Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

วิเคราะห์ แนวทางการพัฒนา All New Honda CBR250RR-R 4 สูบ เตรียมท้าชน ZX-25R!

blank

จากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวอย่างมากมายเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของ All New Honda CBR250RR-R แบบ 4 สูบเรียง และก็มีคำถามเกิดขึ้นว่ามันจะมีการพัฒนากันจริงๆ หรือไม่ และหากมีจริงมันจะมีกลยุทธ์อะไรบ้าง ในการที่จะเอาชนะคู่แข่งอย่าง Ninja ZX-25R

ซึ่งครั้งนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจที่อ้างอิงมาจากทางเว็บไซต์ 7leopold7.com โดยได้วิเคราะห์ไว้ว่า ตัวรถ All New Honda CBR250RR-R แบบ 4 สูบนั้น เป็นไปได้ว่าจะมีการพัฒนากันจริงๆ ในอนาคต เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ทั้งในแง่ของคุณภาพตัวรถและราคาที่คาดว่าจะไม่แพงด้วย และยังจะเป็นการสร้างความสมดุลย์ให้กับตลาด จากที่ในตอนนี้มีเพียงแค่ Kawasaki เจ้าเดียวเท่านั้นที่มีรถแบบ 4 สูบในคลาส 250

CBR250RR

และอีกเหตุผลสำคัญที่สนับสนุนแนวความคิดนี้ก็คือ เรื่องของภาพลักษณ์ของทาง Honda เอง ที่เชื่อว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้กับทางคู่แข่งแย่งชิงพื้นที่ตรงนี้แต่เพียงผู้เดียวแน่นอน โดยยกตัวอย่างที่เห็นง่ายที่สุดก็คือ จากที่ก่อนหน้านี้ทั้งทาง Kawasaki ที่มีรถอย่าง Ninja 250 2 สูบ และ Yamaha ที่มี YZF-R25 หลังจากนั้นทาง Honda เองก็ได้มีการเปิดตัว CBR250RR แบบ 2 สูบที่มีสเปคเหนือกว่าในหลายๆ ด้านออกมา และก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วย

โดยทางเทคนิคแล้วเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ที่ทาง Honda เองจะผลิต CBR250RR-R แบบ 4 สูบออกมากันจริงๆ ในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทางค่ายนั้นมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือจะทำออกมายังไงให้ต่อสู้กับคู่แข่งได้ ซึ่งทาง 7leopold7.com ได้วิเคราะห์ไว้ดังนี้

– อาจจะมีการทำน้ำหนักให้เบากว่า 182 กก. โดยใช้วัสดุหรือแชสซีเกรดที่ดีกว่า

– ใช้การจุดระเบิดของเครื่องยนต์ที่มีความแตกต่าง (อย่างเช่นที่ทาง Yamaha ใช้การจุดระเบิดแบบไม่สม่ำเสมอกันในรุ่นอย่าง MT-07 และ MT-09)

– มีการแอโรไดนามิกที่ดีกว่า

– มีระบบการควบคุมอิเลคทรอนิดที่เพิ่มเข้ามา อย่างเช่นระบบควบคุมการออกตัว และโหมดพิทเลน

– ฯลฯ

โดยสรุปแล้ว มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ทาง Honda เองจะเดินหน้าลุยกับโปรเจคท์ CBR250RR-R แบบ 4 สูบ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองจากทางธุรกิจเอง หรือในแง่ของเรื่องภาพลักษณ์ของทางแบรนด์ แต่ดูแล้วคงจะเป็นโปรเจคท์ในระยะยาวพอสมควรนับจากนี้ไปอีกประมาณ 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย เราจึงจะได้เห็นกัน

Credit : 7leopold7.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก : motoblast.org