สถิติชี้ Marc Marquez คือยอดนักแข่งที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ MotoGP ในปี 2010-2019

คงไม่มีใครกล้าปฎิเสธความยอดเยี่ยมของ “เด็กระเบิด” Marc Marquez ที่ตอนนี้ขยับไล่ล่าแชมป์ที่ 9 ใกล้เคียงกับตำนานที่ยังอยู่ในสนามอย่าง Valentino Rossi ที่ทุกวันนี้ยังคงไล่ล่าความสำเร็จต่อไป ถึงแม้ว่ามันจะดูไกลออกไปทุกที

จากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2010-2019 สิบปีของการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่ดีที่สุดของโลก MotoGP นักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดช่วงเวลา 10 ปี ก็คือ “เด็กระเบิด” Marc Marquez ที่ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นในระดับสูงสุดในปี 2013 แต่เพียงฤดูกาลแรกก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ในทันที โดยการชนะครั้งแรกบนระดับสูงสุดของ Marquez นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 ณ สนาม Austin ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในสนามนั้น Marquez ครองตำแหน่ง Pole Position เป็นครั้งแรก อีกทั้งยังควงแขนคู่หู Dani Pedosa ขึ้น Double Poduim ให้กับทีม Repsol Honda อีกด้วย ซึ่งสนามล่าสุดที่ Ricardo Tormo Circuit ประเทศสเปน สนามสุดท้ายของฤดูกาล 2019 Marquez ก็ยังคงยอดเยี่ยมปิดฉากฤดูกาลด้วยตำแหน่งแชมป์สนาม ควรคู่กับตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่แปดของเจ้าตัว ซึ่งสรุปผลจากการแข่งขันทั้งหมด 180 สนาม ตลอดช่วงเวลา 10 ปี มานี้ Marc Marquez สร้างสถิติชนะมากที่สุดถึง 56 ครั้งนับเป็นเปอร์เซนต์เท่ากับ 31.1% และยังคงสถิตินักแข่งที่อายุน้อยที่สุดที่ชนะในระดับสูงสุดได้ต่อไป และยังเป็นนักแข่งหนึ่งเดียวที่ครองตำแหน่งแชมป์โลกระดับสูงสุด 6 ครั้ง จาก 7 ฤดูกาลที่เข้าร่วม พลาดไปเพียงฤดูกาลเดียวคือ ฤดูกาล 2015 ที่พ่ายแพ้ให้แก่อดีตเพื่อนร่วมทีม Jorge Lorenzo

อันดับที่สอง ไม่ใช่คนอื่นคนไกล นักแข่งหนึ่งเดียวที่สามารถแย่งแชมป์โลกจากมือของ Marquez ได้ นั่นก็คือ “เจ้าอมยิ้ม” Jorge Lorenzo ที่ล่าสุดพึ่งจะเข้าไปคุยสัญญานักแข่งทดสอบกับทีม Yamaha หลังเกษียณตัวเองจากการแข่งขัน สถิติที่น่าสนใจของ “เจ้าอมยิ้ม” กับ 180 สนามของการแข่งขันระหว่างปี 2010-2019 เจ้าตัวชนะไปทั้งสิ้น 42 สนาม โดยชัยชนะแรกเกิดขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2010 สนาม Jerez Circuit ประเทศสเปน และสนามสุดท้ายที่เจ้าตัวชนะก็คือสนาม Red Bull Ring ประเทศออสเตรียในปี 2018 ฤดูกาลสุดท้ายในสีเสื้อ Ducati โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมานั้น Lorenzo คว้าแชมป์โลกระดับสูงสุดไปทั้งสิ้น สามครั้งในฤดูกาล 2010, 2012 และปีสุดท้าย 2015

อันดับที่สาม อีกหนึ่งนักแข่งที่หลายๆ คนยกให้เป็นราชันไร้บังลังก์ “พ่อใหญ่จิ๋ว” Dani Pedrosa อดีตนักบิดลูกหม้อของทีม Repsol Honda วันแมนคลับ ที่ไม่เคยโยกย้ายตัวเองให้ห่างจากสีเสื้อทีมปีกนกเลยแม้แต่ครั้งเดียว Pedrosa มีสถิติชนะทั้งสิ้น 23 ครั้งจาก 180 สนามระหว่างปี 2010-2019 ชัยชนะครั้งแรกที่สนาม Mugello ในประเทศอิตาลี ฤดูกาล 2010 และการชนะครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นที่สนาม Ricardo Tormo Circuit ประเทศสเปน สนามปิดฉากฤดูกาล 2017 ต่อมา “พ่อใหญ่จิ๋ว” ได้ประกาศรีไทร์ตัวเองจากการแข่งขัน และหันเหไปรับหน้าที่นักแข่งทดสอบให้กับโรงงาน KTM จนถึงปัจจุบัน

อันดับที่สี่ “หนูหิน” Casey Stoner นักบิดออสซี่เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัยกับสองต้นสังกัด แต่ถ้านับตามข้อกำหนดแล้วแชมป์แรกกับทีม Ducati เกิดขึ้นในปี 2007 จึงไม่รวมอยู่ในข้อมูลสถิตินี้ โดย Stoner นั้นคว้าชัยชนะแรกได้ที่สนาม Aragon ประเทศสเปน ฤดูกาล 2010 และชัยชนะครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นที่สนาม Philip Island ในฤดูกาล 2012 ก่อนที่จะปิดฉากสายอาชีพพ่อค้าคันเร่งในปี 2012 ด้วยสถิติ ชนะทั้งสิ้น 18 ครั้ง กับอีกหนึ่งแชมป์โลกในปี 2011 ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวกำลังรักษาอาการป่วยด้วยโรค CFS (Chronic Fatigue Syndrome) ที่ยังไม่มีการรักษาให้หายขาดได้ และเราทีมงาน Greatbiker ก็ขอส่งแรงใจให้เจ้าหนูหิน ให้อาการดีขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เหมือนเดิม

อันดับที่ห้า “บ่าววี” Andrea Dovizioso นักบิดอิตาเลี่ยนที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งนักแข่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทีมมากพอๆ กับ Jorge Lorenzo เพราะตลอด 10 ปีมานี้ “บ่าววี” โยกย้ายการตะบันคันเร่ง ให้กับสามทีมใหญ่ ประกอบไปด้วย Repsol Honda (2009-2011),Tech3 (2012) และ Ducati (2013ถึงปัจจุบัน) และตลอดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวลงหวดทั้งหมด 180 สนาม และมีสถิติการชนะทั้งสิ้น 13 ครั้ง โดยชัยชนะแรกที่อาจจะมาช้ากว่าชาวบ้านสักหน่อย เพราะมันเกิดขึ้นที่สนาม Sepang International Circuit ประเทศมาเลเชีย ในฤดูกาล 2016 และชัยชนะครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นที่สนาม Red Bull Ring ประเทศออสเตรเลียในฤดูกาล 2019 ที่ผ่านมา และชั่วโมงนี้นับว่าเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่มีโอกาสในการล้มแชมป์จาก Marc Marquez มากที่สุดหลังจากที่สามฤดูกาลให้หลังมานี้เจ้าตัวจบด้วยอันดับรองแชมป์ได้ทั้งสามฤดูกาลติดต่อกัน

อันดับที่หกตำนานที่ยังอยู่ในสมรภูมิ “พ่อหมอ” Valentino Rossi ยอดนักบิดวัยดึกของ Yamaha ทีม ที่ก่อนหน้าปี 2010 นั้นนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเจ้าตัว หลังจากเดบิวต์ในระดับสูงสุดในปี 2000 Rossi กวาดแชมป์โลกได้ถึง 7 ครั้งบวกกับแชมป์ 125 ซีซี และ 250 ซีซี อีกอย่างล่ะสมัย ทำให้หลายๆ คนคาดว่าจะได้เห็น นักแข่งที่สามารถล้มสถิติแชมป์โลกสูงสุดของ Angel Nieto (13 สมัย) และ Giacomo Agossini (15 สมัย) แต่พอเริ่มฤดูกาลในทศวตรรษใหม่ Rossi ชนะการแข่งขันไปได้ทั้งสิ้น 12 สนาม จาก 180 สนาม ซึ่งชัยชนะครั้งแรกเกิดขึ้นที่สนามเปิดฤดูกาล 2010 ที่สนาม Losail International Circuit ประเทศกาตาร์ และชัยชนะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นที่สนาม Aesan ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปี 2017 และแน่นอนว่า ตั้งแต่ ฤดูกาล 2010 เป็นต้นมาพ่อหมอไม่ได้เฉียดเข้าใกล้แชมป์โลกได้เลย

อันดับที่เจ็ด “ท๊อปกัน” Maverick Vinales นักแข่งสเปนของทีม Yamaha เริ่มต้นระดับสูงสุดกับทีม Suzuki ในปี 2015 และชัยชนะแรกของเจ้าตัวเกิดขึ้นในปี 2016 ที่สนาม Silverstone ประเทศอังกฤษ และชัยชนะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นที่สนาม Sepang ประเทศมาเลเชีย รวมสถิติชนะทั้งสิ้น 7 ครั้ง โดยมี Cal Crutchlow นักแข่งอังกฤษไล่หลังมาด้วยชัยชนะ 3 ครั้ง ในอันดับที่แปด และอันดับที่เก้า Alex Rins กับชัยชนะทั้งสิ้น 2 ครั้ง ส่วนอันดับที่สิบนั้นมีนักแข่งที่มีสถิติที่เท่ากันที่ 1 ครั้ง ประกอบไปด้วย Ben Spies, Jack Miller, Andrea Iannone, และ Danilo Petrucci

ส่วนทำเนียบแชมป์โลกระดับ MotoGP ตั้งแต่ปี 2010-2019 ที่ผ่านมานั้น Marc Marquez ครองแชมป์ได้มากที่สุด 6 ครั้ง ในฤดูกาล 2013, 2014, 2016, 2017, 2018 และ 2019 อันดับที่สอง Jorge Lorenzo สามครั้ง ฤดูกาล 2010, 2012 และ 2015 ส่วนอันดับที่สาม Casey Stonner ฤดูกาล 2011

ค่อนข้างชี้ชัดเจนว่า Marc Marquez นั้นเป็นนักแข่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของ MotoGP และหากเราดูถึงความน่าจะเป็นในอนาคต Marquez นั้นมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์โลกได้มากกว่า Giacomo Agossini ที่ทำไว้ 15 สมัย ในทุกระดับ ซึ่งหากฤดูกาล 2020 นี้จบลงด้วยการคว้าแชมป์โลกครั้งที่ 9 ของ “เด็กระเบิด” Marc Marquez แล้วล่ะก็ เจ้าตัวจะมีสถิติที่เทียบเท่ากับ สามนักแข่งระดับตำนาน Cario Ubiali, Mike Hailwood และ Valentino Rossi และเหลือเพียง 2 นักแข่งที่เป็นกำแพงที่สูงชัน Angel Nieto (13 สมัย) และ Giacomo Agossini (15 สมัย) ซึ่งหากเรามองความเป็นไปได้นั้น ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครที่จะพอเทียบรัศมีของเจ้าตัวได้ และดูเหมือนว่า Marc Marquez กำลังจะกลายเป็นนักแข่งที่ดีที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์ WorldGP ที่เริ่มต้นกันมาตั้งแต่ปี 1949 เลยก็ว่าได้

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motogp.com   www.iwanbanaran.com

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.