Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

ทริปตะลุยอินเดีย ไปกับ Bajaj พาชมโรงงาน พร้อมเจาะลึกความสัมพันธ์ระหว่าง KTM และ Triumph!

blank

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเราได้คุ้นหน้าคุ้นตาและได้ยินชื่อของ BAJAJ เข้ามาในประเทศไทยเมื่อ 2 ปีก่อนและหลังจากนั้นเป็นต้นมาเราก็ได้เห็น มอเตอร์ไซค์ BAJAJ ตามโชว์รูมต่างๆ และเป็นโอกาสอันดีที่ทางทีมงาน Greatbiker ได้เดินทางไปสัมผัสโรงงานผลิตมอเตอร์ไซค์ BAJAJ กันถึงประเทศอินเดีย เลยรวบรวมข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

H3p7vn.jpg

-ทำความรู้จักกับ BAJAJ
BAJAJ เป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์สัญชาติอินเดีย 100% และได้ก่อตั้งบริษัทมาจนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลา 75 ปี มีกำลังการผลิตถึง 400 คันต่อวัน โรงงานผลิตใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ส่งขายไปยัง 79 ประเทศทั่วโลก และในปีที่ผ่านมาส่งออกได้มากกว่า 2.5 ล้านคัน

H3pRC0.jpg

BAJAJ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในกลุ่มประเทศแถบละตินอเมริกา และมียอดขายเป็นอันดับ 1ในหลายประเทศ และไม่แปลกใจเลยที่ทาง BAJAJ เองได้เน้นย้ำเสมอว่า BAJAJ คือความภาคภูมิใจของคนอินเดีย
โรงงานผลิตจะเน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือการใส่ใจการผลิต ล๊อตการผลิตของโรงงานจะทำครั้งละไม่เยอะเพื่อง่ายต่อการหาจุดบกพร่องและแก้ไข และจะผลิตตามออเดอร์ที่สั่งเข้ามาเท่านั้น

H3pB71.jpg

จากการที่ทางทีมงาน GreatBiker ได้เดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่อินเดียเป็นระยะเวลา 5 วัน จะสังเกตุได้อย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่อินเดียจะเน้นใช้งานเป็นหลัก ไม่ได้มีฟังชั่นพิเศษอะไรมากมายเหมือนบ้านเรา ในส่วนของมอเตอร์ไซค์จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มเท่านั้น คือ รถออโตเมติก และ รถคลัชทรงสปอร์ต และทุกคันจะต้องติดกันล้มมาจากโรงงานทุกรุ่น ที่แปลกและน่าจะมีที่เดียวในโลกก็คือ ตะแกรงกันส่าหรีจะติดไว้ตรงล้อหลังฝั่งซ้ายทุกคัน ซึ่งก็ต้องบอกว่าประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศที่มีตัวเลือกรถมอเตอร์ไซค์มากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้

H3pYBg.jpg

– BAJAJ และ KTM เกี่ยวข้องกันอย่างไร
หลายคนคงพอจะทราบข้อมูลแต่อีกหลายคนก็ยังสงสัยว่าทำไมรถมอเตอร์ไซค์ BAJAJ ถึงยอดขายในโชว์รูม KTM ในบ้านเรา BAJAJ มีหุ้นใน KTM ถึง 48% และกำลังการผลิตส่วนใหญ่ของ KTM ที่ส่งขายในยุโรป ก็เกิดขึ้นที่โรงงาน BAJAJ แห่งนี้นี่เอง นอกจาก พาร์ทเนอร์อย่าง KTM ยังมีแบรนด์ HUSQVARNA และ Triumph ที่ยังเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกันอีกด้วย และถ้าถามว่า BAJAJ ผลิตให้ KTM นั่นหมายความว่า DNA รถของ BAJAJ เป็นของ KTM ด้วยหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่าสายพานการผลิตในโรงงาน BAJAJ ถือว่าทันสมัยมาก มีการใช้หุ่นยนต์ประกอบในส่วนกำลังหลักของเครื่องยนต์ที่ต้องใช้ความละเอียดสูง และในส่วนการประกอบส่วนอื่นยังคงใช้แรงงานคนเป็นหลัก โดยรถ 1 คันจะต้องใช้คนประกอบถึง 4 คนด้วยกัน และแน่นอนว่า มาตรฐานของรถ KTM นั้นย่อมมีสูงแน่น่อน จึงทำให้โรงงานผลิตใช้มาตรฐานเดียวกันในการผลิตรถ BAJAJ เช่นเดียวกัน ถ้าเปรียบเทียบกับมนุษย์คนนึง BAJAJ ก็น่าจะเป็นร่างกาย KTM ก็น่าจะเป็นปอดกับหัวใจ ก็อาจเป็นไปได้

H3aLUl.jpg

– แนวทางการทำการตลาดในประเทศไทย
BAJAJ ในประเทศไทยถูกนำเข้าโดย บริษัท วรูม จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์ KTM, BAJAJ, HUSQVARNA อย่างเป็นทางการ และมีดีลเลอร์กว่า 20 แห่งอยู่ตามภูมิภาคต่างๆในประเทศไทย
โดยทาง BAJAJ ประเทศอินเดียได้เปิดเผยข้อมูลเรื่องการตลาดไว้ว่า ภายใน 4-5 ปีนี้ BAJAJ จะก้าวมาเป็นแบรนด์ผู้นำอันดับต้นๆในประเทศไทย โดยได้มีการศึกษาและพัฒนารถให้เข้ากับคนไทยมากที่สุด BAJAJ เองได้มีทีมงาน R&D อยู่ 3 ที่หลักๆ คือในประเทศอินเดียเอง ส่วนทางยุโรปอยู่ที่เมืองบาร์เซโลน่าประเทศสเปน ในภูมิภาคเอเชียตั้งอยู่ประเทศไทย ซึ่งในบ้านเราเอง BAJAJ ได้ร่วมมือกับ Ogilvy Thailand บริษัทเอเจนซี่ ที่ผลิตโฆษณาและออกแบบ อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่มีรางวัลระดับโลกการันตีผลงานมากมาย ก็ต้องติดตามกันไปว่าในอนาคต BAJAJ ที่เป็นเวอร์ชั่นที่ตอบสนองความต้องการของคนไทยจะไปในทิศทางไหน
BAJAJ เองยอมรับว่า ณ ปัจจุบันนี้เค้าเองยังไม่สามารถก้าวมาเป็นเจ้าตลาดได้เนื่องจากเป็นแบรนด์น้องใหม่ ยังสู้คู่แข่งที่ทำการตลาดมาอย่างยาวนานนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากและเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก ในประเทศฟิลิปปินส์ยอดขายของ BAJAJ เป็นอันดับที่ 1 และเค้าใช้ระยะเวลา 3 ปีในประเทศมาเลเซียก้าวมาเป็นอันดับ 2ในกลุ่มตลาดรถมอเตอร์ไซค์ โดยในปีแรกๆ เค้าจะเข้าไปศึกษาแนวทางการตลาดก่อน คอนเซปที่ชัดเจนคือ ทำน้อยแต่ละเอียดและคงคุณภาพไปเรื่อยๆ

H3aJNe.jpg

สำหรับประเทศไทยเองในอนาคต BAJAJ มองไว้ว่าเค้าจะมาจับกลุ่มตลาดรถ Entry Class 150 ซีซี และเป็นเจ้าตลาดได้ในกลุ่มนี้ และเมื่อพูดถึงรถที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ก็ไม่พ้นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า อย่างเจ้า “CHETAK” ว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะนำมาขายในประเทศไทย BAJAJ เองก็ได้บอกเอาไว้ว่า ต้องรอดูกฎหมายและนโยบายที่ชัดเจนของบ้านเราก่อนว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งตอนนี้เองก็ยังไม่ชัดเจน เค้าก็ยังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้มากนัก ก็ต้องรอดูในอนาคตในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าว่าจะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป

H3pUtZ.jpg

H3pigR.jpgH3ae8k.jpg
H3ay0v.jpg
H3aFcE.jpg
H3aI2N.jpg
H3aMyV.jpg
H3pdTQ.jpg

H3pfcy.jpg
H3ph2D.jpg
H3pkF9.jpg
H3pTlb.jpg
H3ptGf.jpg
H3p1Ba.jpg
H3pKqq.jpg
H3pZHz.jpg

H3pxFu.jpg

H3pqlI.jpg
H3p5GP.jpg
H3pOft.jpg

H3p482.jpg

นอกจากนั้นเรายังได้มีโอกาสไปขับขี่ทดสอบเจ้า “CHETAK” มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ BAJAJ อีกด้วยเอาไว้บทความต่อไปจะมาเล่าความรู้สึกให้ฟังว่ามันน่าขี่แค่ไหนครับ