Banner Yamaha FINN 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN 2024 400x300

เจาะลึกรายละเอียด 2022 Ducati Scrambler 1100 Tribute Pro และ Scrambler 800 Urban Motard

เจาะลึกรายละเอียด 2022 Ducati Scrambler 1100 Tribute Pro และ Scrambler 800 Urban Motard

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Scrambler ที่เปรียบเสมือนแบรนด์ย่อยที่แยกส่วนการทำตลาดจากแบรนด์หลักอย่าง Ducati นั้นมีการผลิตที่ยาวนานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1962 จนถึงล่าสุดในปี 2022 ทางบริษัทก็ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ต่อสินค้าที่ยอดเยี่ยมอย่างเจ้า 2022 Ducati Scrambler 1100 Tribute Pro และ Scrambler 800 Urban Motard ที่เราจะมาเจาะลึกไปถึงรายละเอียดที่น่าสนใจของทั้งสองโมเดล

2022 Ducati Scrambler 1100 Tribute Pro

30d36ac06bfb2e7736cd1cd3509434ab.jpg

ในปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ Scrambler จาก Ducati นั้นมีขนาดความจุเครื่องยนต์ให้เลือกกันถึง 3 ขนาด โดยจะเริ่มต้นที่รุ่นเล็กสุดที่มีขนาดความจุ 400 ซีซี ในรุ่น Sixty2 ที่เน้นการทำตลาดในละแวกโซนเอเชียและตะวันออกกลาง ขยับมาที่รุ่นกลางในพิกัด 800 ซีซี และรุ่นใหญ่ที่สุดในกลุ่ม 1,100 ซีซี ซึ่งในปี 2022 นี้ Ducati ได้ดึงเอาเอกลักษณ์จากรุ่นดั่งเดิมของตระกูลมาเป็นแกนหลักในการออกแบบ ที่ผสมผสานความคลาสสิกและทันสมัยไว้รวมกัน

656a898881cfbefadf7a6c4b90ab298f.jpg

โดยรุ่นใหม่ 2022 Ducati Scrambler 1100 Tribute Pro จะอิงการออกแบบมาจาก 250 Scrambler รุ่นดั้งเดิมในปี 1962 และ 750 Sport รุ่นแรก ด้วยการติดตั้งตราสัญลักษณ์ Ducati ที่ข้างถังน้ำมันที่เป็นการยกเอาตราในอดีตกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง อีกทั้งยังมีการออกแบบชุดท่อไอเสียใหม่แบบปลายคู่วางซ้อนกัน ล้อซี่ลวด แฮนด์บาร์ใหม่ ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้เจ้า Scrambler คันใหม่นี้ มีขีดจำกัดในการข้ามผ่านเส้นทางที่มากกว่าเดิม

938a507f727e3cd71be882aa8c3733de.jpg

2022 Ducati Scrambler 1100 Tribute Pro มาพร้อมกับขุมกำลังขนาด 1,079 ซีซี สองลูกสูบ Dwsmo L-Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศ รุ่นใหม่ล่าสุดที่ผ่านมาตรฐาน EURO5 โดยใช้อัตราส่วนการอัด 11:1 ขนาดของ throttle body หรือเรือนเร่งปีกผีเสื้อจะมาพร้อมกับขนาด 55 มิลลิเมตร ให้กำลังสูงสุด 85 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิด 65 Ib-Ft ที่ 4,750 รอบต่อนาที ทำให้เครื่องยนต์มีความยืดหยุ่นสูงและตอบสนองได้ดี

91f6d31f09fa4dde7c1f94a7adbf64e5.jpg

ท่อไอเสียแบบ 2-into-1-into-2 ประกอบด้วยท่อไอเสียคู่และตัวเร่งปฏิกริยา Catalytic Converters โครงสร้างหลักจะเป็นแบบ Steel-Tubing Trellis มีการวางองศาของ Rake ที่ 24.5 องศา และระยะ Trail ที่ 111 มิลลิเมตร ในขณะที่ระยะฐานล้อจะมีความยาว 59.6 นิ้ว ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบหัวกลับขนาด 45 มิลลิเมตร จากแบรนด์ Marzocchi ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ Monoshock จากแบรนด์ Kayaba

cfded879ec56cc6609a0a90c2c112789.jpg

ระบบเบรกนั้น ด้านหน้าจะมาพร้อมกับจานดิสก์คู่ขนาด 320 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรกแบบ 4 พอร์ต ด้านหลังจานดิสก์เดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร ปั้มเบรกเดี่ยว โดยระบบเบรกทั้งหมดจะเป็นการติดตั้งด้วยอุปกรณ์ระดับสูงจาก Brembo ผนวกเข้ากับระบบความปลอดภัย ABS และ Cornering ABS จาก Bosch เสริมความมั่นใจด้วยยาง Pirelli MT 60 RS แบบเรเดียล ขนาด 120/70-18 และ 180/55-17

c0be272aa46af3aeb75a29abbeab6650.jpg

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ยังคงใช้งานแพ็กเกจที่ยอดเยี่ยมจาก Ducati โดยมีระบบ traction control โหมดการขับขี่ 3 โหมด Active, Journey และ City หน้าจอแสดงผลแบบ LCD ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ Ducati Multimedia System ให้การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน โดยที่ตัวรถจะมีน้ำหนักตัวแบบแห้งที่ 194 กิโลกรัม และเบาะนั่งสูง 31.9 นิ้วทำให้บังคับทิศทางได้ง่ายที่ความเร็วต่ำ และเสริมความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ที่มีสรีระที่ไม่ใหญ่มาก

2022 Ducati Scrambler 800 Urban Motard

2492d57190955332a23ce4f24e2b338e.jpg

800 Urban Motard ใหม่ได้รับการตั้งชื่ออย่างเหมาะสมว่าเป็น SuperMotard มากกว่า scrambler โดยมีงานออกแบบที่คล้ายคลึงกับเจ้า Scrambler Desert Sled ที่เคยสร้างปรากฏการณ์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่มีการเปลี่ยนรูปแบบของยางและสัดส่วนใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่เน้นการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและทางฝุ่น พร้อมกับความสามารถในการเข้าโค้งแบบ Power Slide

4d929c10dc14dc609104d72d3a2982bd.jpg

โดยเจ้า 2022 Ducati Scrambler 800 Urban Motard นั้นจะมาพร้อมกับขุมกำลัง 803 ซีซี L-Twin แบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ โดยมีขนาดกระบอกสูบ 88 มิลลิเมตร และช่วงชัก 66 มิลลิเมตร ให้กำลังสูงสุด 73 แรงม้า (HP) ที่ 8,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 48.8 Ib-Ft ที่ 5,750 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัดสูง11:1 พร้อมกับเรือนปีกผีเสื้อขนาด 50 มิลลิเมตร

e2e2e11a78bf1bafb347c34d39f1913d.jpg

ระบบช่วงล่างจะมาพร้อมกับโซ้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาด 41 มิลลิเมตร และ Monoshock ในด้านหลัง โดยจะเป็นอุปกรณ์จากแบรนด์ Kayasba ในขณะที่ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นแบบดิสก์คู่ขนาด 330 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ 4 พอร์ต ด้านหลังจะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบลอยตัวและลูกสูบแบบแอ็คทีฟหนึ่งลูกสูบ จากแบรนด์ Brembo ทั้งด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบ ABS และ Cornering ABS จาก Bosch

ad4374c7c89369c4d0be9e9ce1fb2d4d.jpg

ในส่วนของอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น แน่นอนว่า 2022 Ducati Scrambler 800 Urban Motard จะมาพร้อมกับระบบ Traction Control ระบบ Engine Brake Control และความสามารถในการเลือกใช้งานเปิดหรือปิดระบบนิรภัย ABS รวมไปถึงระบบช่วยเหลือต่างๆ ทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แบบเพียวๆ โดยตัวรถจะมาพร้อมกับน้ำหนักตัวแบบแห้ง 180 กิโลกรัมที่จัดว่าเบามากๆ เมื่อเทียบกับตัวรถที่มีพิกัดเครื่องยนต์ขนาดไล่เลี่ยกัน

52d8ae8c37fe84a0c70350001c60069c.jpg

สำหรับทั้งสองรุ่นใหม่จาก Ducati นั้น จะมีการเปิดจำหน่ายในโซนยุโรปช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส่วนประเทศไทยนั้นน่าจะมีการทำตลาดกันในช่วงกลางปี 2022 เป็นอย่างช้า สาวกของ Ducati Scrambler ในบ้านเราก็ตั้งตารอกันได้เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก cycleworld.com