Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

KTM อนาคตสดใสในระดับโลก ในบ้านเรายังต้องลุ้นต่อไป

blank

ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางบริษัท เบิร์นรับเบอร์ฯ ตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ KTM อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้ประกาศยกเลิกการเป็นผู้นำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย ภายหลังจากผลกระทบหลายๆ ปัจจัย (แต่ทางบริษัทและผู้แทนจำหน่ายนั้น ยังคงให้สัญญาว่าจะดูแลลูกค้าต่อไปอย่างดีที่สุด) ตรงนี้เองก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ในคำรบที่ 2 แล้วหลังจากตัวแทนจำหน่าย KTM ในบ้านเราก่อนหน้านี้อย่างบริษัทคุณค่าก็ได้ม้วนเสื่อไปเช่นกัน

9zbI79.jpg

ความจริงแล้วเรื่องของคุณภาพและงานออกแบบของตัวรถ KTM นั้นไม่มีใครสงสัยในประเด็นนี้ เพราะได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในระดับโลก และเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาพวกเขาเองก็มียอดขายรวมทั่วโลกสูงขึ้นกว่าเดิมมากถึง 30% จากปี 2017 ด้วยปัจจัยหลักๆ ของการเปิดตัวโมเดลใหม่ในคลาส 790cc แบบ 2 สูบอย่าง Duke 790 ส่งผลให้ผลกำไรประจำปีของ KTM นั้นถูกจัดให้เป็นอันดับต้นๆ ของบริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในระดับสากล และทาง CEO ของทางค่ายก็ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่า เป้าหมายหลักของพวกเขาจากนี้ไป ก็คือการขึ้นไปเบียดให้เป็นอันดับ 3 ของโลกให้ได้

tqdiNn.jpg

และสิ่งที่พวกเขาได้แสดงออกอย่างชัดเจนก็คือ การเตรียมการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์แบบ 2 สูบในระดับ 500cc เพื่อออกมาชนกับรถจากทางค่ายญี่ปุ่น โดยเฉพาะกับทางค่ายปีกนก Honda ที่ครองตลาดในคลาสนี้อยู่ แน่นอนถึงแม้ว่ายามที่เปิดตัวรถ KTM ในคลาส 500 ออกมาจริงๆ แล้ว ราคามันอาจจะแพงกว่ารถจากทางญี่ปุ่นไปบ้าง แต่เชื่อว่าพวกฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่นโหมดในการขับขี่ และระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down บวกกับความเป็นแบรนด์ยุโรปนั้น ก็จะสร้างจุดขายที่แข็งแรงให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงยังมีกระแสข่าวที่ว่าพวกเขาจะเดินหน้าผลิตรถในคลาสใหม่ๆ เพิ่มเติมในอนาคตด้วย

กลับมาดูสถานการณ์ในบ้านเรา ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะเดินหน้าไปทิศทางไหน หลังจากที่มีข่าวลือกับทางแบรนด์คนไทยอย่าง GPX ที่ว่าอาจจะมารับช่วงต่อ แต่ข่าวลือนี้ก็ไม่เป็นจริงแต่อย่างใด ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้ก็จะเหลือแคนดิเดตที่พอจะเป็นไปได้ก็คือทาง Ducati Thailand และทางกลุ่มทุนใหม่จากญี่ปุ่นตามกระแสข่าวเชิงลึก ที่ยังไม่ได้ทำแบรนด์ไหนในบ้านเราอยู่ในตอนนี้ ซึ่งสำหรับทาง Ducati Thailand นั้นหากเราจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้แล้ว ก็ถือว่ามีความเหมาะสมอยู่ ด้วยการที่พวกเขาเองทำตลาดรถจากแบรนด์ยุโรปเช่นเดียวกันในตอนนี้ และก็จับเอาแบรนด์อย่าง Royal Enfield มาตีตลาดได้แตก แต่เคสของ KTM นั้นก็ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากพอสมควร เพราะมันไม่ได้เป็นการเริ่มทำตลาดใหม่จากการนับหนึ่งอย่างที่เคยทำกับ Royal Enfield แต่ KTM นั้นมีผู้ใช้งานในบ้านเราอยู่แล้ว และโครงสร้างราคาของตัวรถนั้นค่อนข้างผันผวนเลยทีเดียว นับตั้งแต่ยุคแรกมาจนถึงยุคล่าสุด ยิ่งปัจจุบันที่มีการประกาศลดราคาล้างสต็อกกัน ทำให้การจะเริ่มเซ็ทราคาใหม่ให้กับตัวรถ ในขณะที่รถราคาเดิมๆ ยังค้างสต็อกอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

บางทีอาจจะเป็นเพราะตรงนี้เลยทำให้ดีลระหว่าง Ducati Thailand และ KTM ยังไม่ลงตัวแต่อย่างใด และดูเหมือนว่าพวกเขาเองอาจจะถอยฉากไปแล้ว ดังนั้นน้ำหนักในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า จะเทไปที่ทางกลุ่มทุนของญี่ปุ่นมากกว่าที่จะสามารถปิดดีลกับทาง KTM สำหรับการเป็นตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราได้ อย่างไรก็ตามในมุมมองของทาง GreatBiker แล้วเชื่อว่าท้ายที่สุด ก็จะต้องมีใครสักคนที่จะคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่าย KTM ในบ้านเราอย่างเป็นทางการอยู่ดี ยิ่งกับการที่ช่วงปลายปีนี้เราอาจจะได้เห็นการเปิดตัวของ KTM ในคลาส 500 สำหรับตลาดโลก ก็เชื่อว่าทางผู้ลงทุนจะมองเห็นช่องทางในเจาะตลาดในบ้านเราสำหรับรถกลุ่มนี้ได้ บางทีช่วงเวลานั้นอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรีเซ็ทโครงสร้างราคาของ KTM ในประเทศไทยกันใหม่ รวมไปถึงเป็นจังหวะดีที่จะวางขายโมเดลอย่าง Duke 790 ที่ยังไม่ได้ขายในบ้านเรากันเสียที ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของราคา ตัวแทนจำหน่ายที่ครอบคลุม และบริการหลังการขาย จะเป็นคำตอบเองว่า KTM จะเติบโตไปได้มากขนาดไหนในบ้านเรา