หรือ Indian จะครองความเป็นเจ้าในตลาด Cruiser

ค่อนข้างชัดเจนในช่วงสามถึงปีที่ผ่านมา ยอดการจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ของ Harley-Davidson นั้นตกลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุด CEO ที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวสนานอย่าง Matt Levatich ต้องสละเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุด และเปิดทางให้กับผู้บริหารหน้าใหม่ที่จะต้องแบกภาระกู้วิกฤตของแบรนด์ ตรงกันข้ามกับ Indian ผู้ผลิตรถมอเตร์ไซค์จากประเทศเดียวกันที่นับวันยิ่งทวีความนิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกา แผ่นดินแม่ของทั้งสองแบรนด์ที่เป็นเหมือนคู่กัดกันมาอย่างยาวนาน

2019 Indian Challenger

ปฎิเสธไม่ได้ว่า Indian เองก็เป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานพอๆ กับ Harley-Davidson แต่ด้วยเสน่ห์ต่างๆ ที่อาจจะไม่ดึงดูดกลุ่มผู้บริโภค และในแง่ของราคาที่จัดว่าพรีเมี่ยมกว่า H-D ในระดับหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านๆ มานั้น Indian นั้นนับว่ากลุ่มคนส่วนน้อยในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ ไม่เว้นแม้แต่ในอเมริกา ประเทศบ้านเกิดของแบรนด์ แต่หลังจากการมาถึงของ Indian FTR1200 สถานการณ์กลับเกิดการพลิกผัน ด้วยความนิยมที่พุ่งสูงขึ้น จนผู้ผลิตไม่สามารถประกอบและส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้ทันต่อความต้องการของตลาด จนต้องมีการชะลอตัวการส่งออกโมเดลไปยังประเทศอื่นๆ และเร่งการผลิตเพื่อให้สนองต่อความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่

2019 Indian FTR1200

ส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการส่งให้ Indian FTR1200 และโมเดลอื่นๆ ของ Indian นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็เพราะแคมเปญโฆษณาที่บริษัทได้ทุ่มงบประมาณหลายล้านดอลล่าร์ในการซื้อพื้นที่สื่อในการแข่งขันกีฬาสำคัญๆ ของอเมริกา ทั้งการแข่งขันบาสเกตบอล NBS หรือฮอกกี้น้ำแข็งอย่าง NHL ซึ่งมันชัดเจนว่าการลงทุนในครั้งนี้ บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด จนกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่สนใจรถมอเตอร์ไซค์ในอเมริกา ที่อาจจะต้องจ่ายแพงกว่าแบรนด์ Harley-Davidson แต่ก็ยินยอมพร้อมใจให้กับสินค้าที่ยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง

2018 Harley-Davidson LiveWire

ตรงกันข้ามกับ Harley-Davidson ที่ถึงแม้จะออกแผนงาน More Road For Harley-Davidson ในการเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าหน้าใหม่ โดยเปิดโมเดลทางเลือกอย่างเจ้า LiveWire รถพลังงานไฟฟ้า แต่ก็โดนกระแสต่อต้านจากกลุ่มด้วยราคาที่สูงจนเกินไป และยังมีการเปรียบเทียบกับ Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดจากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำที่จ่ายเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อยก็ได้คุณสมบัติที่สูงกว่า และได้รถยนต์คันงาม ดูสมราคามากกว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ดูจะมีปัญหาจุกจิกคอยกวนใจผู้ใช้อยู่เรื่อยๆ

2020 Indian Scout Bobber

การที่ Indian เดินมาได้ถึงจุดที่ยอดขายประจำปีพุ่งสูงขึ้นกว่า 80% นั้น หากมองไปยังภาพรวมแล้ว มันมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่สืบเนื่องกันต่อยาวเป็นลูกโซ่ ซึ่งอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ Harley-Davidson มียอดการจำหน่ายที่ตกลงไปในอเมริกา ก็คือการออกมาแสดงจุดยืนของประธานาธิบดี Donald Trump ที่ยึดมั่นในนโยบาย American First และคอยแซะ กัด จิก แบรนด์ H-D ในเรื่องของการปิดโรงงานในประเทศและย้ายฐานการผลิตไปยังส่วนภูมิภาค หลังจากเจอวิกฤตเรื่องกำแพงภาษี ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของกลุ่มคนที่มีต่อ H-D นั้นลดลงไปเป็นอย่างมาก และมันตรงกันข้ามกับ Indian ที่ยังคงเดินหน้าผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศแบบไม่ลดกำลังการผลิต และยังแบกรับภาษีบางส่วนไว้เอง และเพิ่มราคในการจำหน่ายขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ซึ่งมันดูเหมือนจะได้ใจคนอเมริกันไปเแบบเต็มๆ จนยอดขายมีการขยับตัวขึ้นสูงอย่างปีที่ผ่านมา

2019 Indian FTR1200S

อย่างไรก็ดีหากมองในภาพใหญ่แแล้ว แบรนด์ Harley-Davidson เองยังคงเป็นแบรนด์ใหญ่ในตลาดโลก ด้วยประวัติศาสตร์กว่า 115 ปี มนต์เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งแนวทางใหม่ที่กำลังจะออกสู่สายตาประชาชนไบค์เกอร์โลกในอีกไม่นานนี้ อาจจะเป็นจุดพลิกให้แบรนด์ H-D กลับมาติดเทรนด์อีกครั้ง และนำพาแบรนด์ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก กลับมาในจุดที่ควรจะอยู่ได้อีกครั้ง ก็เป็นไปได้

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.