Ducati และ Audi เดินหน้า C-V2X เทคโนโลยี

เทคโนโลยีในโลกปัจจุบันมีมากมายหลายอย่าง โดยในโลกมอเตอร์ไซค์แล้วเทคโนโลยีเกี่ยวกับความปลอดภัยในการขับขี่คือเรื่องที่เราทุกๆ คนเริ่มให้ความสนใจกับมันเป็นสิ่งแรก อย่างระบบมาตรฐานเช่นระบบเบรก ABS ที่หลายๆ คนเริ่มให้ความสำคัญกับมันมากขึ้น เช่นเดียวกับ Ducati แบรนด์มอเตอร์ไซค์จากประเทศอิตาลีที่มองเห็นความปลอดภัยจากการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาใส่ไว้ในรถมอเตอร์ไซค์

ตามที่ Ducati ได้สร้างยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า “Safety Road Map 2025” เพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีใหม่ๆในการขับขี่ยานพาหนะที่ปลอดภัย อย่างแผนการขั้นแรกที่จะมีการติดตั้งระบบ ABS ในรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันที่วางจำหน่ายหลังจากปี 2020 เป็นต้นไปตามข้อกำหนด EURO4 และจะต้องมีการติดตั้งระบบ Cornering ABS ในรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเกิน 500 ซีซี ขึ้นไปตามมาตรฐาน EURO5 ซึ่งทาง Ducati เองก็เริ่มทำการทดลองร่วมกับผู้นำด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ บนรถมอเตอร์ไซค์ของทางค่ายไปบางแล้ว

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ว่ามานี้ก็คือ C-V2X หรือเทคโนโลยี Vehicle-To-Everything คือเทคโนโลยีแบบใหม่ที่เป็นการสื่อสารกันระหว่างยานพาหนะและทุกๆ สิ่งไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือแม้แต่คนเดินถนน ซึ่งเริ่มทดลองใช้งานเทคโนโลยีนี้บนรถมอเตอร์ไซค์ของ Ducati ในโมเดล Mulristrasa 1200 Enduro ซึ่งเทคโนโลยีนี้ใช้โลเคชั่น Qualcomm 9150 C-V2X Chipset ในการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนทางแยก และแจ้งเตือนผู้ขับขี่หากมีภัยร้ายเข้ามาใกล้ตัวจนสามารถเกิดอุบัติเหตุได้

โครงข่ายการทำงานของเทคโนโลยี C-V2X

นอกเหนือจากเจ้า Ducati Multistrada 1200 Enduro ที่มีการใช้งานเทคโนโลยี C-V2X แล้ว ยังเริ่มมีการใช้งานบนรถยนต์ของค่าย Audi อย่าง Audi Q7 และ Audi A4 โดยจะมีการขยายเทคโนโลยีนี้สู่แบรนด์อื่นๆ ทั้งในรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ในอนาคต

Audi A

Audi Q7

นี่เป็นการสาธิตที่สมบูรณ์แบบสำหรับกรณีการใช้งานซึ่งเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถช่วยปรับปรุงความปลอดภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในอนาคตได้อย่างมาก” Pierluigi Zampieri ผู้จัดการนวัตกรรมยานยนต์ของ Ducati Motor Holding กล่าว “แท้จริงแล้วการสื่อสาร C-V2X ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญของ Ducati Safety Road Map 2025

เชื่อได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้เราจะได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ที่มีการใส่เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าเทคโนโลยีนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลแล้ว เทคโนโลยีนี้จะไร้ความหมายหากผู้ขับขี่ไม่สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือมองข้ามความปลอดภัยของตัวเองและผู้ร่วมใช้งานถนน ดังนั้นแล้วต่อให้มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือขนาดไหนหากเรายังตั้งตัวอยู่ในความประมาท ก็คงห่างไกลคำว่าปลอดภัยอยู่ดี

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก  www.motorcycle.com

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.