Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

ยามาฮ่า ปลื้มยอดขาย 2565 เตรียมชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 16.5% ในปี 2566

blank

ROAD TO SUCCESS ตอกย้ำสินค้าคุณภาพ รุกขยายโชว์รูมรูปแบบใหม่เพิ่มเป็น 170 แห่งในปีนี้

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ได้ประกาศความสำเร็จสินค้าครองใจชาวไทยในปี 2565 โตขึ้น 6.9% สร้างยอดจำหน่าย 284,000 คัน เดินหน้ารุกตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยต่อเนื่องในปี 2566 คาดการณ์ ตลาดรวมเท่ากับปี 2565 ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดรวมเป็น 16.5% มั่นใจสินค้าครองใจชาวไทยครบทุกเซกเมนต์ เสริมความแข็งแกร่งเครือข่ายผู้จำหน่าย ขยายโชว์รูปแบบใหม่ New YAMAHA SQUARE เพิ่มเป็น 170 แห่งภายในปีนี้ พร้อมสร้างความเป็น Premium Brand เพื่อสร้าง Lifetime Customer โดยการยกระดับประสบการณ์มัดใจลูกค้าด้วย 6 กลยุทธ์หลักสู่เป้าหมายการตลาดปี 2566

Lj2uBQ.jpg

โดยงานได้จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยพร้อมก้าวสู่อนาคต ตามคอนเซ็ป ROAD TO SUCCESS ของทางยามาฮ่า ที่จะเน้นไปเสริมความแกร่งของแบรนด์ ด้วยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จและสามารถสร้าง Lifetime Customer ด้วยการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วย 6 กลยุทธ์ ดังนี้

Lj287g.jpg

1.เดินหน้าพัฒนา New YAMAHA SQUARE ตั้งเป้าในการปรับเปลี่ยนโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ด้วยดีไซน์ใหม่ และทันสมัยจาก 89 โชว์รูมทั่วประเทศในปี 2565 และพร้อมเดินหน้าพัฒนาโชว์รูม New YAMAHA SQUARE เพิ่มขึ้นเป็น 170 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้ เพื่อยกระดับการขาย และการบริการ เพิ่มความประทับใจและความพึงพอใจให้กับลูกค้า

Lj26qS.jpg

2.เสริมความแกร่งพัฒนาบริการหลังการขายในระดับ Pro Care สร้างความแตกต่างของการบริการ และเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วยการวิเคราะห์ปัญหาด้วยเครื่องมือ Yamaha Diagnostic (YDT) ได้ถูกต้องและชัดเจน สามารถเก็บข้อมูลเข้าสู่ระบบ ID Card Reader พร้อมกับการแจ้งเตือนเข้ารับบริการผ่านช่องทาง LINE OA

Lj2HgW.jpg

3.พัฒนากิจกรรม Lifestyle กลุ่ม YAMAHA Club เพิ่มกิจกรรมที่ตอบโจทย์และโดนใจของกลุ่มลูกค้ายามาฮ่าที่หลากหลาย พร้อมสนับสนุน Customer Club ในทุกพื้นที่ และสร้าง Community ที่แข็งแรง เพื่อสร้างความประทับใจ และความผูกพัน ตลอดจนสามารถรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ผ่านทาง Application YAMAHA SMART REWARD

Lj2V22.jpg

4.ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ด้วยการตลาดด้วยรูปแบบ Digital Marketing พัฒนาและสร้าง Online Touchpoint เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้า ที่ตรงกลุ่มลูกค้า สามารถวิเคราะห์ความต้องการในด้านต่างๆ ของลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย และลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารผ่านระบบ LINE OA พร้อมสามารถลิงก์กับ SMART REWARD และ Y-CONNECT ได้อย่างง่ายดาย

Lj2XF1.jpg

5.เดินหน้าเสริมความมั่นใจสินค้า และกล้ารับประกันสินค้า 5 ปี หรือ 50,000 กม. เดินหน้าสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในการรับประกันสินค้ามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ด้วยระยะเวลาการรับประกัน ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และสำหรับในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์ เรากล้าให้การรับประกัน 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง เพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินในซื้อสินค้าเพื่อที่จะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม

Lj2GG9.jpg

6.เดินหน้าการตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยเป็นการใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมในแต่ละเซ็กเมนต์ตรงตามความต้องการ เพื่อเข้าถึงและโดนใจลูกค้า โดยยามาฮ่าเสริมความแข็งแกร่งในกิจกรรมทั้งก่อน และหลังการขายให้ครอบคลุมครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเซ็กเมนต์ ได้แก่

  • กลุ่มลูกค้ารถสปอร์ต เน้นไปที่การเจาะกลุ่มในแต่ละพื้นที่ พร้อมเสริมเรื่องสินค้าอะไหล่ตกแต่ง รวมทั้งกิจกรรมที่ส่งเสริม และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
  • กลุ่มลูกค้ารถออโตเมติก เน้นการขยายตลาดแนวกว้าง ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยเน้นการขยายจากตัวเมืองใหญ่ เสริมด้วยกิจกรรมไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้ง และสร้างความเป็น Community ให้ใหญ่ขึ้น
  • กลุ่มลูกค้ารถครอบครัว ขยายตลาด mass ให้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ มีรถจัดแสดงในทุกจุด และเติมเต็มกิจกรรมทั้งหน้าร้านและนอกร้าน โดยร่วมมือกับร้านผู้จำหน่ายทั่วประเทศ

Lj2LBJ.jpg

นอกจากนี้ มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ยังกล่าวถึงความสำเร็จของยามาฮ่าในปีที่ผ่านมาว่า “ก่อนอื่นผมต้องของขอบคุณท่านสื่อมวลชน พันธมิตรทางการค้า ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า และลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกท่าน สำหรับการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างดียิ่งในปีที่ผ่านมา ด้วยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญ และทุกหน่วยงานมีความมุ่งมั่นทำงานร่วมกับยามาฮ่าประเทศญี่ปุ่นวางแผนและพัฒนาสินค้าออกมาอย่างดีที่สุด แม้จะมีปัจจัยเรื่องความไม่แน่นนอนของสินค้าที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนสินค้า ซึ่งเราก็สามารถแก้ไขและสร้างสถานการณ์ให้ดีขึ้น จนสามารถที่จะบรรลุผลประกอบการ และยอดขายประจำปีได้ตามเป้าหมาย

Lj2eqb.jpg

เรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตราสินค้ายามาฮ่าในประเทศไทย และยังคงเน้นย้ำในความสำคัญของบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความแข็งแกร่งกับความเป็นสินค้าพรีเมี่ยมของเรา และสร้างลูกค้าให้อยู่กับเราไปตลอดชีวิต ผมเชื่อว่า ด้วยสินค้าที่เราเตรียมไว้สำหรับปีนี้ และแผนงานที่ได้วางไว้ เราจะสามารถบรรลุเป้าการขาย และส่วนแบ่งการตลาดที่เรามุ่งหวัง และเรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม เหนือกว่าความคาดหวัง ให้กับลูกค้าของเราทุกๆ คนครับ”

Lj2mHf.jpg

โดยในปี 2565 กลุ่มธุรกิจยานยนต์ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิต ทำให้สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด แต่ตลาดรถจักรยานยนต์ยังคงเติบโตขึ้นถึง 11.8% ทำให้มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1,800,583 คัน โดยยามาฮ่ายังคงเสริมความแข็งแกร่งด้วยสินค้าและการบริการหลังการขาย จนสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น 6.9% มียอดจดทะเบียน 283,903 คัน สามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดได้อยู่ที่ 15.8% และกลุ่มรถออโตเมติก โดยเฉพาะ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด คอนเน็กเต็ด ยังคงแข็งแกร่งและสามารถเติบโตจากปีที่แล้วถึง 35% โดยมียอดจดทะเบียนมากถึง 97,446 คัน และกลุ่มรถครอบครัว ยามาฮ่า ฟินน์ ยังคงได้รับความนิยมและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถเติบโตได้ถึง 31% เมื่อเทียบกับปี 2564 จนทำให้มียอดจดทะเบียนสูงถึง 84,871 คัน และ ยามาฮ่า R15 ยังคงรักษาความเป็นรถสปอร์ตยอดนิยมอันดับ 1 ในรุ่น 150 ซีซี ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ศูนย์บริการของยามาฮ่ามีอัตราลูกค้ากลับเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ถือเป็นความสำเร็จและความภูมิใจของทางยามาฮ่า และแน่นอนว่าทางยามาฮ่ายังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดี และสร้างความมั่นใจสู่ความเป็น “Premium Brand” รวมทั้งเสริมสร้างกิจกรรม ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าทั่วประเทศ

blank