Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

จับตา All New Honda CBR500R 2019 มันอาจจะขายดีที่สุดตั้งแต่เคยมีมา!!!

500a

หลังจากการเปิดตัวของ All New Honda CBR500R 2019 พร้อมการประกาศราคากันไปที่ 217,000 บาทแล้ว ก็กลายเป็นกระแสขึ้นมาอย่างมาก โดยเฉพาะกับคนที่เฝ้ารอรถสปอร์ตแฟริ่งคลาสกลางๆ แบบนี้จากทาง Honda จากที่ก่อนหน้านี้อาจจะยังไม่ถึงกับโดนใจมากมายนัก แต่ครั้งนี้ดูแล้วอะไรๆ ก็อาจจะเปลี่ยนไปเยอะกว่าเดิม

3awzqN.jpg

ย้อนหลับไปเมื่อครั้งแรกที่ทาง Honda เปิดตัว CBR500R โฉมแรกสุดในปี 2013 คลอดออกมาดูโลก ก็ถือว่าเป็นการเปิดคลาสใหม่ของทาง Honda อย่างเป็นทางการ ซึ่งมันก็ได้ใช้ประเทศไทยของเรานี่แหละเป็นฐานการผลิต และส่งออกไปวางขายทั่วโลกในรูปแบบของโกบอลโมเดล แต่ในครั้งนั้นเรื่องของการดีไซน์แบบภาพรวมๆ แล้ว มันยังไม่ถือว่าโดนใจเหล่าไบค์เกอร์ชาวไทยสายสปอร์ตเท่าไหร่นัก อาจจะด้วยเส้นสายที่ไม่เฉียบคม ดูออกจะไปในแนวกลมๆ มนๆ เสียมากกว่า โดยเฉพาะกับไฟหน้า มันเลยทำยอดขายสู้เพื่อนร่วมรุ่นอย่าง CB500X หรือ CB500F ไม่ได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าไบค์เกอร์ชาวไทยนั้น ต้องการอะไรที่มันมีความโฉบเฉี่ยว คมๆ สำหรับรถในแนวสปอร์ตมากกว่า

fVy7VZ.jpg

ต่อมาในเจเนเรชั่นที่ 2 ของ CBR500R ทาง Honda เองนั้นได้พยายามปรับโฉมการออกแบบ ระบบไฟ และเบาะนั่ง ให้ออกมาใหม่ ซึ่งดูลแล้วก็มีความทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม แต่เหมือนว่าอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ 100% ในตอนนั้น ที่ในท้องตลาดมีคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Ninja 300 และ YZF-R3 (รวมไปถึงในปลายๆ ยุค ที่มี Ninja 400 ออกมาสู้ด้วย) ทำให้ความนิยมในตัวของมันนั้นก็ยังไม่ถือว่าป็อบปูล่าร์ถึงขีดสุด แม้ว่าจะมีจุดเด่นในเรื่องของการทำราคาและสเปกตัวรถนั้นโดดเด่นเอามากๆ ก็ตาม จากที่สำรวจฟีดแบคของเหล่าไบค์เกอร์ส่วนมาก มักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันยังดูไม่ค่อยสปอร์ตเรซซิ่งเท่าไหร่ในภาพรวม หรืออาจจะเรียกได้ว่ามันมีความ user friendly มากไปนิดสำหรับรถในแนวสปอร์ตแฟริ่ง ดังนั้นแล้วผู้ใช้งานอาจจะต้องการความเหลี่ยมความคม คาแรกเตอร์ที่จัดจ้าน และพวกฟีเจอร์ต่างๆ ให้โดดเด่นมากขึ้น ตรงจุดนี้เองถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายทางผู้ออกแบบและพัฒนาของค่ายปีกนกกันมากๆ สำหรับการเตรียมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของโมเดลนี้

3HNax1.jpg

และแล้วในครั้งที่ 3 นี้ก็ดูเหมือนว่าทาง Honda เองนั้นจะตีโจทย์ได้แตกเสียที กับความต้องการของเหล่าไบค์สายสปอร์ต ด้วยก่อนหน้านี้เคยสำเร็จมาแล้วกับ CBR250RR ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความสวยงามด้านการดีไซน์ตัวรถ และคาแรกเตอร์โดยรวมที่ถือว่าให้ฟีลลิ่งของความเป็นสปอร์ตอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นแล้วกับ All New Honda CBR500R มันเลยถูกดึงเอาจุดเด่นของทั้ง CBR1000RR, CBR250RR มาผสมผสานกันในบางจุด และออกแบบตัวรถใหม่ให้เน้นเส้นสายที่เฉียบคม ดุดัน ทันสมัย รวมไปถึงการออกแบบท่อใหม่ปลายคู่ ที่เสริมให้ตัวรถนั้นดูเรซซิ่งมากขึ้นไปอีก

31TkXa.jpg

31Tfkb.jpg

ตำแหน่งท่านั่งก็มีการปรับให้ดูมีความเป็นเรซซิ่งมากกว่าเดิม คาแรกเตอร์เครื่องยนต์นั้นก็ปรับให้อัตราเร่งในช่วงต้นถึงกลาง ยอดเยี่ยมมากกว่าโมเดลปัจจุบัน มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ ที่ครั้งนี้จะมีตำแหน่งไฟบอกเกียร์และไฟชิฟท์ไลท์มาให้ด้วย ตัวแฟริ่งนั้นก็ได้มีการปรับมาใหม่ให้ทำแอโร่ไดนามิกได้ดีขึ้นกว่าเดิม และมีการติดตั้ง Assist and Slipper Clutch ที่จะช่วยลดการล็อคของล้อหลังและท้ายปัด เวลามีการเชนเกียร์จากสูงไปเกียร์ต่ำในระยะเวลาอันรวดเร็ว โช้คอัพด้านหลังแบบใหม่ที่นอกจากจะลดแรงสะเทือนได้ดีกว่าเดิมแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมให้ดีขึ้นด้วย

31Tt68.jpg

นอกเหนือไปจากพวกฟีเจอร์ต่างๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาเสริมให้ตัวรถนั้นน่าซื้อมากยิ่งขึ้นแล้ว ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะต้องนำมาย้ำกันอีกครั้ง ก็หนีไม่พ้นในเรื่องของรูปร่างหน้าตา การออกแบบของตัวรถนี่แหละ ที่ถือว่าเป็นประตูบานแรกหรือว่า first impression ที่จะทำให้คนอยากสอยกัน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะยุคสมัยไหน การออกแบบตัวรถนั้นก็มีความสำคัญอันดับ 1 มากกว่าในเรื่องของฟีเจอร์และอุปกรณ์เสริมต่างๆ และถึงแม้ว่าทาง Honda เองนั้นจะยังไม่ใส่ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down มาให้ในรุ่นนี้ แต่นั่นก็ทำให้มันมีราคาเพิ่มมากกว่าเดิมไปแค่ 2,000 บาทเท่านั้น ยิ่งทำให้ตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้น ประกอบกับคู่แข่งอย่าง Ninja 400 ก็ไม่มี Upside Down มาให้เหมือนกัน ในขณะที่ R3 คันใหม่นั้นถึงแม้มีมาให้ แต่ก็ยังเสียเปรียบในเรื่องของจำนวน CC ที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก แต่ราคาดูเหมือนจะไม่หนีกันมากนัก

ดังนั้นแล้ว All New Honda CBR500R 2019 ไม่น่าพลาดที่จะเป็นรถที่ขายดีที่สุดนับตั้งแต่ CBR500R โฉมแรกวางขายในปี 2013 และจับตาดูกันให้ดี ว่ามันจะไปตียอดขายของคู่แข่งค่ายได้ขนาดไหน ซึ่งศึกครั้งนี้จะแตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ อย่างแน่นอน!!!