Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

AHM เปิดตัว Honda CB150R StreetFire MY 2018 อย่างเป็นทางการแล้ว

HOnda-new-CB150R-versi-3-facelift-21

อีกหนึ่งโมเดลที่ทางค่าย Honda เองนั้นทำการเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ นั่นก็คือ Honda CB150R StreetFire MY 2018 โดยครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่่น่าสนใจในหลายๆ จุดซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง Honda ญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย หลังจากที่โมเดลก่อนหน้านี้มีอายุอานามได้ประมาณ 3 ปีด้วยกัน

NAYVqR.jpg

โดยที่โมเดลนี้ถือว่าเป็นการออกมาแก้เกมคู่แข่งที่กำลังทำตลาดอย่าง Yamaha Vixion และ Suzuki GSX-S150 ในขณะนี้ แม้ว่า CB150R StreetFire MY 2018 จะไม่ได้เป็น full model change แบบทั้งคัน แต่การอัพเกรดครั้งนี้มันก็มากพอที่จะต้องจับตามอง ซึ่งทางเว็บไซต์ iwanbanaran.com ได้สรุปการเปลี่ยนแปลงออกมาเป็น 7 ประเด็นดังนี้

  1. มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ด้านหน้าของตัวรถใหม่ ทั้งในส่วนของครอบไฟหน้าและบริเวณเครื่องยนต์
  2. ด้านท้ายรถมีการออกแบบชิ้นงานใหม่
  3. ตัวจับคนซ้อนและพักเท้าหลังมีการออกแบบใหม่
  4. ดิสก์เบรกเปลี่ยนจากแบบจานกลมมาเป็นแบบจานคลื่น (ที่จะทำงานกับคาลิปเปอร์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม) ขนาด 276 mm สำหรับด้านหน้า และ 220 mm สำหรับด้านหลัง
  5. สวิทช์ชุดควบคุมระบบไฟสัญญาณมีการออกแบบใหม่
  6. แฮนด์บาร์ด้านหน้านั้นออกแบบใหม่เช่นกัน โดยมีขนาดที่กว้างกว่าเดิม และสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทำให้ท่านั่งในการขับขี่นั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
  7. ตัวครอบเครื่องและแฟร์ริ่งในบางจุดนั้นมีการออกแบบใหม่ ให้ดูกระชับมากขึ้นกว่าเดิม

NAYXH0.jpg

ซึ่งในด้านของสเปกเครื่องยนต์พื้นฐานนั้นยังคงเป็นตัวเดิม ที่มีขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 149.16cc ให้แรงม้าอยู่ที่ 16.8 Bhp ที่ 9000 รอบต่อนาที และทอร์คก็จัดจ้านพอตัวเลยทีเดียวที่ 13.8 Nm ที่ 7000 รอบต่อนาที ซึ่งเครื่องยนต์ของเจ้านี้จะเป็นแบบ 4 จังหะว DOHC 4 วาล์ว แบบ 1 สูบ สำหรับเรื่องระบบระบายความร้อนนั้น CB150R ใช้ระบบหม้อน้ำ และจุดระเบิดในการติดเครื่องแบบ Ignition มีกำลังอัดที่ 11.3:1 ขนาดกระบอกสูบเท่ากับ 57.3 mm และช่วงชักเท่ากับ 57.8 mm ขับเคลื่อยด้วยระบบเกียร์ 6 สปีดแบบ 1-N-2-3-4-5-6 ส่วนของคลัทช์นั้นใช้แบบเปียกนั่นเอง โครงรถนั้นใช้เฟรมแบบ Diamond Steel (Truss Frame) ระบบเบรกนั้นใช้แบบดิสก์แบบคลื่นทั้งหน้าและหลัง ดิสก์หน้ามีขนาด 276 mm แบบไฮดรอลิกดูอัลพิสตัน (2 ลูก) ส่วนเบรกหลังมีขนาด 220 mm แบบไฮดรอลิกเช่นกันแต่เป็นซิงเกิลพิสตัน (1 ลูก) และสำหรับระบบกันสะเทือนนั้นใช้โช๊คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิก และโช๊คอัพหลังเป็นแบบโปร์ลิงค์

NAYHB8.jpg

ถือว่าเป็นการเดินแนวทางที่แตกต่างไปจากฮอนด้าบ้านเราอย่างชัดเจนสำหรับรถในคลาสนี้ เพราะบ้านเรานั้นจะเป็นแบบนีโอสปอร์ตคาเฟ่ไฟกลม ที่มีฟีเจอร์และออพชั่นต่างๆ แตกต่างกันอย่างที่เราเห็น สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังชื่นชอบรถในแนวโมเดิร์นเนกเกตอย่างนี้ ก็ต้องรอลุ้นกันในปีต่อๆ ไปว่าจะมีการอัพเดทกันในบ้านเราหรือไม่กับคลาส 150

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก iwanbanaran.com