เปิดตัว Norton V4CR คาเฟ่เรซเซอร์ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น

ดูเหมือนว่าการเข้ามาถือครองบริษัทโดย TVS Motors ผู้ผลิตจากประเทศอินเดียนั้น จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแนวทางของแบรนด์ Norton ไปเสียทีเดียว โดยยังคงรักษาแนวทางของผู้ผลิตในระดับพรีเมี่ยม ที่เน้นประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหลักเช่นเดิม

ล่าสุดบริษัทสัญชาติอังกฤษ ที่มีเจ้าของเป็นคนอินเดียนั้น ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Norton V4CR รถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางคาเฟ่เรซเซอร์ ที่ใช้พื้นฐานหลายๆ อย่างจาก V4SV รถในแนวทางซุปเปอร์ไบค์ของบริษัท โดยที่ตัวรถจะเป็นการผลิตขึ้นมาด้วยมือเกือบทั้งคัน และวางตัวให้เป็นโมเดลแบบพิเศษที่มีการผลิตในจำนวนที่จำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น

มาดูสิ่งแรกที่งานออกแบบภาพนอก ตัวรถจะมาพร้อมกับแนวทางคาเฟ่เรซเซอร์ ที่ให้อารมณ์แบบ neo-retro sports โดยที่ชื่อรุ่น V4CR เป็นการเล่นกับกลุ่มคำสองส่วน แยกออกเป็น V4 ที่บ่งบอกว่าตัวรถจะใช้งานเครื่องยนต์แบบ 4 ลูกสูบ V4 และ CR ที่เป็นคำย่อมาจาก cafe racer นั่นเอง

หัวใจหลักของโมเดลนี้คือขุมกำลังเครื่องยนต์แบบ V4 ที่เป็นการยกเอาเครื่องยนต์จาก V4SV ซุปเปอร์ไบค์ของทางค่าย โดยจะใช้เครื่องยนต์แบบ V4 72 องศา วาล์วไอดีไทเทเนียม ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักที่ 82 มิลลิเมตร x 56.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.6:1 ระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ แบบ 8 รู ระบบ Ride-by-Wire ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 3 โหมด และ User Mode ที่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้เองอย่างอิสระอีก 2 โหมด

ในขณะที่กำลังของเครื่องยนต์นี้ จะอยู่ที่ 185 แรงม้า (bhp) ที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตรที่ 9,000 รอบต่อนาที ซึ่งดูแล้วตัวรอบค่อนข้างสูง แต่ทางผู้ผลิตได้พัฒนาระบบช่วยเหลือเครื่องยนต์ ที่สามารถปิดการทำงานของกระบอกสูบคู่หลัง ในช่วงรอบต่ำ และจะเปิดการทำงานเองอัตโนมัติในย่านความเร็วกลางถึงสูง ซึ่งระบบนี้สามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดการทำงานได้อย่างอิสระ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

ในเรื่องของแชสซีนั้น จะมาพร้อมกับโครงสร้างแบบ Aluminium tubular ที่เชื่อมด้วยมือ ขัดรอบเชื่อมด้วยมือ Aerospace แบบ 5 แกน จะเป็นงาน CNC ที่กลึงและตัดด้วยมนุษย์ โดยใช้องค์ความรู้ในการผลิตจากรถแข่งในรายการ TT Isle Of Man ในขณะที่ระบบช่วงล่างด้านหน้านั้นจะเลือกใช้โช้คหัวกลับ Öhlins NIX30 ขนาด 43 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนหลัง Öhlins TTXGP ที่สามารถปรับระดับได้อย่างเต็มที่ และยังสามารถปรับระดับ Pre-Load ได้ด้วยระบบไฮดรอลิก โดยมีสวิงอาร์มหลังแบบ Single-Side Swingarm ที่ช่วยลดแรงต้านในแนวดิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของระบบเบรกนั้น ด้านหน้าจะเป็นดิสก์คู่แบบกึ่งลอยตัวขนาด 330 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Brembo monobloc ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Brembo ในส่วนของล้อนั้น จะมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือขอบล้ออลูมิเนียมฟอซ OZ racing และขอบล้อคาร์บอน BSTs. รุ่น Manx

ในส่วนของอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์บนตัวรถนั้น Norton V4CR จะมาพร้อมกับระบบไฟ LED รอบคัน หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 6 นิ้ว ที่มีคุณสมบัติในการปรับความสว่างอัตโนมัติ พร้อมกับการปรับเปลี่ยนการแสดงผลตามโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้งาน โดยจะมีด้วยกัน 3 โหมด ประกอบด้วย Wet, Road และ Sport อุปกรณ์ Quick Shift ตัวช่วยในการเปลี่ยนเพิ่มหรือลดเกียร์อย่างรวดเร็ว มีการติดตั้งระบบ traction-control ที่ทำงานร่วมกับแกน IMU แบบ 6 แกน ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ตัวรถจะอยู่ในโค้ง โดยมีระบบ Cornering ABS และระบบ Wheelie control ที่ทำงานร่วมกับแกน IMU ตบท้ายด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Keyless และตัวล็อกคอรถด้วยระบบไฟฟ้า

Dr. Robert Hentschel ซีอีโอของ Norton Motorcycles กล่าวในการเปิดตัวว่า “Norton V4CR คือการแสดงออกถึงการออกแบบที่ไร้ที่ติและประสิทธิภาพที่เร้าใจ เรานำวิศวกรรมของ V4SV มาใช้และถอดเปลือกนอกออกเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่จะได้รับประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่ถูกยับยั้งอย่างแท้จริง V4CR เป็นรถรุ่นใหม่ที่สมบูรณ์แบบคันแรกที่เราสร้างขึ้น ทีมวิศวกรรมและการออกแบบของเราพิถีพิถันในแนวทางของพวกเขา ตั้งแต่ภาพร่างเริ่มต้นไปจนถึงการผลิตตามแนวคิด ไปจนถึงการตกแต่งขั้นสุดท้าย V4CR คือสุดยอดของการเรียนรู้และการลงทุนทั้งหมดของเราในช่วงสามปีที่ผ่านมา และเรายินดีที่ตอนนี้เราสามารถแบ่งปันรสชาติของอนาคตของ Norton ให้กับทุกๆ คนได้”

Norton V4CR จะมีการผลิตเพียง 200 คันเท่านั้น โดยจะมีให้เลือก 2 สี ประกอบด้วย Manx Platinum และ Carbon มีราคาจำหน่ายที่ 41,999 ปอนด์ หรือประมาณ 1,805,439 บาท เพื่อนๆ ที่สนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Norton ได้เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.