Banner Yamaha AEROX 2024 1150x250
Banner Yamaha AEROX 2024 400x300

หรือ Kawasaki ZX250R/ZX400R 4 สูบเรียง จะเป็นการแก้เกมในยุคต่อไปของยักษ์เขียว?!

blank

ย้อนกลับไปในช่วงประมาณปี 2016 – 2017 ช่วงนั้นก็เริ่มมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการเตรียมการพัฒนามอเตอร์ไซค์แบบ 4 สูบเรียงในคลาสเริ่มต้น 250cc จากทางค่ายยักษ์เขียว Kawasaki โดยเฉพาะจากทางสื่อของญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ที่มีการตีข่าวกันอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วเมื่อทางค่ายเองนั้นได้เปิดตัว All New Ninja 400 และ All New Ninja 250 แบบ 2 สูบออกมา ก็ดูเหมือนกระแสข่าวนี้จะเริ่มซาๆ ลงไป

หากจะว่ากันตรงๆ รถมอเตอร์ไซค์ในคลาส 250cc แบบ 4 สูบเรียงย่อมที่จะไม่ค่อยคุ้นเคยกับไบค์เกอร์ในยุคนี้อย่างแน่นอน แต่หากว่าย้อนกลับไปในอดีตทางค่าย Kawasaki เองก็เคยทำมาแล้วกับเครื่องยนต์ 250cc แบบ 4 สูบเรียง ซึ่งมันเคยวางจำหน่ายในช่วงปี 1988 – 1991 โดยมีรหัสอย่างเป็นทางการว่า ZX-250A และสานต่อความสำเร็จด้วยโมเดล ZX-250C ในช่วงปี 1991 ถึง 2001 โดยเป็นรถสปอร์ตแบบแฟร์ริ่งที่มีเครื่องยนต์ขนาด 249cc แบบ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ มีจำนวน 16 วาล์วด้วยกัน (4 วาล์วต่อสูบ) แบบ DOHC (ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์) ซึ่งให้อัตราส่วนกำลังอัดมาอยู่ที่ 12.2:1 ซึ่งเครื่องยนต์ชุดนี้ได้ให้กำลังแรงม้ามาสูงสุดถึง 45 ตัว ที่ 15,000 รอบต่อนาที และทอร์คสูงสุดที่ 25 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบต่อนาที ซึ่งในขณะนั้นใช้การจ่ายน้ำมันแบบคาบูร์เรเตอร์ ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ตรงนี้จะสังเกตได้ถึงสัดส่วนที่แตกต่างกันมากพอควรระหว่างแรงม้าและทอร์ค นั่นก็บ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ของรถที่ไม่เน้นพละกำลังในช่วงต้นเท่าไหร่ แต่จะไปจัดจ้านเอามากๆ ในย่านความเร็วกลางถึงปลาย ตามแบบฉบับของรถสปอร์ตเรพลิก้าแบบลงสนามเต็มตัวนั่นเอง ในขณะที่น้ำหนักตัวของมันอยู่ที่ 144 กก. มียางหน้าขนาด 110/70 ส่วนยางหลังมีขนาด 140/60 เบรกหน้านั้นเป็นแบบดิสก์คู่ขนาด 300 mm ดูอัลคาลิปเปอร์ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 230mm แบบซิงเกิลคาลิปเปอร์ ระยะของฐานล้ออยู่ที่ 1,370 mm

และสำหรับในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ ประเด็นที่ถือว่าน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องรถ 4 สูบในคลาสเล็กนี้ก็เคยเกิดขึ้นเมื่อทาง KMI (Kawasaki Motor Indonesia) ได้เคยออกแบบ Survey สอบถามความต้องการของโมเดล Ninja 250 โดยหนึ่งในหัวข้อที่อยู่ในแบบสอบถาม ก็คือเรื่องของของเครื่องยนต์ว่าจะต้องการแบบ 2 สูบเรียงหรือว่าแบบ 4 สูบเรียง ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าทาง Kawasaki เองนั้นก็มีความคิดในเรื่องนี้เช่นกัน แม้ว่าหลังจากแบบสำรวจนั้นผลลัทธ์ที่ออกมาก็คือ All New Ninja 250 และ All New Ninja 400 แบบ 2 สูบเรียงอย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ก็ตาม แต่บางทีความเป็นไปได้ในประเด็น 4 สูบเรียงนี้ก็อาจจะไปเกิดขึ้นในยุคถัดไป?

zx250r

ความเป็นจริงอย่างหนึ่งก็คือ จริงอยู่ทีว่าเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียงในคลาส 250cc สมัยยุค 90 นั้นอาจจะไม่ได้ทนทานมากนัก แต่ด้วยเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันนั้น การจะทำเครื่องยนต์ให้คลาสนี้ให้เป็นแบบ 4 สูบและทนทานนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากเลย ทั้งวัสดุที่จะนำมาใช้ทำวาล์วและลูกสูบ ดังนั้นแล้วตรงนี้จึงไม่น่าจะเป็นประเด็นที่ต้องกังวลแต่อย่างใด อยู่ที่คาแรกเตอร์ของอัตราเร่งมากกว่า ว่ามันจะถูกเซ็ทออกมาเป็นอย่างไรหากว่าจะมีการผลิตกันจริงๆ เพราะจุดอ่อนของรถแบบ 4 สูบเรียงในคลาสเล็กๆ อย่างนี้ ก็คือในเรื่องของการออกตัวที่มักจะไม่จัดจ้านมากนัก แต่สำหรับในคลาส 400cc นั้นก็ไม่มีอะไรต้องห่วง ถ้าหากว่าทางค่ายจะทำออกมาควบคู่กันเป็น ZX250R และ ZX400R ในอนาคตต่อไป

ninja-650-candy-plasma-blue-and-ebony-studio

ทุกวันนี้รถในคลาส 650cc ของทาง Kawasaki นั้นกำลังประสบปัญหาความยากลำบากในการทำตลาด เมื่อเจอคู่แข่งอย่าง Honda ที่มาในเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการบ้านที่ทางยักษ์เขียวจะต้องหาทางแก้ไขกันในยุคต่อไป แต่บางทีการแก้เกมที่อาจจะเผ็ดร้อนกว่านั้นในยุคหน้า ก็อาจจะมีการพิจารณาความเป็นไปได้ของรถสปอร์ตทั้งแฟริ่งและเนกเกตในคลาส 250 – 400cc กันในเจนเนอเรชั่นต่อไป ให้เป็นแบบ 4 สูบเรียงตามกระแสข่าวลือก่อนหน้านี้ เพราะจะมองไปในท้องตลาดปัจจุบัน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีค่ายไหนเตรียมที่จะทำรถ 4 สูบในคลาสประมาณนี้กันเลย (ยกเว้นก็แต่เจ้าเก่าอย่าง CB400 Super Four ที่ขายกันแต่ในญี่ปุ่นเป็นหลัก) ดังนั้นถ้า Kawasaki จะเอาจริงในยุคต่อไป ส่งทั้ง ZX250R และ ZX400R ลงทำตลาดในระดับโกบอลโมเดล ตรงนี้ก็จะกลายเป็นแรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ที่ค่ายอื่นๆ จะต้องมีผลกระทบกันอย่างแน่นอน

9RwGVS.jpg

แม้ว่าทุกวันนี้โมเดลอย่าง Ninja 400 นั้นจะขายดี แต่ในยุคต่อไปก็ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่ ทุกคนย่อมที่จะคาดหวังการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันนี้ที่ทุกอย่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และมีตัวเลือกออกมาเต็มท้องตลาดไปหมด ดังนั้นอย่างน้อยๆ รถ 250 – 400cc ในยุคต่อไปของทาง Kawasaki ก็อาจจะมีการปรับในเรื่องของการใส่ Upside Down เป็นอย่างน้อย แต่ถ้าจะเล่นใหญ่เอาแบบให้มีจุดขายที่ชัดเจนเลย จัดแบบ 4 สูบเรียงออกมา ก็จะโดดเด่นออกมาจากคู่แข่งแบบเห็นได้ชัด ทั้งนี้ยังจะต้องรอติดตามสถานการณ์กันต่อไป ว่าจะเป็นไปตามนี้มากน้อยแค่ไหน และดูกระแสข่าวหรือการให้สัมภาษณ์จากทางค่ายในช่วงต่อจากนี้ไป หากมีอะไรคืบหน้า ทางเราจะรีบนำเสนอกันอย่างต่อเนื่องโดยเร็ว

ขอบคุณภาพประกอบจาก young-machine.com