ARRC 2019 Round 3 สนามประกาศศักดิ์ดานักบิด A.P.Honda Racing Thailand!!!

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา GreatBiker ได้รับคำเชิญจากทาง AP.Honda Racing Thailand ทีมแข่งอย่างเป็นทางการของ ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Honda ในประเทศไทย ให้ไปเกาะติดสถานการณ์การแข่งขัน ARRC2019 สนามที่ 3 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเราเองก็ไม่พลาดที่ตอบรับคำเชิญอย่างเต็มใจ  มุ่งหน้าสู่สนามช้างฯ เพื่อชมการแข่งขันแบบติดขอบสนาม

การแข่งขัน ARRC2019 หรือ Asia Road Racing Championship การแข่งขันรายการเมเจอร์ระดับเอเชียที่มีนักแข่งมากมายจากทั่วสารทิศเข้าร่วมทำการแข่งขัน ซึ่งในปีนี้ AP.Honda Racing Thailand ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันด้วยกันสองระดับ ประกอบไปด้วย AP250 หรือ Asia Production 250 ซีซี นำทัพโดย “มุกข์” มุกลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่ง หมายเลข 44  “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 149 ที่พึ่งคว้าแชมป์ Asia Talent ที่สนามช้างไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผนึกกำลังกับดาวรุ่งพุ่งแรง “ฟิลม์” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 188 ลงทำการแข่งขันในสนามนี้

“มุกข์” มุกลดา สารพืช  หมายเลข 44

“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 149

“ฟิลม์” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 188

ผลงานของทีมนั้นจัดว่าอยู่ในข่ายที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมาก “มุกข์” ทำเวลาในช่วงการซ้อม FP1-3 ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถคว้าตำแหน่ง Pole Position มาครองได้สำเร็จ ส่วน “ก๊องส์” ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยการคว้าอันดับ 3 ได้ออกสตาร์ทในแถวหน้า เคียงข้างกับนักแข่งรุ่นพี่ และคนสุดท้าย “ฟิลม์” ผลงานดีไม่แพ้กัน ได้ออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 มีลุ้นยืนโพเดียมพร้อมกันสามคนใน Race1

และแล้วก็มาถึงการแข่งขันใน Race1 จังหวะเริ่มเกมส์ “มุกข์” ทะยานออกตัวนำเดี่ยวตั้งแต่โค้งแรก โดยมีรุ่นน้องอย่าง “ก๊องส์” ไล่ตามหลังมาชนิดหายใจรดต้นคอ และการแข่งในครั้งนี้ ทั้งสองคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดูเข้าขากันมาก ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทีม AP.Honda Racing Thailand ที่ทั้ง มุกข์ และ ก๊องส์ สามารถผงาดคว้า Double Podium อันดับ 1 และ 2 มาครองได้ สร้างความยืนดีและชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ส่วน “ฟิลม์” ก็เกือบที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ด้วยการไล่บี้อันดับที่ 3 พร้อมๆ กับนักแข่งจากทั้งไทยและเทศ 5 คน ซึ่งสุดท้าย คว้าอันดับที่ 4 มาครองได้สำเร็จ โดยแต้มในสนาม Home Race ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

ในเกม Race2 นั้น “มุกข์” แชมป์จาก Race1 ดูเหมือนโชคชะตาไม่ค่อยเข้าข้างสักเท่าไหร่ เพราะในจังหวะการ Warm Up ในช่วงเช้าเจ้าตัว พลาดท่า High Side ล้มหลังกระแทกพื้นจนต้องให้เจ้าหน้าที่หามออกจากสนาม แต่เจ้าตัวก็กัดฟันลงป้องกันแชมป์ใน Race2 ทั้งๆที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็มาโชคร้ายซ้ำซ้อน เมื่อลงแข่งขันไปได้เพียง 3 รอบ ขณะที่กำลังขับเคี่ยวอยู่กับกลุ่มหน้า รถแข่งของเจ้าตัวเกิดยางรั่ว จนต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อแชมป์ต้องออกจากการแข่งไป รองแชมป์ก็ต้องทำหน้าที่แทน “ก๊องส์” ตะบึง Honda CBR250RR หนีนักแข่งแถวหน้าจากอินโดนิเชีย เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งรักษาแชมป์ไว้กับคนไทยได้สำเร็จ เพลงชาติไทยกระหึ่มสนามช้างฯ พร้อมด้วยน้ำตาแห่งความปิติยินดีจากแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตที่อยู่ในการแข่งขันครั้งนี้

รุ่นต่อมา ASS600 หรือ Asia SuperSport 600 ทีมได้ส่งสองนักแข่ง “แชมป์” ภาสวิชณ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123 และ “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ หมายเลข 35 ลงทำการแข่งขันหาประสบการณ์สำหรับการแข่งในระดับ Super Sport เพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันครั้งใหญ่ใน ศึก Suzuka 4 Hours ที่ทีม AP.Honda Racing Thailand จะส่งทีมสายเลือดไทยลงทำศึกอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งผลงานใน ASS600 ของทั้งสองคนจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว โดยการแข่งใน Race1 วันเสาร์ “แชมป์” จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 7 ส่วน “นิว” จบในอันดับที่ 11 เรียกได้ว่าพอได้เห็นชั้นเชิงในสนามพอสมควร ส่วนเกม Race2 ในวันอาทิตย์นั้น ทั้งคู่ค่อนข้างจะโชคร้ายไปสักหน่อย หลังจากที่ “แชมป์” พลาดล้มในรอบแรกของการแข่งขัน และไปเกี่ยวเอา “นิว” ร่วงไปด้วยกัน แต่เจ้านิวยังวิ่งไปยกรถ Honda CBR600RR ขึ้นมาแข่งต่อ แต่ก็ไม่จบการแข่งขันหลังจากรถมีปัญหาจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 4 อย่างน่าเสียดาย

นอกจากการแข่งขันใน 4 ระดับหลักของ ARRC2019 แล้ว ยังมี Support Race ที่เป็นการแข่งขันระดับประเทศอย่าง Thailand Talent Cup การแข่งขันที่ใช้เป็นการพิสูจน์ผลผลิตจากโครงการ Race to the Dream ของทาง AP.Honda เพื่อใช้เป็นโครงการในการค้นหานักบิดหน้าใหม่มาประดับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย และมีแผนการใหญ่สำหรับการดันนักแข่งไทยสู่สังเวียนระดับโลกอย่าง MotoGP ซึ่งการแข่งขัน Support Race นี้เป็นการแข่งขันที่หินไม่ใช่เล่น เพราะไม่ได้มีเพียงนักแข่งไทยเท่านั้น ยังมีนักแข่งจากประเทศเพื่อนบ้าน อินเดีย และไต้หวันเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย และรถที่ใช้ในการแข่งขันนั้น เป็นรถที่เป็นสเปกเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขัน CEV Moto3 Junior อย่าง Honda NFS250R ที่ผลิตมาเพื่อใช้ในการแข่งขันเท่านั้น

ผลการแข่งขันใน Race1 ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น สามนักแข่งไทย ติดอยู่ในอันดับ Top 5 นำโดย “การ์ฟิลด์” วัชรินทร์ หมายเลข 4 คว้าโพเดียมอันดับสาม “เก๊ง” บุญยาชัย หมายเลข 3 จบการแข่งขันด้วยอันดับที่สี่ และ ”จิม” ชานนท์ หมายเลข 9 ที่จบการแข่งขันในอันดับที่ 5 สร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญให้กับการแข่งขันในครั้งนี้ และยังคงแรงต่อเนื่อง กับการแข่งขัน Race2 ช่วงสายวันอาทิตย์ ที่ถือเป็นผลงานที่สุดยอดของ “การ์ฟิลด์” วัชรินทร์ หมายเลข 4 และ “เก๊ง” บุญยาชัย  หมายเลข 3 ควงคู่กันขึ้นโพเดียมลำดับ 1 และ 2 สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองและประเทศชาติ อีกทั้งยังสามารถพิชิตใจคนดูด้วยท่าที่ที่ไม่ยอมแพ้

จากภาพรวมการแข่งขันในครั้งนี้ ถือว่านักแข่งในสังกัด AP.Honda Racing Thailand นั้นทำผลงานได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้ และด้วยความที่เป็นสนาม Home Race ศักดิ์ศรีของคนไทยนั้นค้ำคอนักแข่ง นักแข่งต้องลงแข่งขันท่ามกลางความกดดันและแบกความหวังของทีมไว้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จก็มาเยือน สำหรับผู้ที่พยายาม การแข่งขัน ARRC2019 สนามต่อไปจะไปแข่งขันกันที่สนาม Suzuka Circuit ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-30 มิถุนายนนี้ เพื่อนๆ ที่สนใจการแข่งขันก็สามารถเกาะติดแฟนเพจเฟสบุ๊คของทาง Greatbiker ไว้ เรามีข่าวสารความเคลื่อนไหวและลิ้งค์ถ่ายทอดสดมาให้เพื่อนๆ ได้ลุ้นนักแข่งไทยไปพร้อมๆ กัน แล้วเจอกันใหม่สนามต่อไปครับ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณบริษัท AP.Honda ที่เชิญพวกเราไปเกาะติดและได้มีส่วนร่วมกับความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้  

ปั้ม GreatBiker

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.