Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

Honda Motorcycle&Scooter India วางแผนพัฒนารถสกู๊ตเตอร์ EV และเชื้อเพลิง Flex-Fuel ในประเทศอินเดีย

Honda Motorcycle&Scooter India วางแผนพัฒนารถสกู๊ตเตอร์ EV และเชื้อเพลิง Flex-Fuel ในประเทศอินเดีย

ดูเหมือนว่าการเติบโตของกลุ่ม EV ในประเทศอินเดียนั้นมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก จากการให้ความสนใจ และการแสดงออกถึงความต้องการที่ชัดเจนของกลุ่มผู้บริโภค ล่าสุด Honda ผู้ผลิตยานยนต์อันดับต้นๆ ของประเทศอินเดีย ก็หันมาให้ความสนใจกับแผนงาน EV ด้วยเช่นกัน โดยมีการประกาศถึงแผนงานในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ EV รุ่นใหม่ในเร็วๆ นี้

e01f30f5efd30dbcce00a5997d0fcf11.jpg

เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา Honda Motorcycle&Scooter India (HMSI) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงแนวทางคร่าวๆ ของแผนงานสำหรับการพัฒนายานพาหนะประเภทไฟฟ้า 100% สำหรับตลาดประเทศอินเดีย ด้วยการเตรียมการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และเชื้อเพลิงแบบ flex-fuel โดยทาง Honda ตั้งเป้าหมายที่จะครอบคลุมฐานในแง่ของการลดการปล่อยมลพิษ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหา PM2.5 ที่ประเทศอินเดียจะต้องเผชิญ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเข้าสู่กลุ่มรถจักรยานยนต์ระดับล่างในอินเดียด้วยรุ่น 100cc หรือเทียบเท่าที่มุ่งเป้าไปที่การขนส่งผู้โดยสารเป็นหลัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท ไม่ได้ให้รายละเอียดที่แท้จริงเกี่ยวกับแผนใดๆ เหล่านี้ในขณะนี้ ข้อมูล เช่น กรอบเวลาทั่วไป ตลอดจนจำนวน EV และยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงแบบ flex-fuel โดยเฉพาะการใช้งานผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง flex-fuel นั้น ทาง Honda Brazil เองได้นำร่องและประสบความสำเร็จไปแล้ว ซึ่งทาง HMSI เองจะเอาแนวทางและองค์ความรู้จากบราซิลมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศอินเดียด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังกล่าวว่าอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนา EV เช่นเดียวกับการประเมินระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐาน EV ภายในตลาดโดยรวม

b488fcc2d7515635ff0e364b671f04f4.jpg
Honda CG150 TITAN MIX รถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลกที่ใช้เชื้อเพลิง flex-fuel

ผลิตภัณฑ์แรกของ Honda Brazil ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบ flex-fuel ก็คือ CG150 TITAN MIX ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 2009 โดยตัวรถนั้นจะใช้งานเครื่องยนต์ขนาดเล็ก และติดตั้งระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงผสม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชื้อเพลิงที่ยืดหยุ่นซึ่งพัฒนาโดยทางค่าย ด้วยการนำระบบจ่ายเชื้อเพลิงและระบบควบคุมการฉีดเชื้อเพลิงที่พัฒนาขึ้นใหม่มาใช้ ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบผสมช่วยให้ส่วนผสมของเอธานอลและเชื้อเพลิงเบนซินที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมผสมกันได้อย่างยืดหยุ่น การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการปล่อย CO2 ในขณะที่ลดต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับผู้บริโภคด้วย โดยตัวรถนั้นจะมีราคาจำหน่ายที่ 6,340 เรียลบราซิล ซึ่งจะคิดเป็นเงินไทยที่ประมาณ 46,512 บาท ซึ่งยังคงจำหน่ายมาจนถึงปัจจุบันและมียอดการจำหน่ายเฉลี่ยราวๆ 170,000-200,000 คันต่อปีเลยทีเดียว

eb1f8a44a5a6fbeffbaa994714

Atsushi Ogata ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท HMSI ได้กล่าวไว้ว่า “ด้วยการทำงานร่วมกันของความเชี่ยวชาญระดับโลกของ Honda พร้อมการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากคนในพื้นที่ HMSI จะขยายขอบเขตอันไกลโพ้นในอินเดียต่อไป การนำเทคโนโลยีเชื้อเพลิงแบบ flex-fuel และการแนะนำโมเดล EV หลายรุ่นในอนาคตจะนำไปสู่การเดินทางที่น่าตื่นเต้นในอนาคต”

“HMSI ยังวางแผนที่จะเข้าสู่กลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ระดับล่างในขณะที่ส่งเสริมธุรกิจโมเดลที่มุ่งเน้นไปที่ความสนุกสนาน ความสดใหม่ในตลาดภายในประเทศ HMSI มุ่งหวังที่จะให้บริการแก่ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยมาตรฐานคุณภาพระดับโลกในระดับสูงสุด”

60b5177e2a10a8f578071b53124cce79.jpg

ย้อนกลับไปในปี 2020 HMSI เองได้นำเอารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาทดลองใช้งาน เพื่อใช้เป็นกรณีศึกษา และวิจัยถึงความเป็นไปได้ของการใช้งานจริง และในเดือนมิถุนายนปี 2021 ที่ผ่านมา HMSI ก็ได้เปิดเผยถึงการทดสอบ Mobile Power Pack เพื่อใช้งานในตลาดอินเดีย แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกใช้บนผลิตภัณฑ์รุ่นใด แต่ก็มีการคาดเดาว่า Honda Benly:E จะเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ทาง HMSI จะทำการนำเสนอในการจำหน่ายจริง

17874fc25ef37a410f1de2c45e1ca658.jpg

ไม่ใช่แค่ในอินเดียเท่านั้น แต่ในประเทศไทยเองก็มีการทดลองและศึกษาการใช้งานรถสกู๊ตเตอร์ EV มาตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา โดยบริษัท Thai Honda Manufacturing ได้นำ Honda PCX EV มาทำการทดสอบโดยร่วมกับคณะวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง และยังมีการเปิดให้บริการ “Green Win by Honda” บริการขนส่งสาธารณะ และการใช้งานระบบ Swap Batteries ในปี 2020 และในงาน Motor Show 2022 ที่ผ่านมาก็ได้นำตัวจริงของ Honda Benly:E มาจัดแสดงภายในงาน และสามารถเรียกความสนใจได้อย่างล้นหลาม

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com

blank