Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เปิดตัว 2023 LiveWire S2 Del Mar Launch Editions และรุ่นมาตรฐาน

เปิดตัว 2023 LiveWire S2 Del Mar Launch Editions และรุ่นมาตรฐาน

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับผลิตภัณฑ์ลำดับที่สองจากแบรนด์ LiveWire แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่แยกตัวออกมาจาก Harley-Davidson โดยโมเดลใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้จะมีความพิเศษที่จะมีการแยกขายรุ่นพิเศษที่จะผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน และรุ่นมาตรฐานที่จะมีการผลิตจำนวนมากตามมาในภายหลัง

012b84218008429866897aff8809a5c2.jpg

2023 LiveWire S2 Dek Mar จะแยกรุ่นในการผลิตเป็นสองรุ่น โดยจะมีรุ่นมาตรฐานที่ใช้แพลตฟอร์ม Arrow ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบแยกส่วนนี้มีแบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบชาร์จ และระบบควบคุมที่เป็นเอกสิทธิ์ซึ่งพัฒนาขึ้นที่ห้องทดลองของ LiveWire ที่เมือง Mountain View รัฐ California แชสซีที่ผสานรวมเข้ากับระบบส่งกำลังและชุดขับเคลื่อน ทำให้ Del Mar ให้กำลัง 80 แรงม้า (BHP) โดยมีน้ำหนักตัว 199.5 กิโลกรัม

d33d5a8fe9e8d0857cb358639718e3fa.jpg

แพลตฟอร์ม Arroe นั้นส่งผลโดยตรงต่ออัตราส่วนน้ำหนักกับกำลังที่ถือว่าเป็นสัดส่วนทองคำ หากคิดแบบคร่าวๆ จะพบว่ากำลัง 1 แรงม้า จะแบกภาระตัวรถเพียง 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวผู้ขับขี่แล้วล่ะว่าจะช่วยแย่งเบาภาระของมอเตอร์ไฟฟ้าได้มากน้อยขนาดไหน แต่จากการทดสอบของผู้ผลิตพบว่าตัวรถนั้นจะมีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ด้วยระยะเวลา 3.5 วินาที แต่ก็น่าเสียดายที่ผู้ผลิตได้บอกถึงน้ำหนักตัวของผู้ขับขี่ในการทดสอบประกอบมาด้วย

102fd23aa9fc0cbb38865c00e79c8cbc.jpg

ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างของรถพลังงานไฟฟ้า นั่นก็คือแบตเตอรี่ โดยทางผู้ผลิตได้ออกมาระบุว่า แบตเตอรี่ชุดเริ่มต้นบนตัวรถนั้นจะทำให้ตัวรถสามารถวิ่งทำระยะในรูปแบบการขับขี่ในเมืองได้อย่างต่ำ 100 ไมล์ หรือประมาณ 160 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในส่วนของระยะเลาในการประจุไฟ รวมไปถึงรุ่นย่อยที่จะมีการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่หรือไม่

b3ca6c4b4e01e68e0b9161f2a6cbe83f.jpg

ในส่วนของความต่างระหว่างรุ่นมาตรฐานและรุ่น Launch Editions นั้น ในรุ่น Launch Editions จะเปิดให้จองล่วงหน้าแบบ Pre-Order จำนวนทั้งสิ้น 100 คัน และจะเริ่มทำการผลิตทันทีเมื่อจำนวนในการสั่งจองล่วงหน้าครบ หรืออย่างช้าที่สุด จะเริ่มผลิตกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะส่งมอบให้กับผู้สั่งจองล่วงหน้าครบ 100 คันภายในเดือนเมษายนปี 2023 และจะเริ่มการผลิตรุ่นมาตรฐานต่อทันทีหลังจากผลิตรุ่น Launch Editions ครบจำนวนแล้ว ดังนั้นก็หมายความว่า ผู้ที่สั่งจองรุ่น Launch Editions จะได้รับตัวรถก่อน ได้ขี่ก่อนนั่นเอง

ความต่างที่ดูจะสำคัญในรุ่น Launch Editions ก็คือลวดลายบนตัวรถ ที่จะเป็นลายพิเศษที่จะถูกจำกัดเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น โดยจะเป็นงานทำสีและลวดลายที่ผลิตด้วยแรงงานมนุษย์ เขียนด้วยมือ ซึ่งจะกินระยะเวลาในการทำ 5 วันต่อ 1 คัน และล้อขนาด 19 นิ้วลายพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Flat Tracker ในสนาม ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานที่จะใช้ขอบล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ลายมาตรฐาน

54c1e78e5f7226f9ee637bbf4ff65751.jpg

Jochen Zeitz ซีอีโอของ Harley-Davidson ได้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ของ LiveWire ไว้ว่า “โมเดล S2 Del Mar แสดงถึงขั้นตอนต่อไปในการพัฒนาแบรนด์ LiveWire แพลตฟอร์ม ARROW ที่สนับสนุน Del Mar ซึ่งพัฒนาขึ้นภายในบริษัทแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของเราที่จะเป็นผู้นำในพื้นที่ EV และสร้าง LiveWire ให้เป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก”

34939d4937115e4e3d70757245c19ecc.jpg

สุดท้ายในเรื่องของราคา 2023 LiveWire S2 Del Mar รุ่นมาตรฐานจะมีราคาเริ่มต้นที่ 15,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 519,945 บาท ส่วนรุ่น Launch Editions จะมีค่าตัวอยู่ที่ 17,699 ดอลลาร์หรือประมาณ 613,500 บาท โดยผู้ที่ต้องการสั่งจองตัวรถจะต้องทำการยื่นใบสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์ LiveWire เท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com

blank