Banner Yamaha FINN 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN 2024 400x300

รีวิว BMW R18 ครูเซอร์ทรงพลัง เครื่องบ็อกเซอร์ ที่มีดีมากกว่ารูปทรงคลาสสิก!

blank

หากเราจะพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ในทรงครูเซอร์ กับทางค่าย BMW หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาทางค่ายจะสร้างชื่อ ในรถแนวทัวร์ริ่งแอดเวนจอร์ รถสปอร์ต หรือแม้กระทั่งสกู๊ตเตอร์มากกว่า แต่แล้วทางค่ายเองก็ได้สร้างความสะเทือนให้กับวงการ ด้วยการเปิดตัว BMW R18 รถครูเซอร์รุ่นใหญ่ออกมาทำตลาดในช่วงที่ผ่านมา

53824bd974dcdf71f50c996b1950a824.jpg

2f0141c58f441c8c78572a94bcd5a70a.jpg

BMW R18 นั้น เป็นรถครูเซอร์ทรงคลาสสิก ที่มีดีไซน์เน้นการเดินเส้นสายที่โค้งมน ดูหรูหราและมีความลงตัวในรายละเอียด ถึงแม้จะไม่มีรูปทรงที่หวือหวามาก แต่ตัวรถก็โชว์ความโดดเด่นของเครื่องยนต์ขนาด 1,802 ซีซี แบบ Flat Boxer สองลูกสูบนอนแบบเดียวกับที่ใช้ในรถมอเตอร์ไซค์รหัส R ของทางค่าย เครื่องยนต์เป็นแบบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้า (HP) ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 157 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที ซึ่งในเรื่องของแรงบิดนั้นทางผู้ผลิตได้ออกมาบอกว่าเพียง 2,000 รอบต่อนาที ก็สามารถสร้างแรงบิดได้มากถึง 149 นิวตันเมตร ทำให้ตัวรถนั้นมีแรงกระชากมหาศาลในรอบต่ำ

22ac5848f0b487bc5e12dd8f7896422f.jpg

c4d03756ebdecd35734c028df2e2b36f.jpg

ด้วยแรงบิดขนาดนี้บอกเลยว่า แค่เพียงสตาร์ทครั้งแรก ตัวรถก็มีแรงกระชากให้เห็นแล้ว พอขี่ออกตัวไป บอกเลยว่าด้วยขุมกำลังขนาดนี้ มันบิดสนุกและติดมือเอามากๆ การไต่ความเร็วทำได้หายห่วง แป้บๆ ทะลุ 140 กม./ชม. แล้ว แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของการคอนโทรลรถนั้น สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยอาจจะต้องปรับตัวกันสักพัก เพราะน้ำหนักตัวของรถนั้นค่อนข้างเยอะ (ถังน้ำมันจุได้ 16 ลิตร น้ำหนักตัวแบบรวมน้ำมันเต็มถังอยู่ที่ 560 กิโลกรัม) แต่เมื่อปรับตัวได้แล้ว ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ยิ่งเวลาที่ขี่ออกไปแล้ว จะพบว่าตัวรถนั้นสามารถควบคุมได้ไม่ยากเลย

7eaca6b94a2174973526eaf19576883c.jpg

6a7e4337964fd26fa255a01db874573d.jpg

ช่วงล่างของตัวรถ มาพร้อมกับโช้คอัพหน้าแบบ cartridge Invert หัวกลับขนาดใหญ่ 52 มิลลิเมตร โช้คอัพหลังเป็นแบบ Monoshock ระบบเบรกหน้าเป็นแบบดิสก์หน้าคู่ขนาด 280 มิลลิเมตร ปั้มเบรก Radial Mounr 4 พอร์ท ด้านหลังจะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 320 มิลลิเมตร วงล้อจะเป็นแบบซี่ลวดขนาดไม่เท่ากันด้านหน้า 21 นิ้ว และด้านหลัง 18 นิ้ว ซึ่งบอกได้เลยว่ามันสามารถรองรับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้แบบสบายๆ ถึงแม้ว่าตัวรถจะมีพละกำลังมหาศาล แต่ก็มีความนิ่มนวลในการขับขี่อยู่ในตัว

ed9e760a961561b55f22eea0ae126786.jpg

dfacb4b99f3dd2b431def25a98177734.jpg

184332fb04f483fa122d2b777380c26b.jpg

นอกเหนือจากนั้นแล้ว ตัวรถยังมีระบบที่ทันสมัยติดตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคันเร่งไฟฟ้าที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 3 โหมด Rain, Roll และ Rock ที่เอาไว้ใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน พร้อมการติดตั้งระบบอย่าง Automatic Stability Control ควบคุมความเสถียรของตัวรถ ระบบ Engine drag torque control ควบคุมแรงบิด ระบบ Reverse assist manoeuvring เกียร์ถอยหลัง และระบบอย่าง Hill Start Control functionality สำหรับการขี่ขึ้นภูเขา

0d2126b1f476d0ca9d80e2669e466cf8.jpg

2c4d7c6dbbce096c1420eb25d1df3965.jpg

การคอนโทรลรถนั้น หากว่าคุ้นเคยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งไฮสปีด หรือว่าการเข้าโค้งแคบๆ ในความเร็วต่ำ ตัวรถก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี คันเร่งมีความแม่นย่ำ บิดสนุกแต่ว่าเชื่องมือ เอนจิ้นเบรกมีแบบเหลือๆ ทำให้การตกแต่งความเร็วในการขับขี่นั้น ทำได้ไม่ยาก

f8b013234236fda085f20943ca1dd572.jpg

45016ae68e9276de2a7725f5350981e9.jpg

ภาพรวมของ BMW R18 เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบรถในแนวครูเซอร์เป็นทุนอยู่แล้ว เพราะมันตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งภาพลักษณ์ของตัวรถนั้น ก็ถือว่าเป็นการบ่งบอกไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี การขับขี่ทางไกลออกทริปตัวรถจะมอบความสนุกและความสบายให้กับผู้ขับขี่ แต่การใช้งานในเมืองแบบการจราจรติดขัดนั้น ก็อาจจะไม่ได้มุดหรือซอกแซกได้ง่ายๆ เหมือนรถทรงทั่วไป แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป อยู่ที่ผู้ขับขี่จะต้องเรียนรู้คาแรกเตอร์ของตัวรถให้คุ้นเคยก่อนเท่านั้นเอง สรุปง่ายๆ ว่ารถคันนี้นอกจากมันจะมีประสิทธิภาพตามแนวทางของตัวรถแบบเต็มๆ แล้ว มันยังเป็นเรื่องของฟีลลิ่ง เรื่องของอีโมชั่น ที่ไม่สามารถหาได้จากรถในแนวทั่วๆ ไปนั่นเอง

7edeb4b66cbd29db7eea85dc546f3232.jpg

4c6deceb87f821d3bd3dd89c32d2ab09.jpg

2c8323c003903182ecb07769caa8a82e.jpg

ไม่บ่อยที่เราจะเห็นรถในแนวนี้จากทาง BMW ดังนั้นแล้วหากใครที่สนใจก็ไปสัมผัสตัวเป็นๆ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bmw-motorrad.co.th/th/models/heritage/r18.html โดยตัวรถจะมีราคาเริ่มต้น (รุ่น First Edition ที่เราทดสอบกันในครั้งนี้) อยู่ที่ 1,150,000 บาทด้วยกัน