้อที่สำคัญเกี่ยวกับจำนวนของกระบอกสูบว่าจะต้องการแบบ 2 สูบหรือว่า 4 สูบ ดูแล้วเหมือนกับว่าทางค่ายเองจะทำการเวทน้ำหนักตรงนี้ต่อการขึ้นไลน์ผลิตโมเดลจริงๆ กันต่อไป

blank

ซึ่งนอกเหนือจากนี้ยังจะมีเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ ในแบบสอบถามอย่างเช่นออพชั่นอย่าง Traction Control, โหมดในการขับขี่, ไฟบอกตำแหน่งเกียร์, ครูซคอนโทรล, Upside Down ฯลฯ แต่หลังจากนั้นทางค่ายก็ได้เปิดตัว All New Ninja 250 แบบ 2 สูบเรียงออกมาคู่กับ All New Ninja 400 โดยที่ทั้งคู่ไม่มี Upside Down มาให้ ซึ่งสุดท้ายแล้วดูเหมือนว่าทั้ง 2 โมเดลที่ว่านั้นจะเป็นรถที่เน้นการใช้งานสำหรับกลุ่มใหญ่ๆ ที่ขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งออกทริปกันมากกว่า รวมไปถึงทำราคาที่จับต้องได้ง่าย เลยไม่ได้ใส่ฟีเจอร์ต่างๆ ให้มันหวือหวามากนัก

fDvhvZ.jpg

แต่แล้วก็ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากนั้น เมื่อมีข่าวลือว่าไอ้เจ้าแบบสำรวจนี้มันจะยังดำเนินต่อไป โดยมันเป็นไปได้ที่จะมาเกิดขึ้นกับโมเดลในรหัส ZX ซึ่งรหัสนี้ถูกใช้กับรุ่นพี่ที่เป็นรถแข่งแบบสปอร์ตเรพลิก้าเต็มตัวอย่าง ZX-6R, ZX-10R ฯลฯ ซึ่งมันจะแตกต่างไปจากตระกูล Ninja 250 ปกติ ประมาณว่าเจ้า ZX-25R คันนี้นั้นจะเป็นรถสปอร์ตที่พร้อมจะลงแข่งขันในสนามได้เลย (เทียบกับของค่าย Honda ก็คือ CBR250R จะเป็นแบบเวอร์ชั่นขับขี่ปกติ ส่วน CBR250RR จะเป็นแบบทั้งขี่ปกติและสเปกสนามแข่งด้วย)

โดยข้อมูลคาดการณ์ล่าสุดอ้างอิงจากทางสื่อของญี่ปุุ่นนั้นรายงานว่าทาง Kawasaki เองก็ได้เตรียมดำเนินการผลิตโมเดลนี้กันไว้แล้ว หลังจากที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสำรวจที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่มีกำหนดการณ์ว่ามันจะเปิดตัวกันเมื่อไหร่ ซึ่งอย่างเร็วๆ เลยก็น่าจะเป็นปลายปี 2019 หรืออาจจะนานกว่านั้นก็ตาม โดยคาดว่ามันน่าจะใช้ชื่อรุ่น ZX-25R ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่ามันมาเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแต่เครื่องแค่ 250cc มันจะทนทานหรือไม่ ตรงนี้เราจะต้องมารอดูกันว่าทางค่ายเองนั้นจะใช้วัสดุอะไรเป็นพิเศษในการผลิตกระบอกสูบหรือไม่ แต่หากจะมองถึงเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ก็ถือว่าทำได้สบายๆ อยู่แล้ว

fDv3NI.jpg

เพราะความจริงแล้วในอดีตทางค่ายก็เคยทำมาแล้วกับเครื่องยนต์ 250cc แบบ 4 สูบเรียง ซึ่งมันเคยวางจำหน่ายในช่วงปี 1988 – 1991 โดยมีรหัสอย่างเป็นทางการว่า ZX-250A และสานต่อความสำเร็จด้วยโมเดล ZX-250C ในช่วงปี 1991 ถึง 2001 โดยเป็นรถสปอร์ตแบบแฟร์ริ่งที่มีเครื่องยนต์ขนาด 249cc แบบ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ มีจำนวน 16 วาล์วด้วยกัน (4 วาล์วต่อสูบ) แบบ DOHC (ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์) ซึ่งให้อัตราส่วนกำลังอัดมาอยู่ที่ 12.2:1 ซึ่งเครื่องยนต์ชุดนี้ได้ให้กำลังแรงม้ามาสูงสุดถึง 45 ตัว ที่ 15,000 รอบต่อนาที และทอร์คสูงสุดที่ 25 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบต่อนาที ซึ่งในขณะนั้นใช้การจ่ายน้ำมันแบบคาบูร์เรเตอร์ ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ตรงนี้จะสังเกตได้ถึงสัดส่วนที่แตกต่างกันมากพอควรระหว่างแรงม้าและทอร์ค นั่นก็บ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ของรถที่ไม่เน้นพละกำลังในช่วงต้นเท่าไหร่ แต่จะไปจัดจ้านเอามากๆ ในย่านความเร็วกลางถึงปลาย ตามแบบฉบับของรถสปอร์ตเรพลิก้าแบบลงสนามเต็มตัวนั่นเอง ในขณะที่น้ำหนักตัวของมันอยู่ที่ 144 กก. มียางหน้าขนาด 110/70 ส่วนยางหลังมีขนาด 140/60 เบรกหน้านั้นเป็นแบบดิสก์คู่ขนาด 300 mm ดูอัลคาลิปเปอร์ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 230mm แบบซิงเกิลคาลิปเปอร์ ระยะของฐานล้ออยู่ที่ 1,370 mm

fDv9UP.jpg

นับจากนี้ไปจะถือว่าเป็นก้าวสำคัญอีกหนึ่งก้าวของทางค่าย Kawasaki หากว่าทางค่ายเองนั้นได้เดินหน้าเกี่ยวกับโมเดลนี้จริงๆ ตามข่าวลือ โดยแน่นอนว่าการวางตำแหน่งทางการตลาดและทำราคานั้นมันจะต้องแพงกว่า Ninja 250 คันใหม่ไปพอสมควรเลยทีเดียว เพราะว่ามันจะเป็นรถแบบสปอร์ตเรพลิก้าที่เจาะจงเฉพาะกลุ่ม หรืออาจจะเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นตลาดระดับบนของรถเอนทรี่คลาส และราคาจะต้องแพงกว่าคู่แข่งอย่าง CBR250RR อย่างแน่นอน ส่วนพวกฟีเจอร์ต่างๆ ของตัวรถนั้นเราจะต้องรอชมกันอีกครั้งว่าจะมีพวกคันเร่งไฟฟ้า, โหมดการขับขี่, Traction Control, Slipper Clutch ติดรถมาให้ด้วยหรือไม่ หากว่ามีความคืบหน้าเพิ่มเติมทาง GreatBiker จะรีบรายงานโดยด่วน!

ขอบคุณภาพประกอบจาก Mich Motorcycle