Banner-Yamaha-EXCITER-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-EXCITER-2024-400x300.gif

10 อันดับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว

10 อันดับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว

สำหรับรถสกู๊ตเตอร์พลังงานจากแบตเตอรี่ในประเทศไทยนั้น เริ่มมีกลุ่มผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่ค่าพลังงานของประเทศไทยที่พุ่งทะยานแบบต่อเนื่อง จนทำให้หลายๆ คนเริ่มหาพลังงานทางเลือกมาใช้งานกัน แต่ในทางกลับกัน ในกลุ่มประเทศในโซนยุโรปนั้น นอกเหนือจากการที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการใช้งานยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแล้ว ยังมีกฎหมายควบคุมบังคับใช้ในบางพื้นที่ ทำให้สกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นที่นิยมอย่างมาก

ylFbTE.webp

และด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างรวมกัน ทำให้ตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในยุโรปค่อนข้างที่จะมีอัตราการเติบโตที่มาก และมีผู้ผลิตทั้งเก่าและใหม่ พากันออกผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และเราก็ได้ไปเจอกับบทความที่เขียนไว้ใน visordown.com เว็บไซต์ข่าวสารสองล้อที่น่าเชื่อถือระดับ Tier I ได้หยิบยกเอา 10 โมเดลสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน เราจึงขอหยิบยกประเด็นนี้มาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ทราบและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน

ylFlvV.jpg

10. Kymco Ionex I-ONE
เริ่มต้นด้วยผู้ผลิตจากไต้หวัน กับแบรนด์ Kymco หนึ่งในผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์ระดับแนวหน้าของโลก กับโมเดล Ionex I-ONE ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า 5.6 แรงม้า (bhp) พร้อมกับแบตเตอรี่แบบไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยที่ตัวรถจะมีความสามารถในการวิ่งทำระยะสูงสุด 60 กิโลเมตรต่อหนึ่งชาร์จ และใช้เวลาชาร์จแบบไฟ AC แบบปกติจาก 0-80% ในเวลา 6 ชั่วโมง และจะชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 10 ชั่วโมง ส่วนเรื่องราคานั้น Kymco Ionex I-ONE จำหน่ายในสหราชอาณาจักรด้วยราคา 3,499 ปอนด์ หรือประมาณ 148,796 บาท

ylFDBQ.png

9. Yadea G5 S
ถ้าพูดถึงชื่อของ Yadea แล้ว เชื่อว่าจะยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยเท่าไหร่นัก แต่ในประเทศจีนแล้ว แบรนด์จากเมือง Shanghai นี้ถือว่ามีอัตราเติบโตที่ก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก โดยแบรนด์ก่อตั้งมาในปี 2001 และมีแนวทางในการผลิตรถสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งในปัจจุบันจากข้อมูลเมื่อปี 2022 พบว่า Yadea กลายเป็นผู้ผลิตยานยนต์สองล้อลำดับที่ 2 เป็นรองเพียง Honda เท่านั้น โดยโมเดลที่จัดว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าก็คือเจ้า G5 S คันนี้นี่เอง ด้วยยอดการจัดจำหน่ายทั่วโลกปีหนึ่งเกือบ 10 ล้านคัน ด้วยรูปแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยประสิทธิภาพ ตัวรถจะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 5.6 แรงม้า (bhp) และแบตเตอรี่ขนาด 4.1 kWh รองรับระยะทางสูงสุด 115 กิโลเมตร ต่อหนึ่งชาร์จ และมีค่าตัว 3,699 ปอนด์ หรือราวๆ 157,342 บาท โดยประมาณ

ylFAqS.jpg

8. Sunra Robo-S
อีกหนึ่งผู้ผลิตจากประเทศจีน ที่ตั้งสำนักใหญ่ในกรุง Beijing แบรนด์ SUNRA ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1999 และมุ่งเน้นไปที่การผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก โดยผ่านมาตรฐานรับรองที่ได้รับการอนุมัติเช่น EEC, DOT, CE, EPA และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเจ้า Robo-S นั้นจัดว่าเป็นสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้าสมัยใหม่ ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งชุดแบตเตอรี่ที่สามารถถอดสลับไปมาได้ อีกทั้งแบตเตอรี่ยังมีความสามารถในการรองรับการชาร์จเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเพื่อชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% และที่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญคือ แบตเตอรี่ 2 ลูกที่ติดตั้งบนตัวรถ สามารถวิ่งทำระยะสูงสุดได้ถึง 135 กิโลเมตร บนความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเรื่องของราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 3,299 ปอนด์ หรือประมาณ 140,290 บาท พร้อมกับการประกันระบบส่งกำลัง 2 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง ก็เรียกได้ว่ายั่วใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ylFP8n.jpg

7. Horwin SK3
Horwin ผู้ผลิตหน้าใหม่จากประเทศจีน ที่ไม่ธรรมดา นำเสนอ SK3 สกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัยที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี ตัวรถได้รับการออกแบบให้โฉบเฉี่ยวตามสไตล์ของสกู๊ตเตอร์แบบสปอร์ต มาพร้อมกับไฟ LED รอบคัน หน้าจอแสดงผลแบบ TFT คุณสมบัติในการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น ระบบกุญแจแบบ Keyless ติดตั้งมอเตอร์กำลัง 8.4 แรงม้า (bhp) จัดว่าแรงที่สุดในกลุ่ม และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ทำให้ตัวรถสามารถวิ่งทำระยะได้ไกลถึง 158 กิโลเมตร ซึ่งจัดว่ามีระยะที่ไกลที่สุดในกลุ่มอีกด้วย ราคาค่าตัวอยู่ที่ 3,349 ปอนด์ หรือประมาณ 142,415 บาท

ylF27g.jpg

6. Vespa Elettrica
มาถึงผู้ผลิตระดับตำนานจากประเทศอิตาลี Vespa Elettrica คันนี้เคยถูกนำมาจัดแสดงในประเทศไทยมาแล้วในงาน Motor Expo เมื่อปี 2018 สกู๊ตเตอร์ที่ผสมผสานความโรแมนติกของรูปลักษณ์ที่เป็นรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผนวกเข้ากับแบตเตอรี่ขนาด 4.2 kWh แม้ว่ามันจะไม่ใช่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะน้ำหนักที่หนักถึง 130 กิโลกรัม แต่ตัวรถก็มีระยะทางในการวิ่งที่ 100 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช่จุดแข็งของตัวรถ Vespa Elettrica คือรูปแบบที่ถอดแบบมาจากรถในตำนาน แต่มันก็ยังมีจุดอ่อนที่ทำให้แข่งขันกับผู้ผลิตจากเอเชียได้ยากคือเรื่องของราคาจำหน่าย โดยเจ้า Vespa Elettrica จำหน่ายในสหราชอาณาจักรด้วยราคา 6,305 ปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ราวๆ 267,973 บาท จัดว่าสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว

ylFCgW.jpg

5. Piaggio 1
จากแนวคลาสสิกมาสู่โมเดลร่วมสมัยกันบ้าง กับเจ้า Piaggio 1 ตัวรถได้รับการออกแบบให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์สำหรับคนทั่วไป โดยมีจุดเด่นที่เรื่องของน้ำหนักตัวรถที่เบาเพียง 85 กิโลกรัม และด้วยการเน้นเรื่องของน้ำหนักที่เบา ตัวรถจึงติดตั้งมอเตอร์ที่มีกำลังสูงสุดเพียง 2.6 แรงม้า (bhp) ซึ่งเทียบเท่ากับรถสกู๊ตเตอร์ขนาด 50 ซีซีเท่านั้น และสามารถวิ่งทำระยะได้เพียง 88 กิโลเมตรต่อหนึ่งชาร์จ แต่ก็มีจุดเด่นอื่นเข้ามาเทียบคือเรื่องของราคาจำหน่ายที่เริ่มต้นเพียง 2,700 ปอนด์ หรือประมาณ 114,798 บาท เท่านั้น

ylFu22.jpg

4. Super Soco CPx
Super Soco CPx เป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จที่น่าประหลาดใจของอุตสาหกรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพจากจีนหลายแห่งที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า ย้อนกลับไปในปี 2021 Super Soco CPx เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงรุ่นเดียวที่ติดอันดับ รถมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์ที่จำหน่ายในสหราชอาณาจักร โดยตัวรถติดตั้งมอเตอร์ให้กำลัง 6.4 แรงม้า (bhp) พร้อมกับตัวเลือกแบตเตอรี่ 2 ขนาด พร้อมกับคุณสมบัติที่ใช้งานได้จริงอย่างระบบสมาร์ทคีย์ การเชื่อมต่อตัวรถผ่านช่องเสียบ USB และพอร์ตชาร์จไฟ USB และตัวรถยังมีคุณสมบัติในการวิ่งทำระยะสูงสุด 135 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และมีค่าตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 3,749 ปอนด์ หรือประมาณ 159,345 บาท

ylF6F1.jpg

3.Yamaha NEO’s
พึ่งจะเปิดตัวโมเดลใหม่สำหรับปี 2023 ไปหมาดๆ สำหรับ Yamaha NEO’s จากผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นเพียงหนึ่งเดียวที่ติดในลิสต์นี้ NEO’s เป็นสกู๊ตเตอร์สตาร์ทเตอร์ขนาดเล็กที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่าน CBT (ใบอนุญาตขับขี่เริ่มต้นในยุโรป) ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ผลิตอื่นๆ ที่ตัวรถจะมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ใกล้เคียงกับสกู๊ตเตอร์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ตัวรถมาพร้อมกับมอเตอร์ที่ให้กำลัง 3 แรงม้า (bhp) เทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 50 ซีซี พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 1 kWh สามารถวิ่งได้ไกล 70 กิโลเมตร บนความเร็วสูงสุดจำกัดที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีราคาจำหน่าย 3,350 ปอนด์ หรือประมาณ 142,420 บาท

ylFrTy.jpg

2. Silence S01+
มาถึงผู้ผลิตจากประเทศสเปนกันบ้าง กับ Silence แบรนด์สตาร์ทอัพที่กำลังจะกลายเป็นกระแสหลัก ตัวรถมาพร้อมกับรูปแบบที่ล้ำสมัยทั้งงานออกแบบ โครงสร้าง และเทคโนโลยีที่จัดเต็ม ตัวรถมาพร้อมกับมอเตอร์ขนาด 10 kw ที่สามารถรีดกำลังได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีโหมด Push to Pass ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการหมุนของมอเตอร์ ที่ส่งผลให้ตัวรถสามารถทำความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 7.5 kWh ที่รองรับการวิ่งทำระยะได้ไกลถึง 137 กิโลเมตร ต่อหนึ่งชาร์จ อีกทั้งยังมีการติดตั้งคุณสมบัติระดับพรีเมียมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ระบบกุญแจแบบ NFC ระบบติดตามตำแหน่งตัวรถ และสามารถควบคุมจากระยะไกลได้ แน่นอนว่าคุณสมบัติแบบนี้ ต้องมาพร้อมกับค่าตัวที่ค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ Silence S01+ จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 7,475 ปอนด์ หรือประมาณ 317,783 บาท

ylF8lD.jpg

1. SEAT Mo
เราอาจจะคุ้นเคยกับรถยนต์จากแบรนด์ SEAT แต่เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาแบรนด์สัญชาติสเปนก็ได้ผันตัวมาสร้างรถสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้าเป็นครั้งแรก กับเจ้า Mo ตามหลักการแล้ว SEAT Mo เป็นการแชร์แพลตฟอร์มร่วมกับผู้ผลิตสเปนด้วยกันอย่าง Silence S01 ทำให้คุณสมบัติและรูปลักษณ์หน้าตานั้น มีความใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก แต่ถึงจะมีความเหมือนกันจนไม่อาจจะแยกได้ แต่ SEAT Mo มีจุดเด่นที่เหนือกว่าด้วยศูนย์บบริการและตัวแทนจำหน่ายที่มีมากกว่า อีกทั้งยังมีราคาจำหน่ายที่ย่อมเยากว่า ด้วยสมรรถนะที่เหมือนกัน โดยปัจจุบัน SEAT Mo จำหน่ายในสหราชอาณาจักรด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 5,800 ปอนด์ หรือประมาณ 246,562 บาท

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com

blank