อัพเดตใหม่ 2021 Indian FTR ที่ไม่ใช่แค่ปรับสี

หลังจากสร้างความฮือฮาในการเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมา Indian Motorcycle ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่สัญชาติอเมริกัน ก็ได้ทำการอัพเดตโมเดลในตระกูล FTR ที่ถือได้ว่าเป็น Minor Change โดยมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และโครงสร้างใหม่ เพื่อให้ตัวรถนั้นมีความคล่องตัวและประสิทธิภาพที่สูงมากขึ้น

การอัพเดตใหม่ของ 2021 Indian FTR นั้น จะยังคงอยู่บนพื้นฐานเครื่องยนต์ชุดเดิม กับขุมกำลังขนาด 1,203 ซีซี สองลูกสูบ V-Ywin 8 วาล์ว โดยมีระบบจ่ายน้ำมันที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Closed Loop Fuel Injection ให้กำลังสูงสุด 123 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 87 ib-ft และมีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ลูกสูบหลังสามารถปิดการทำงานได้ในย่านความเร็วต่ำ เพื่อสร้างกำลังในการขับเคลื่อนที่ดีกว่า

สิ่งใหม่ที่ทางผู้ผลิตทำการอัพเดตบนตัวรถนั้น จะมีวงล้อใหม่ขนาด 17 นิ้ว โดยจะเป็นวงล้ออัลลอยด์แบบใหม่ ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น อีกทั้งยังมีความสามารถในการหมุนที่เร็วกว่าวงล้อรุ่นเดิม ทำให้ตัวรถสามารถเร่งความเร็วสูงสุดในช่วงเวลาที่สั้นลงได้ โดยรุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมกับยาง Metzeler Sportec รุ่นท็อปเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการหมุนที่สูงที่สุด ไม่เพียงเท่านี้ผู้ผลิตยังมีการปรับขนาดแฮนด์บาร์ใหม่ ProTaper ที่สั้นลงกว่าเดิม 40 มิลลิเมตร เพื่อการควบคุมที่คล่องตัวมากขึ้น บวกกับการปรับองศา steeper rake อีก 25 องศา ทำให้ตัวรถนั้นมีความสามารถในการพลิกตัวที่รวดเร็วขึ้น พร้อมกับปรับระยะยุบตัวของโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับใหม่ ทำให้มีระยะยุบตัวที่ 120 มิลลิเมตร ส่งผลให้เบาะนั่งของตัวรถนั้นลดต่ำลงกว่าเดิม 36 มิลลิเมตร

สำหรับไลน์อัพของโมเดล 2021 Indian FTR ในการขายนั้นจะมีแยกย่อยๆ ออกเป็น 4 รุ่นตามลักษณะที่แตกต่างกันของอุปกรณ์บนตัวรถดังนี้

FTR รุ่นมาตรฐาน
จะมีการอัพเดทตามที่ได้บอกไปด้านบน ตัวรถจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลอนาล็อก สปริงโช้คหลังสีแดง มาพร้อมกับสีสันใหม่ สีดำ Black Smoke ตัดด้วยสีแดง มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 12,299 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.68 แสนบาท

FTR S
ขยับมาสู่รุ่นที่สูงขึ้นในรุ่น S ตัวรถจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 4.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth หรือผ่านช่อง USB สามารถควบคุมการรับสาย การเล่นเพลง และการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ มีโหมดการขับขี่ที่อัพเกรดใหม่ 3 โหมด ท่อไอเสียจาก Akrapovič อัพเดทระบบช่วยเหลือการขับขี่ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบ wheelie control with rear lift mitigation, stability control, traction control และ cornering ABS มีตัวเลือกสองชุดสีประกอบไปด้วย Maroon Metallic และ White Smoke ในราคาจำหน่าย 13,699 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.19 แสนบาท

FTR Carbon
มาถึงรุ่นพิเศษ ซึ่งนับว่าเป็นตัวท๊อปที่สุดในตระกูล FTR ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าทุกรุ่นย่อย และอุปกรณ์ติดตั้งบนตัวรถในระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำมันคาร์บอนไฟเบอร์ บังโคลนหน้าหลังคาร์บอน ระบบกันสะเทือนหน้าหลังจากแบรนด์ Öhlins ท่อไอเสียAkrapovič และชุดป้ายหมายเลขแบบรันนัมเบอร์บนแผงคอ สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 15,599 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.67 แสนบาท

FTR Rally
มาต่อกันที่โมเดลสุดท้าย ในสายตะลุยกันบ้าง กับเจ้า FTR Rally ที่มีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆด้วยการปรับแต่งตัวรถให้มีความสามารถในการขับขี่แบบ Off-Road ที่สูงขึ้น ด้วยวงล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และวงล้อหลังขนาด 18 นิ้ว แบบซี่ลวด แฮนด์บาร์ ProTaper จะมีความสูงกว่ารุ่นทั่วไฟ 50 มิลลิเมตร อำนวยความสะดวกในการยืนขี่ที่มากขึ้น มาพร้อมกับสีสันใหม่ Titanium Smoke ในราคาจำหน่าย 12,999 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.89 แสนบาท

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.