Banner-Yamaha-EXCITER-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-EXCITER-2024-400x300.gif

ระบบเบรก ABS ของมอเตอร์ไซค์ช่วยชีวิตเราได้จริงหรือไม่?

ctJzgk.png
เพื่อนๆหลายคนคงจะรู้จักระบบ ABS กันพอสมควรแล้ว แต่อาจจะสงสัยอยู่ว่าระบบนี้เกิดขึ้นมาตอนไหน และมันจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้จริงหรือไม่ วันนี้เราจะมาลองหาคำตอบกันเลยครับ

Anti-lock Brake System หรือ ABS มีมานานกว่าที่เราคิดไว้ โดย BMW ได้แนะนำระบบ Bosch ABS เป็นครั้งแรกในปี 1988 โดยติดตั้งในรุ่น BMW K100 และหลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีต่อมา ระบบกลไกนี้ก็ถูกแทนที่ด้วย Electro Hydraulic System ของ Honda ที่ได้ติดตั้งไว้ในรุ่น ST100 ปี1992

จากนั้นก็ใช้เวลาอีก 28 ปี ถึงจะทำให้ระบบนี้กลายเป็นความปลอดภัยมาตรฐานสำหรับมอเตอร์ไซค์ 125 cc. หรือสูงกว่าในสหภาพยุโรป แต่คำถามคือถ้า ABS มีประสิทธิภาพในการช่วยชีวิตจริง ทำไมมันถึงใช้เวลานานมากกว่าจะกลายเป็นมาตรการภาคบังคับ? คำตอบก็คือ เพราะเมื่อเรื่องนี้เข้าสู่การโหวตในที่ประชุมระดับนานาชาติ และชนะการโหวตเพราะได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนมาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ในขณะนัันทุกประเทศจะรู้สึกว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการลดอุบัติเหตุของมอเตอร์ไซค์ จึงทำให้ระบบนี้ใช้เวลานานกว่าจะเป็นที่ยอมรับกันนั่นเอง

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ New Zealand Transport Agency (NZTA) หรือองค์การขนส่งแห่งนิวซีแลนด์ ได้ประกาศยกระดับขึ้นไปอีกขั้น โดยนับจากเดือนเมษายน ปี 2020 เป็นต้นไประบบ ABS จะเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานที่ต้องมีในรถทุกรุ่นที่มีปริมาตรกระบอกสูบมากกว่า 125 cc. ขึ้นไป และ ระบบ Combined Braking หรือ ระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง จะเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานสำหรับรถที่มีปริมาตรกระบอกสูบน้อยกว่า 125 cc. ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์อย่างจริงจังในปีที่แล้ว

ที่นี้ก่อนมาหาคำตอบว่า ABS จะช่วยชีวิตเราได้อย่างไร ลองสมมุติเหตุกาณ์ว่า คุณกำลังเข้าโค้งด้วยความเร็วมากเกินไป มีเพียงสองอย่างเท่านั้นที่คุณทำได้ หนึ่งคือคุณสามารถเบรกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก็ปล่อยให้รถเข้าโค้งไป โดยได้แต่หวังว่าคุณจะผ่านไปได้โดยไม่ล้ม หรือสอง กดเบรกอย่างหนักให้นานขึ้น โดยไม่ปล่อย และจากนั้นก็เข้าโค้งในไลน์ที่กว้างไปจนถึงฝั่งตรงข้ามโค้ง (ซึ่งตามหลักฟิสิกส์และไลน์นี้จะช่วยให้รถกลับมาตั้งตรงได้) โดยทางเลือกสองทางนี้มีความเสี่ยงที่ต่างกันไปตามสถานการณ์แวดล้อม

ดังนั้นระบบ ABS นี้เองที่จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าการเบรกปกติ เพราะความเร็วก่อนเข้าโค้งที่มากเกินไปเป็นปัจจัยหลัก และ ABS มีหน้าที่เดียวคือป้องกันไม่ให้ล้อล็อคจากการเบรคอย่างหนักเพื่อลดความเร็วให้มากที่สุดในจังหวะก่อนจะเข้าโค้งนั่นเอง

แต่เราก็ยังต้องระวังถนนที่ทรุดโทรมด้วยเช่นกัน เพราะนั่นเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ การเจอกับพื้นที่มีน้ำมัน โคลน หรือน้ำแข็งล้วนแต่ทำให้รถเสียการควบคุม และระบบ ABS ก็ไม่อาจช่วยอะไรถ้าหากเจอเข้ากับอุปสรรคเหล่านี้

[youtube https://www.youtube.com/watch?v=XhR8nVkvJaY]

การใช้เบรกระบบ ABS นั้นจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนบ้าง เพราะถ้าหากเกิดสถาณการณ์ขึ้นมา โดยที่ผู้ขับขี่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ก็อาจจะไม่สามารถใช้เบรก ABS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ขับขี่ที่จะต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจให้มากที่สุด เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ส่วนข่าวดีก็คือ เมื่อเร็วๆนี้ Bosch กำลังพัฒนาระบบใหม่ที่ทำงานร่วมกับ traction control ที่เรียกว่า Motorcycle Stability Control (MSC) และ กำลังพัฒนาให้ระบบ Cornering ABS มีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งเราจะได้เห็นกันมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ในขณะที่ระบบใหม่ๆเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะสามารถช่วยแก้ไขสถานการณ์อุบัติเหตุต่างๆ ให้ดีขึ้น ถ้าเราสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ไปถึงจุดที่เสี่ยงอันตราย อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะไม่จำเป็นเลยก็ได้

ในส่วนของสถิติข้อเท็จจริงนั้น จากการศึกษาโดย Monash University ในปี 2015 พบว่า ระบบ ABS ช่วยลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 33% และ ช่วยลดการบาเจ็บสาหัส ได้ 39% และสิบปีที่ผ่านมาในสหราชอาณาจักร มีอุบัติเหตุลดลง 35% ซึ่งมีความสัมพันธ์กับช่วงเวลาที่ ABS ได้เริ่มเข้ามาเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยเสริม สำหรับสถิติหลังจากนั้น บอกได้ยากว่าตัวเลขอุบัติเหตุที่ลดลงเป็นผลมาจากระบบ ABS เพียงอย่างเดียว เพราะ ABS เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งท่ามกลางระบบความปลอดภัยใหม่ๆที่ถูกพัฒนาขึ้นมา

ctJY7l.png

สุดท้ายนี้ ในความเป็นจริงนั้น สถิติก็ไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง แต่สิ่งที่เราแน่ใจได้ก็คือ ABS ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างมีประสิทธิภาพ และมันคงไม่ถูกนำมาใช้หากไม่เป็นเช่นนั้น ไม่ว่ารถคุณจะมีหรือไม่มี ABS สุดท้ายคุณเองก็จะต้องเป็นคนหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเอง ต่อให้คุณมีระบบหรืออุปกรณ์ดีแค่ไหนก็ตามระบบหรืออุปกรณ์เหล่านี้ก็สามารถช่วยได้เพียงแค่บรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น สิ่งที่จะป้องกันไม่ให้มันเกิดได้ ก็คือการตัดสินใจของคุณเอง และการขับขี่แบบไม่ประมาทนั้นก็คือหนทางป้องกันที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก www.visordown.com