อนาคตของ Kawasaki ZX-14R

เมื่อครั้งหนึ่ง Kawasaki ZX-14R ถูกจัดว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีพละกำลังและความเร็วที่สูงที่สุดในโลก โดยความเป็นตำนานของโมเดลนั้นถูกถ่ายทอดมานานจนกระทั่งการมาถึงของมาตรฐานไอเสีย EURO4 ที่ทำให้โมเดลนี้ถูกยกเลิกการจำหน่ายในโซนยุโรปและไม่เพียงเท่านั้น โมเดลสุดยอดความเร็วสูงนี้ก็ถูกห้ามจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นด้วยเหตุผลที่คล้ายๆ กัน ซึ่งมันก่อให้เกิดคำถามต่างๆ นานถึงการที่ Kawasaki จะนำเอาโมเดลที่เคยสร้างชื่อให้กับตนเองกลับมาในโลกปัจจุบันได้หรือไม่

คำถามนี้ถูกตอกย้ำหนักเข้าไปอีกเมื่อ Suzuki ได้เปิดตัว 2021 GSX-1300R “Hayabusa” รุ่นใหม่ที่ก้าวข้ามกำแพง EURO5 ได้อย่างสวยงาม และเป็นเพียงผู้ผลิตจากญี่ปุ่นเจ้าเดียวที่สามารถขายรถในแนวสปอร์ตทัวร์ริ่งในพิกัดเกินกว่า 1,000 ซีซี ในตลาดยุโรปได้ ซึ่งสิ่งนี้ก็น่าจะเป็นการสร้างประกายความหวังในการพัฒนาในผู้ผลิตญี่ปุ่นด้วยกันเอง จนเกิดคำถามว่าคู่แข่งที่เคยฟาดฟันกันมาอย่าง Kawasaki ZX-14R เองจะกลับมาได้เหมือนกับ Hayabusa หรือไม่

สำหรับปัจจุบันแล้ว Kawasaki ZX-14R ไม่ได้หยุดสายการผลิตไปเลยเสียทีเดียว โดยยังมีกลุ่มประเทศที่ยังไม่มีการวางมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดเหมือนกับยุโรปและญี่ปุ่น (รวมไปถึงอินเดีย) ซึ่งเจ้า ZX-14R เองก็ยังโลกแล่นบนตลาดอเมริกาเหนือ และยังมีการออกโมเดลใหม่ประจำปี 2021 ที่ยังคงรูปลักษณ์และอุปกรณ์ชุดเดิมจากรุ่นสุดท้ายในตลาดญี่ปุ่นในปี 2019 โดยที่เครื่องยนต์นั้นยังคงสามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ 200 แรงม้า (PS) เทียบเท่ากับ H2 SX ซุปเปอร์ชาร์จในพิกัด 1,000 ซีซี ที่ติดตั้งอุปกรณ์ที่ครบครันกว่า ทันสมัยกว่า และราคาแพงกว่า

ถ้ามองว่า Kawasaki จะหยุดพัฒนาเจ้า ZX-14R และพยายามผลักดัน H2 SX ให้เข้ามาแทนที่นั้น อาจจะไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง เพราะถ้าให้วัดกันในการขายแล้ว ZX-14R มียอดการจำหน่ายที่สูงกว่า H2 โดยในปี 2008 ปีแรกที่ H2 เข้าสู่ตลาดนั้น ทำยอดขายสู้กับ ZX-14R ที่ในปีนั้นทำได้ 785 คัน และครองอันดับที่ 15 ของรถมอเตอร์ไซค์ในพิกัดที่มากกว่า 401 ซีซี ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด โดยส่วนหนึ่งปัจจัยหลักของมันก็คือเรื่องราวที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของเจ้า ZX-14R และราคาในการจำหน่ายที่ย่อมกว่า H2 อยู่เกือบๆ ครึ่งล้านเยน ถึงแม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีที่ไม่ทันสมัยเท่า แต่การเป็นตำนาน ก็ยังสามารถขายได้และไปได้ด้วยดีเสียด้วย

ถ้าให้มองในทางการพัฒนาแล้ว Kawasaki เองก็ทำอะไรอีกมากมายกับเข้า ZX-14R โดยส่วนใหญ่แล้วน่าจะตกไปอยู่ที่เครื่องยนต์ โดยทางผู้ผลิตเองไม่มีทางเลือกมากมายนัก เพื่อให้ก้าวข้ามกำแพง EURO5 ที่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์เพื่อการควบคุมการปล่อยมลพิษ หรือทางผู้ผลิตเองจะขยายขนาดเครื่องยนต์เพื่อชดเชยกำลังที่เสียไป ซึ่งหากจะทำอย่างหลังแล้วล่ะก็ ราคาของมันก็จะขยับเข้าใกล้ H2 SX เข้าไปอีก ซึ่งมันอาจจะเกิดความเชี่ยวชานของกลุ่มผู้บริโภค ที่น่าจะเลือกเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ปลอดภัยกว่าการเป็นตำนาน

แต่ส่วนหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้คือยอดขายโดยรวมของโมเดลนั้น เป็นเพียงเศษส่วนที่น้อยมากหากเทียบกับทั้งหมด การทุ่มเทสรรพกำลังในการพัฒนา ทั้งเงินทุนที่ลงไป ก็มีความเป็นไปได้ที่ Kawasaki เองจะมองว่ามันไม่น่าคุ้ม กับยอดการจำหน่ายที่ต่อปีไม่ถึง 3000 คันจากทั่วโลก ก็เป็นไปได้ที่ทางค่ายจะล่ะตำนานไว้ในฐานที่เข้าใจ ในเมื่อเสียงเรียกร้องมากมาย แต่ยอดจากกำไรเพื่อนำไปพัฒนาต่อมันมีน้อยกว่าต้นทุน การตัดจบแบบเป็นตำนานแบบนี้ ก็น่าจะเป็นทางออกที่เราสามารถเข้าใจได้

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.