เปิดตัว Kawasaki Eliminator 400 2025 ครุยเซอร์รุ่นใหม่
Kawasaki Motor Japan ได้ประกาศอัปเดทผลิตภัณฑ์ใหม่ Eliminator 400 สำหรับปี 2025 ที่ในปีนี้จะมาพร้อมกัน 3 รูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับผู้บริโภค
Kawasaki Eliminator 400 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2023 โดยเป็นโมเดลที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะแตกต่างกับตลาดสากลที่จะใช้ Eliminator 650 ในการทำตลาด โดยเจ้า Eliminator 400 จัดว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางครุยเซอร์ ที่เน้นใช้งานในการเดินทางเป็นหลัก ตัวรถจะมีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่ ด้วยเบาะนั่งที่ต่ำเพียง 735 มิลลิเมตร ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกับผู้ขับขี่ในทุกๆ สรีระ และยังมาพร้อมกับขุมกำลังและอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากมาย
ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 399 ซีซี 2 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ชุดเดียวกับที่ติดตั้งบน Ninja 400 และ Z400 ให้กำลังสูงสุด 48 แรงม้า (PS) ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 37 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีดติดตั้งบนชุดโครงสร้างแบบ steel pipe trellis frame เชื่อมต่อกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescpoic มาตรฐานที่ด้านหน้า และมีระบบกันสะเทือนหลังแบบสปริงคู่
อุปกรณ์บนตัวรถจะมาพร้อมกับระบบไฟ LED รอบคัน หน้าจอแสดงผลแบบ liquid crystal ดิจิตอลเต็มรูปแบบ พร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปฯ Rideology ในขณะที่ระบบเบรกหน้าหลังจะเป็นแบบดิสก์เดี่ยวพร้อมระบบ ABS แบบ Dual Channel มาพร้อมกับขอบล้อขนาดไม่เท่ากัน โดยที่ด้านหน้าจะเป็นขอบล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้วสวมด้วยยางขนาด 130/70-18M/C 63H ส่วนด้านหลังจะมีขอบล้อขนาด 16 นิ้ว สวมด้วยยางขนาด 150/80-16M/C 71H
Kawasaki Eliminator 400 รุ่นมาตรฐาน
Kawasaki Eliminator 400 “Plaza Edition”
Kawasaki Eliminator 400 “SE”
ในส่วนของการแยกผลิตภัณฑ์ออกเป็นรุ่นนั้น ตัวรถ Eliminator 400 จะถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลักๆ ประกอบด้วยรุ่นมาตรฐาน ที่จะมาพร้อมกับสี Metallic Flat Spark Black โดยวางราคาจำหน่ายอยู่ที่ 814,000 เยน หรือราวๆ 180,810 บาท ในขณะที่รุ่น SE ที่จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งที่ครบกว่า และลวดลายที่ไม่ซ้ำกับรุ่นมาตรฐานโดยมีตัวเลือกย่อยอีก 2 แบบ ได้แก่ Phantom Blue x Ebony และ Metallic flat spark black x metallic matte dark green จำหน่ายในราคา 913,000 เยน หรือประมาณ 202,825 บาท และสุดท้าย Plaza Edition ที่ใช้แนวทางจากรุ่นมาตรฐานและปรับสีตัวถังใหม่ที่แตกต่างกัน โดยจะมีตัวเลือกอีก 2 สีประกอบด้วย Pearl Sand Khaki และ Pearl Storm Gray จำหน่ายในราคา 869,000 เยน หรือราวๆ 193,050 บาทโดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก lajumotor.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.