ข้อมูลที่น่าสนใจของ BMW R18 และ R18 Classic

ยังคงอยู่ในช่วงเวลาของการรอคอยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับการกลับเข้าสู่ตลาด Cruiser อย่างเต็มตัวอีกครั้งของ BMW Motorrad ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติเยอรมัน ซึ่งมีการวางกำหนดการสำหรับการเปิดตัวในวันที่ 3 เมษายนที่จะถึงนี้ ในประเทศเยอรมัน แต่ด้วยสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของ Covid-19 อาจจะส่งผลให้งานนี้ต้องเลื่อนออกไปจากเดิม จึงทำให้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจจากบรรดาข่าวลือต่างๆ ซึ่งต้องบอกว่าทั้งหมดที่เรากำลังจะกล่าวต่อไปนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างในการการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการของผู้ผลิต

BMW R18 “Concept”

มาเริ่มต้นกันที่เครื่องยนต์กันก่อน ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเจ้า BMW R18 และ R18 Classic นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ Flat Boxer 2 ลูกสูบนอน รูปแบบเดียวกับที่ใช้ในรถมอเตอร์ไซค์ใน Series R ของทางค่ายแต่จะมีการปรับขนาดเครื่องยนต์ให้มีความใหญ่ถึง 1,802 ซีซี โดยจะสามารถรีดพละกำลังออกมาได้ 90 แรงม้า (HP) ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 116.5 IB-Ft ที่ 3,000 รอบต่อนาที โดยที่รูปแบบของเครื่องยนต์ของทั้งสองโมเดลนั้นจะมีความเหมือนกันทั้งในแง่ของรูปแบบและประสิทธิภาพ โดยที่รูปแบบของรูปลักษณ์ภายนอกนั้น BMW R18 จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางของ Cruiser แบบดั่งเดิมที่ไม่มีชิ้นส่วนแฟร์ริ่ง และเจ้า BMW R18 Classic จะมาในรูปแบบของ American Touring รุ่นใหญ่ที่ให้อารมณ์เหมือนกับรถช๊อปเปอร์สไตล์อเมริกันที่หลายๆ คนคุ้นเคย

ภาพร่าง BMW R18

มาต่อกันทีเรื่องของมลพิษทางเสียงจากการทำงานของเครื่องยนต์ ถึงแม้ว่าทั้งสองโมเดลจะใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ที่เหมือนกันทุกๆ ประการแต่ทั้งสองโมเดลจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการส่งเสียงคำรามของเครื่องยนต์โดยที่รุ่นมาตรฐานอย่าง BMW R18 นั้นจะมีเสียงจากการทำงานของเครื่องยนต์ที่ 75 dB ในยามเดินเครื่องปกติ และเมื่อเร่งเครื่องแบบเต็มกำลังจะส่งเสียงคำราม 95 dB โดยที่โมเดลแฟร์ริ่งอย่าง BMW R18 Classic ที่มีชิ้นส่วนของแฟร์ริ่งและอุปกรณ์ที่มากกว่านั้นจะส่งเสียงที่ดังกว่าเล็กน้อย โดยจะส่งเสียงขนาด 76 dB ในยามเดินเครื่องยนต์ปกติ และคำรามแบบดังสุดๆในยามเร่งเครื่องเต็มกำลังที่ 96 dB ซึ่งต้องบอกว่าทั้งสองโมเดลนั้นทำการบ้านในเรื่องของการลดมลพิษทางเสียงได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องชื่นชมทีมวิศวกรท่อไอเสียที่ออกแบบและจัดการปัญหาในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของรูปร่างของทั้งสองโมเดลนั้น จะมีขนาดและมิติตัวรถที่ใกล้เคียงกัน โดยทั้งสองโมเดลจะมีระยะความยาวทั้งสิ้น 2,440 มิลลิเมตร เท่ากัน ซึ่งเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Harley-Davidson Soft Tail Slim แล้ว มีขนาดที่สั้นกว่า R18 อยู่ 130 มิลลิเมตร โดยที่น้ำหนักตัวตามข้อมูลที่เปิดเผยจากผู้ผลิตนั้น R18 จะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 345 กิโลกรัม(พร้อมขี่) ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอยู่ถึง 41 กิโลกรัม และเมื่อเทียบกับรุ่นแฟร์ริ่ง R18 Classic กับเจ้า H-D Electra Glide เจ้า R18 Classic นั้นมีความยาวที่ยาวกว่าคู่แข่งอยู่ 40 มิลลิเมตรด้วยกัน ในส่วนของน้ำหนักนั้น R18 Classic จะมีน้ำหนักที่มากกว่ารุ่นมาตรฐานอยู่ประมาณ 20 กิโลกรัมจากอุปกรณ์และแฟร์ริ่งที่มีมากกว่า แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง H-D Electra Glide กลับมีน้ำหนักตัวที่เบากว่าถึง 7 กิโลกรัม

ภาพร่าง BMW R18 Classic

ในส่วนของความกว้าง R18 จะมีความกว้างทั้งสิ้น 949 มิลลิเมตร กว้างกว่า Honda GL1800 Glod Wing อยู่ 24 มิลลิเมตร และเจ้า R18 จะมีความสูงถึงจุดยอดสุดของตัวรถที่ 1,126 มิลลิเมตร โดยที่ R18 Classic จะสูงกว่าด้วยความสูงทั้งหมด 1,342 มิลลิเมตร เพราะมีชิลด์หน้าขนาดใหญ่กว่านั่นเอง

คาดว่าในวันที่ 3 เมษายนนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลมากกว่านี้ ถ้าหากไม่ถูกเลื่อนออกไป ยังไงหากมีข้อมูลเพิ่มเติมพวกเราทีมงาน Greatbiker จะรีบเอามานำเสนอเพื่อนๆในโอกาสต่อไป

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.