Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

รีวิว All New Honda Africa Twin CRF1100L รุ่นใหม่ ทดสอบขับขี่จริง!

blank

หากจะพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์สายทัวร์ริ่งแนวลุยๆ ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากแล้วล่ะก็ ชื่อของ Honda Africa Twin จะต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ด้วยประวัติของตัวรถอันยาวนานของตัวรถ และประสิทธิภาพของมันที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเวอร์ชั่นล่าสุดที่ได้เปิดตัวกันไปในบ้านเราก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็กลายเป็นกระแสในทันที ทาง GreatBiker เลยขออาสานำมันมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันอย่างละเอียด ในทุกๆ แง่มุมของตัวรถและการขับขี่

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับรายละเอียดของตัวรถกันก่อน

CRF1100L Africa Twin Review.00 08 25 26.Still005

All New Honda Africa Twin รุ่นล่าสุดนั้นมาพร้อมกับสโลแกนที่ว่า “True Adventure” ที่ถ่ายทอด DNA จากตำนานแชมป์ดาการ์แรลลี รายการแข่งขันสุดโหดระดับโลก และตัวรถนั้นมีไฮไลท์ที่สำคัญอย่างการอัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่มาอยู่ที่ 1,084cc โดยจะมากกว่าเวอร์ชั่นเดิมถึง 86cc ด้วยกัน ส่งผลให้ตัวรถนั้นมีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 101 HP ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 105 NM ที่ 6,250 รอบต่อนาที โดยที่วาล์วปีกผีเสื้อใหม่และหัวลูกสูบใหม่นั้น จะช่วยทำให้การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศไหลเวียนได้ราบลื่นมากขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าเครื่องยนต์จะมี cc ที่เพิ่มขึ้น แต่น้ำหนักตัวโดยรวมของรถนั้นกลับเบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้

CRF1100L Africa Twin Review.00 02 02 34.Still018

โดยตัวรถจะมี 2 เวอร์ชั่นให้เลือกก็คือเวอร์ชั่นแบบเกียร์ธรรมดา MT และเวอร์ชั่นแบบเกียร์ DCT ในชื่อรุ่นว่า ADVENTURE SPORTS ที่สามารถเลือกได้ทั้งเกียร์แบบออโตเมติก หรือเลือกเปลี่ยนเกียร์เองแบบชิฟท์มือแบบ 6 สปีด

CRF1100L Africa Twin Review.00 02 30 09.Still019

ในส่วนฟีเจอร์ต่างๆ ของ All New Honda Africa Twin ทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา และรุ่น ADVENTURE SPORTS ที่เหมือนกันนั้นก็คือ หน้าจอแสดงผลแบบ TFT Digital แบบทัชสกรีนขนาด 6.5 นิ้ว รองรับการทำงานกับแอพพลิเคชั่น Apple CarPlay ซึ่งสามารถแสดงแผนที่สำหรับการเดินทาง ฯลฯ ได้ และจะมีในเรื่องของโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับได้ถึง 6 โหมดด้วยกันอย่าง Urban ใช้งานปกติในเมือง, Tour สำหรับออกทริป, Gravel สำหรับวิ่งบนทางกรวด และ Off-Road สำหรับการวิ่งในทางฝุ่นทางดิน รวมไปถึงโหมดการขับขี่ User Mode ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งได้อีกถึง 2 โหมดด้วยกัน ทำงานร่วมกับคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire

CRF1100L Africa Twin Review.00 03 27 24.Still013

ส่วนในเรื่องของฟีเจอร์การช่วยเหลือในการขับขี่ต่างๆ นั้นจะประกอบไปด้วยระบบ HSTC (Honda Select Torque Control) ตัวป้องกันล้อหมุนฟรี ที่สามารถปรับระดับได้ถึง 7 ระดับด้วยกัน EEB (Electronics Engine Brake) ควบคุมการทำงานของเอนจิ้นเบรก ที่จะปรับได้ 3 ระดับ และระบบใหม่ล่าสุด Wheelie Control ป้องกันล้อหน้ายก ที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ มีระบบ Cruise Control ล็อกความเร็วของตัวรถขณะขับขี่ (โดยทั้ง 2 รุ่นนั้นจะมีเงื่อนไขในการทำงานที่แตกต่างกันเล็กน้อย) และยังมีระบบ Cornering ABS เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบเบรก ABS ในขณะเข้าโค้ง ที่เสริมเข้ามาอีกด้วย ซึ่งระบบทั้งหมดนี้จะสามารถเปิดและปิดการทำงานได้อย่างอิสระ

CRF1100L Africa Twin Review.00 01 09 40.Still016

ทีนี้ในส่วนของฟีเจอร์ที่มีเฉพาะรุ่นท็อปอย่างรุ่น ADVENTURE SPORTS แน่นอนว่าอย่างแรกเลยก็คือระบบเกียร์แบบ DCT 6 สปีด, ระบบไฟเลี้ยว Cornering Light ที่สามารถเปิดได้เองแบบอัตโนมัติเมื่อเข้าโค้ง และปรับการส่องสว่างตามองศาการเลี้ยวของรถ แฮนด์ปรับอุณหภูมิได้ (Heat Grips) วิลด์ชิลด์หน้าปรับได้ถึง 5 ระดับ พร้อมด้วยช่องชาร์จไฟมือถือ ACC CHARGER ถังน้ำมันขนาดใหญ่ถึง 24.8 ลิตร (ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดาจะจุมาอยู่ที่ 18.8 ลิตร) และที่เป็นไฮไลท์สำคัญก็คือในเรื่องของโช้กอัพหน้า-หลังไฟฟ้า SHOWA ที่สามารถปรับเปลี่ยนการยุบตัวและคืนตัวได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนน (ในขณะที่รุ่นเกียร์ธรรมดานั้นจะเป็นแบบปรับแมนนวล)

และทีนี้ก็ถึงเวลาทดสอบขับขี่จริงกันแล้ว

CRF1100L Africa Twin Review.00 04 37 43.Still012

อย่างที่เกริ่นกันไปว่าน้ำหนักตัวและมิติของ All New Honda Africa Twin นั้นน้อยลงกว่าเวอร์ชั่นเดิม ทำให้ตัวรถนั้นมีความคล่องตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และสามารถคอนโทรลรถได้ง่าย แม้แต่ผู้ที่ยังไม่เคยได้สัมผัสหรือลองขี่มาก่อน ก็สามารถปรับตัวทำความคุ้นเคยกันได้ไม่นาน หรือพูดง่ายๆ ว่ามันขี่ง่ายกว่าภาพที่เราเห็นครั้งแรก การทดสอบขับขี่ในเส้นทางฝุ่นแบบออฟโร้ดนั้นพบว่า การบังคับควบคุมรถสามารถทำได้ง่ายๆ ดั่งใจ ด้วยบาลานซ์ของตัวรถที่ออกแบบมาได้เป็นอย่างดี ทำให้การเอียงรถเข้าโค้ง หรือการขึ้น-ลงเนินนั้นมีความเสถียรเอามากๆ ไม่มีการเสียอาการให้เห็นแต่อย่างใด

CRF1100L Africa Twin Review.00 07 06 39.Still009

ทีนี้เราจะลองนำมาทดสอบในการวิ่งทางไกลๆ ออกทริปกันบ้าง สำหรับรุ่น ADVENTURE SPORTS นั้นถือว่ากำเนิดมาเพื่อการนึ้โดยเฉพาะ ทั้งการออกแบบชิลด์หน้าที่ยกมาค่อนข้างสูง ทำให้เราสามารถวิ่งยืนพื้นด้วยความเร็วสูงได้อย่างสบายๆ แบบลมไม่มาประทะกับตัวเรามากนัก ประกอบกับท่านั่งในการขับขี่ และตำแหน่งของแฮนด์บาร์นั้นออกแบบมาค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว ทำให้ลดภาระความเมื่อยล้าในการขับขี่ไปได้เป็นอย่างมาก แต่รุ่นเกียร์ธรรมดาจะมีชิลด์หน้าที่เตี้ยกว่าพอสมควร ในการวิ่งด้วยความเร็วสูงอาจจะต้องก้มเพื่อหลบลมที่มาประทะตัวเราบ้าง

CRF1100L Africa Twin Review.00 05 21 47.Still011

ในส่วนของอัตราเร่งของทั้ง 2 รุ่นนั้นถือว่ามีความใกล้เคียงกัน ถึงแม้ว่าระบบเกียร์จะเป็นคนละแบบ แต่ด้วยพื้นฐานของเครื่องยนต์เดียวกันทำให้สามารถรีดอัตราเร่งและแรงบิดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม การไต่ความเร็วนั้นหายห่วง กับขุมกำลังในพิกัดนี้สามารถเรียกได้ดั่งใจ แต่แน่นอนว่าในรุ่น ADVENTURE SPORTS ที่มีเกียร์แบบ DCT นั้นจะสะดวกสบายในการขับขี่มากกว่า โดยเฉพาะเมื่อเราเปิดในโหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้การขับขี่นั้นสนุกมากยิ่งขึ้น ในเส้นทางที่อาจจะมีอุปสรรคต่างๆ ทำให้เราไม่ต้องคอยพะวงกับการเปลี่ยนเกียร์แต่อย่างใด

CRF1100L Africa Twin Review.00 03 42 05.Still022

ระบบช่วงล่างถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ในรุ่นเกียร์ธรรมดานั้นออกแบบช่วงล่างมาเพื่อรองรับแรงสะเทือนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เหมาะสมตามแนวทางของรถเอามากๆ แต่ในรุ่น ADVENTURE SPORTS นั้นจะก้าวไปอีกขั้นด้วยระบบกันสะเทือนแบบปรับไฟฟ้า ที่บอกเลยว่ามัน “เทพ” มากๆ อันนี้ทางทีมงานของ GreatBiker ที่มีโอกาสได้ทดสอบกันหลายคนต่างก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ายอดเยี่ยม ช่วยให้การขับขี่นั้นไม่เสียอาการ และลดความสะท้านในการขับขี่ไกลๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงนี้ถือว่าตอบโจทย์สำหรับรถที่เอาไว้ออกเดินทางได้แบบถูกจุดที่สุด

CRF1100L Africa Twin Review.00 07 59 30.Still004

โดยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในรุ่นเกียร์ธรรมดานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 20.8 กม./ลิตร และรุ่น ADVENTURE SPORTS นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 20.4 กม./ลิตร ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้นถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก วัดจากการขับขี่ในหลากหลายสไตล์ที่เราทดสอบกันในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้งทางออฟโร้ด และทางออนโร้ด โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจทีเดียว เมื่อเทียบกับ cc ของตัวรถและลักษณะการใช้งาน แต่หากว่าเอาไปใช้วิ่งในเส้นทางออกทริปยาวๆ เป็นหลัก ก็สามารถทำตัวเลขได้มากกว่า 20 กม./ลิตรอย่างแน่นอน

บทสรุปของ All New Honda Africa Twin CRF1100L

CRF1100L Africa Twin Review.00 08 44 28.Still027

ภาพรวมของรถทั้ง 2 รุ่นนั้นเรียกได้อย่างเต็มปากว่ามันเป็นหนึ่งในรถแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งที่ดีที่สุดในยุคนี้ กับการพัฒนาตัวรถมาอย่างยาวนาน ไล่เรียงมาจนถึงในรุ่นปัจจุบันนี้ ที่ถือว่าได้ปรับปรุงแก้ไขในหลายๆ จุดของตัวรถให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และมันเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มองหารถดีๆ สักคันเอาไว้ออกเดินทางไกล เพราะเมื่อเราถึงจุดหมายแล้วร่างกายของเราจะไม่เมื่อยล้ามากนักแต่อย่างใด ทำให้สามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อเนื่องได้ อีกทั้งระบบความปลอดภัยและตัวช่วยเหลือในการขับขี่ต่างๆ ก็ทำให้การขับขี่นั้นทั้งสนุกและสะดวกสบายเอามากๆ เชื่อว่าผู้ที่ได้ครอบครองมันจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

CRF1100L Africa Twin Review.00 09 01 24.Still024CRF1100L Africa Twin Review.00 00 59 11.Still017
CRF1100L Africa Twin Review.00 02 48 03.Still020
CRF1100L Africa Twin Review.00 03 35 37.Still014
CRF1100L Africa Twin Review.00 06 52 23.Still002
CRF1100L Africa Twin Review.00 07 15 36.Still007
CRF1100L Africa Twin Review.00 07 17 42.Still003
CRF1100L Africa Twin Review.00 07 39 00.Still028

CRF1100L Africa Twin Review.00 07 49 28.Still023

CRF1100L Africa Twin Review.00 09 09 47.Still025
CRF1100L Africa Twin Review.00 09 22 32.Still026

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางบริษัท A.P. Honda ที่เอื้อเฟื้อรถในการทดสอบขับขี่ครั้งนี้ และในโอกาสต่อไปทาง GreatBiker จะนำรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ มารีวิวให้ได้ชมกันอีกอย่างแน่นอน อย่าลืมติดตามกันให้ได้นะครับ