Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เปรียบเทียบ Yamaha NMAX 2021 กับ Yamaha NMAX Connected ต่างกันยังไง?

blank

ประเด็นนี้อาจจะเป็นข้อสงสัยที่เพื่อนๆ หลายคนเกิดขึ้น ว่าจะตัดสินใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ (หรือที่บางคนเรียกว่า มอเตอร์ไซค์ออโตเมติกพรีเมียม) อย่าง Yamaha NMAX เวอร์ชั่นไหนดี? ในเมื่อมันมีตัวเลือกทั้งรุ่นมาตรฐาน Yamaha NMAX 2021 และรุ่น Yamaha NMAX Connected ซึ่งทั้ง 2 รุ่นก็มีราคาค่าตัวแตกต่างกัน ครั้งนี้ทาง GreatBiker จะมาช่วยไขข้อสงสัยให้ครับ

ตารางเปรียบเทียบ Yamaha NMAX 2021 และ Yamaha NMAX Connected

Yamaha NMAX 2021 Yamaha NMAX Connected
เครื่องยนต์ บลูคอร์ 155 ซีซี เทคโนโลยี VVA
เครื่องยนต์ บลูคอร์ 155 ซีซี เทคโนโลยี VVA
สตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
SMART MOTOR GENERATOR
สตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
SMART MOTOR GENERATOR
Stop and Start System Stop and Start System
กุญแจรีโมท Smart Key System กุญแจรีโมท Smart Key System
ไฟหน้าและไฟท้าย LED ไฟหน้าและไฟท้าย LED
ดิสก์เบรก หน้า-หลัง ดิสก์เบรก หน้า-หลัง
ระบบเบรก ABS หน้า-หลัง ระบบเบรก ABS หน้า-หลัง
ระบบ Traction Control
ระบบ Y-Connect
ระบบกันสะเทือนหลังแบบปรับค่าได้


สิ่งที่ทั้ง Yamaha NMAX 2021 และ Yamaha NMAX Connected มีเหมือนกัน

CyctWN.jpg

ก่อนอื่นเลยเราลองไปดูด้วยกันครับว่ามอเตอร์ไซค์ออโตเมติกพรีเมียม ทั้ง 2 รุ่นนี้มันมีอะไรที่เหมือนกันบ้าง? โดยทั้งคู่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 155cc บลูคอร์ แบบมีระบบวาล์วแปรผัน VVA ครับ ซึ่งบอกเลยว่าเครื่องยนต์ลูกนี้นั้น มีความจัดจ้านเอามากๆ ด้วยขนาด cc นี้ ทำงานกับวาล์วแปรผัน ที่จะทำให้ตัวรถนั้น มีอัตราเร่งที่ดีตั้งแต่ต้น-กลาง-ปลาย ครับ เป็นการแก้ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับรถทั่วๆ ไป ที่ไม่มีระบบนี้ ที่จะเน้นไปอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นต้นจัด หรือปลายไหลเท่านั้น แต่กับ Yamaha NMAX ทั้ง 2 รุ่นนั้น หายห่วงในประเด็นนี้

Cycw1V.jpg

สิ่งต่อมาที่ทั้งคู่มีเหมือนกันก็คือ ระบบเบรก ABS ทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ อันนี้ถือว่าเป็นข้อดีมากๆ ของทั้ง 2 รุ่น ที่จัดเต็มในเรื่องของความปลอดภัยมาให้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์คันใหญ่ แต่อย่างที่เกริ่นไปครับ ว่าทั้งคู่นั้นมีเครื่องยนต์ที่จัดจ้าน การเสริมด้วย ABS ทั้ง 2 ล้อมาให้นั้น ก็ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและมั่นใจมากขึ้น

Cyc1AQ.jpg

รวมไปถึงระบบอย่าง Stop and Start System ที่ทั้งคู่ต่างก็มีมาให้เหมือนกัน ซึ่งระบบนี้เหมาะมากกับการใช้งานในเมือง โดยเฉพาะจังหวะที่ต้องหยุดรถบ่อยๆ เพราะมันจะทำการดับเครื่องยนต์ให้อัตโนมัติ และติดเครื่องยนต์ทันทีเมื่อเราบิดคันเร่งออกไป มีผลกับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง แต่หากใครที่เดินทางไกลๆ ก็สามารถเลือกปิดระบบนี้ก็ได้เช่นกันครับ

Cyc3Rv.jpg

และฟีเจอร์อย่าง ระบบ SMART MOTOR GENERATOR (ช่วยให้รถสตาร์ทได้อย่างรวดเร็วทันใจ และมีความเงียบ), ระบบ Smart Ket (กุญแจรีโมท พร้อมระบบ Answer Back ค้นหาตำแหน่งที่จอดรถ), ช่องชาร์จแบตฯ มือถือ ทั้ง 2 รุ่นต่างก็มีมาให้เหมือนกัน

นอกจากนั้นแล้ว ทั้งมิติตัวรถ งานดีไซน์ ระบบไฟ และองค์ประกอบทั่วไปของทั้ง 2 รุ่นนั้น เรียกได้ว่าไม่แตกต่างกันครับ

แล้วสิ่งที่ Yamaha NMAX 2021 และ Yamaha NMAX Connected แตกต่างกันล่ะ?

อย่างแรกเลยก็คือในเรื่องของราคาครับ (แน่นอนล่ะ) โดย Yamaha NMAX 2021 จะมีราคาแนะนำอยู่ที่ 87,400 บาท ส่วน Yamaha NMAX Connected จะมีราคาแนะนำอยู่ที่ 91,900 บาท ซึ่งหากจะมองถึงความคุ้มค่าแล้ว รุ่น Yamaha NMAX Connected ที่มีราคาบวกเพิ่มไป 4,500 บาทนั้น ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเอามากๆ ด้วยเหตุผลด้านล่างนี้ครับ
CygSr1.jpg
แล้วอะไรที่ทำให้ Yamaha NMAX Connected นั้นแพงกว่า? อย่างแรกเลยก็คือเจ้าคำว่า Connected ที่ติดมากับชื่อรุ่นนี่แหละครับ เพราะมันเป็นคำที่บ่งบอกว่ารถรุ่นนี้ มีการติดตั้งระบบ Y-Connect มาให้ด้วย แล้วเจ้าระบบนี้มันคืออะไร?

ระบบ Y-Connect จะทำหน้าที่เป็นเหมือนกับผู้ช่วยส่วนตัวของเราครับ สำหรับการใช้งานจริง ซึ่งจะประกอบไปด้วยฟีเจอร์ย่อยต่างๆ ในตัวดังนี้

  1. METER INDICATOR – แจ้งเตือนการติดต่อเข้ามือถือ ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นครับ เช่นถ้ามีใครโทรศัพท์เข้ามาหาเรา ในขณะที่เรากำลังขี่รถอยู่นั้น ระบบก็จะแสดงสายเรียกเข้าบนหน้าจอทันที ไม่ต้องจอดเพื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาให้เสียเวลา หรือเสี่ยงต่ออันตรายแต่อย่างใด เพียงแค่เหลือตาไปมองหน้าจอ ก็จะทราบแล้ว ก่อนตัดสินใจว่าจะรับสายหรือยังไงต่อได้ครับ
  2. MAINTENANCE RECOMMEND – แจ้งเตือนการบำรุงรักษา ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ที่สำคัญมากๆ เพื่อที่เราจะได้ไม่ลืมในการเข้าบำรุงรักษาตามระยะ
  3. MALFUNCTION NOTIFICATION – แจ้งเตือนเครื่องยนต์กรณีพบปัญหา อันนี้ก็ช่วยได้มากครับ ถ้าเกิดเครื่องยนต์ของรถเรา มีความผิดปกติขึ้นมา ก็จะได้ทราบทันที
  4. FUEL CONSUMPTION – แสดงข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้เราได้ทราบอัตราการใช้น้ำมัน และวางแผนได้อย่างถูกต้องสำหรับการเดินทาง
  5. REVS DASHBOARD – แสดงมาตรวัดสมรรถนะขณะขับขี่ เพื่อให้เราได้ทราบถึงข้อมูลการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์ในการขับขี่แบบ Real Time อย่าง ระดับการเปิดของลิ้นเร่ง – จำนวนการหมุนของเครื่องยนต์ต่อนาที – อัตราเร่งวัดการขับขี่แบบประหยัดพลังงาน – อุณหภูมิหม้อน้ำ – อุณหภูมิอากาศในห้องเครื่อง อันนี้ถือว่าละเอียดเอามากๆ
  6. PARKING LOCATION – แสดงตำแหน่งจอดรถล่าสุด ตรงนี้เอาไว้ช่วยให้เราไม่ลืมว่า ล่าสุดเราจอดรถไว้ตรงไหน สำหรับคนที่เผลอลืมไป
  7. RANKING – แสดงอันดับในการขับขี่ สามารถแสดงการจัดอันดับในการขับขี่ เปรียบเทียบกับผู้ขับขี่ยามาฮ่าทั่วโลกในรุ่นที่มี Yamaha Y-Connect เช่นกัน โดยเลือกดูได้ทั้งโหมดระยะทาง และการขับขี่แบบประหยัดพลังงาน เหมาะทั้งสายเดินทาง และสายเน้นการประหยัดเชื้อเพลิงครับ ให้เรารู้ว่าการใช้งานของเราเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ เน้นความสนุกสนานและความท้าทายไปในตัว
  8. CONTACT FORM – ช่องทางการติดต่อยามาฮ่า สามารถติดต่อส่งข้อมูลแจ้งเรื่อง หรือปัญหาให้ทางยามาฮ่า หรือผู้จำหน่ายทราบเบื้องต้นได้จากแอปพลิเคชัน เพิ่มช่องทางในการติดต่อให้สะดวกรวดเร็วขึ้น ก่อนเข้ารับบริการในขั้นตอนต่อไป

CygBmJ.jpg
และความแตกต่างต่อมาก็คือ ระบบ Traction Control ครับ ซึ่งระบบนี้จะมีให้เฉพาะรุ่น Yamaha NMAX Connected เท่านั้น โดยระบบ Traction Control นั้น จะช่วยป้องกันอาการล้อหมุนฟรี ปรับความสมดุลระหว่างการหมุนของล้อหน้าและล้อหลัง ให้ทำงานสัมพันธ์กัน เช่นในกรณีที่เราต้องไปเจอกับทางลื่นๆ ด้วยน้ำที่ขัง ฝนตกเฉอะแฉะ หรือทางกรวดทางทราย ถ้าไม่มีระบบนี้ ล้อหน้าหลังอาจจะมีโอกาสหมุนไม่พร้อมกัน ทำให้รถมีเสียอาการจนล้มได้ แต่เมื่อมีระบบนี้ ก็ขี่ได้อย่างมั่นใจครับ รวมไปถึงระบบกันสะเทือนหลังในรุ่น Yamaha NMAX Connected นั้น สามารถปรับระดับแข็งอ่อนได้

CygNs9.jpg

สรุปแล้ว เลือกรุ่นไหนดี?

Cyckzk.jpg

ทั้ง 2 รุ่นนั้น เรียกได้ว่า ต่างก็เป็นรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ที่น่าใช้ทั้งคู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่น Yamaha NMAX 2021 มาตรฐาน ก็ถือว่ามีฟีเจอร์ต่างๆ จัดหนักจัดเต็มมาอย่างเพียงพอต่อการใช้งานจริงแบบเหลือๆ แล้ว เพียงแต่ว่ารุ่น Yamaha NMAX Connected นั้น จะเสริมความสะดวกสบายด้วยระบบอัจฉริยะอย่าง Y-Connect ที่เหมือนเรามีผู้ช่วยติดตัวในการใช้งานตลอดระยะทาง และระบบที่เสริมปลอดภัยขั้นกว่าอย่าง Traction Control ดังนั้นแล้วก็คงจะต้องอยู่ที่ไลฟ์สไตล์การใช้งาน และงบประมาณของเพื่อนๆ แต่ละคนแล้วล่ะครับว่า รุ่นไหนจะตอบโจทย์เราได้ดีที่สุด

CycQx1.jpg
CygK0R.jpg

ซึ่งไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ทั้งคู่ก็ได้การรับประกันจากทาง Yamaha แบบเต็มๆ ถึง 5 ปี (หรือว่า 50,000 กม.) ที่จัดว่าเยอะสุดในท้องตลาดตอนนี้แล้ว และไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์รุ่น Yamaha NMAX 2021 หรือ Yamaha NMAX Connected ก็เรียกได้ว่าประสิทธิภาพและความคุ้มค่านั้น “มาเต็ม MAX” ทั้งคู่ครับ!

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

หรือถ้าอยากเช็คโปรโมชั่นล่าสุด ก็สามารถเข้าดูได้ที่นี่ครับ